บทที่ 9 คมเขี้ยว
หวงหร่างไม่ใส่ใจท่าทีไร้มารยาทของตี้อีชิว ครั้งนี้นางต้องการไปพบคนอีกคน
นางเดินลงมาเรื่อยๆ จนถึงตีนเขา เข้าไปในเรือนเก่าแก่หลังหนึ่ง ที่นี่เป็นร้านค้า ข้างในมียาลูกกลอน ศัสตราวุธ และหญ้าเซียนตั้งวางอยู่มากมาย เนื่องจากสินค้ามีหลากหลายชนิด ดังนั้นแค่โต๊ะคิดเงินก็แบ่งเป็นสี่โต๊ะแล้ว
พอเห็นนางเข้ามา หลงจู๊ทั้งสี่ต่างก็เข้าไปต้อนรับ
หวงหร่างคลี่ยิ้มอย่างสุภาพอ่อนโยน ถามเสียงนุ่มนวลว่า “พี่ใหญ่เซี่ยไม่อยู่หรือ”
พี่ใหญ่เซี่ยที่นางพูดถึงนี้มีนามว่าเซี่ยหยวนซู จะว่าไปแล้วเซี่ยหยวนซูผู้นี้มีความเป็นมาไม่ธรรมดา…เขาเป็นบุตรชายแท้ๆ ของเซี่ยหลิงปี้ ตอนนี้เขาอยู่สำนักชั้นนอก รับผิดชอบดูแลกิจการการค้าบางส่วนของสำนักเซียนอวี้หู
แม้จะเป็นสำนักเซียนอันดับหนึ่ง แต่ศิษย์สำนักเซียนอวี้หูก็มิใช่ว่าจะไม่กินอาหารแดนมนุษย์ ทั้งสำนักชั้นในและสำนักชั้นนอก ผู้คนทุกระดับตั้งแต่เบื้องบนจนถึงเบื้องล่าง รายจ่ายแต่ละรายการล้วนมากมายมหาศาล แน่นอนว่าต้องมีกิจการการค้าเพื่อประคองสำนักให้อยู่รอด
ดังนั้นสำนักเซียนอวี้หูจึงเปิดร้านค้าขึ้นในหลายท้องที่ ร้านค้าตรงหน้านี้ตั้งอยู่บริเวณตีนเขาของสำนักเซียนอวี้หู กิจการดียิ่ง แม้กรมซือเทียนของราชสำนักจะมีสินค้าประเภทเดียวกันก็จริง แต่ของอย่างเดียวกันเมื่อประทับตราสัญลักษณ์ของสำนักเซียนอวี้หูลงไปย่อมมีราคาที่มิอาจเทียบกันได้
…แน่นอนว่าผู้คนทั่วหล้ายังคงเชื่อมั่นในเซียนบนดินที่ฝึกบำเพ็ญเพื่อช่วยเหลือพวกตนเหล่านี้
เซี่ยหยวนซูรับผิดชอบดูแลที่นี่ เดิมทีควรเป็นงานที่เขากอบโกยผลประโยชน์ได้มาก แต่เซี่ยหลิงปี้กลับแต่งตั้งหลงจู๊ด้วยตนเองถึงสี่คน ราวกับกลัวว่าเซี่ยหงเฉินจะวางตัวลำบาก นอกจากนี้ยังจำกัดอำนาจของเซี่ยหยวนซูอย่างเข้มงวด เพราะหลายปีมานี้เซี่ยหยวนซูติดสุราหลงนารี จึงก่อเรื่องเหลวไหลขึ้นหลายครั้ง
และเรื่องนี้ทำให้เซี่ยหลิงปี้ยิ่งไม่ชอบหน้าเขา ความสัมพันธ์ระหว่างพ่อลูกตึงเครียดยิ่งนัก กลับเป็นเซี่ยหงเฉินที่ช่วยเซี่ยหยวนซูปกปิดเพราะเห็นแก่เซี่ยหลิงปี้
พอหวงหร่างถามถึงเซี่ยหยวนซู หลงจู๊ทั้งหลายก็มีสีหน้าลำบากใจ หลงจู๊ใหญ่ตอบว่า “คุณชายใหญ่อยู่ในห้อง ข้าน้อยจะไปรายงานให้ฮูหยินเดี๋ยวนี้ขอรับ”
แม้พวกเขาจะไม่พูด แต่กลางวันแสกๆ คุณชายใหญ่เซี่ยหลบอยู่ในห้องทำอะไร หวงหร่างก็พอจะเดาได้หลายส่วน นางแย้มยิ้มพลางส่ายหน้า
“พี่ใหญ่เซี่ยหาใช่คนอื่น ข้าจะเข้าไปหาเขาเอง” เอ่ยจบก็หิ้วกล่องใส่อาหารเดินตรงเข้าไปยังห้องด้านใน
ในร้านค้าแห่งนี้มีห้องซ่อนอยู่อีก หวงหร่างยังไม่ทันเข้าไปก็ได้กลิ่นหอมของแป้งชาด หลังม่านลูกปัดคลับคล้ายมีเสียงหัวร่อต่อกระซิกของสตรีลอยมา
หวงหร่างเลิกม่านเดินเข้าไป เห็นสตรีสามคนล้อมเซี่ยหยวนซูไว้ แย่งกันจะให้เขาดื่มสุราในถ้วยของตน
ทั้งสามต่างประชันทักษะ บางคนสุราอยู่ในถ้วย บางคนสุราอยู่ในปากเล็กดั่งอิงเถา ยิ่งไปกว่านั้นบางคนเทสุราให้ไหลไปตามลำคอ เพียงพริบตาอาภรณ์ผ้าโปร่งที่บางเบาดุจปีกจักจั่นก็เปียกชุ่ม
พอหวงหร่างเข้าไป สตรีทั้งสามต่างมีท่าทีกระอักกระอ่วนเล็กน้อย เซี่ยหยวนซูกระแอมกระไอเบาๆ แล้วลุกขึ้นทันที จากนั้นก็ไล่สตรีทั้งสามไปด้านข้าง
เขาจัดเสื้อด้านหน้าเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น เอ่ยอย่างสำรวมว่า “น้องสะใภ้ เจ้ามาได้อย่างไร”
เซี่ยหงเฉินอายุน้อยกว่าเขา หากนับดูแล้วหวงหร่างมิใช่น้องสะใภ้ของเขาหรือ ยามอยู่ต่อหน้าหวงหร่าง เซี่ยหยวนซูสำรวมเรียบร้อยมาโดยตลอด…เขามักจะชอบก่อเรื่อง หากมิใช่เซี่ยหงเฉินช่วยเช็ดล้างแทนเขา เกรงว่าเขาคงถูกเซี่ยหลิงปี้ตีตายไปนานแล้ว
เซี่ยหงเฉินรู้นิสัยของเขาดี จึงควบคุมเขาอย่างเข้มงวด ทำให้เซี่ยหยวนซูชิงชังเซี่ยหงเฉิน แต่เขากลับมิกล้าทำตัวเหลวไหลต่อหน้าหวงหร่าง