ชายหนุ่มจ้องมองดวงตาของอีกฝ่ายอย่างลึกซึ้งก่อนพยักหน้า “เว้นแต่นางจะสมัครใจ มิเช่นนั้นข้าจะไม่แตะต้องนางเด็ดขาด รักษาตัวด้วย” จากนั้น เขาก็กระตุกสายบังเหียนควบม้าจากไป
“สมัครใจ? รอไปเถอะ” ราชาจิ้งจอกเหยียดมุมปาก แค่นเสียงเบาอย่างไม่แยแส
“ท่านห้า เข้าไปรอในห้องโดยสารก่อนเถิด คำนวณเวลาดู สุยอวี้ก็น่าจะใกล้ถึงแล้วขอรับ”
“อืม”
ราชาจิ้งจอกเดินเข้าห้องโดยสารบนเรือ ในเรือเล็กหาได้มีปืนใหญ่หรืออาวุธใดๆ ชายฉกรรจ์ไม่กี่คนยืนอยู่ท้ายเรือ หัวเรือก็มีบุรุษหน้าเด็กผู้หนึ่งยืนอยู่ สองมือกอดอกมองกวาดมองรอบด้านไปมา บางคราหันหน้ากลับมามองเข้าไปในห้องโดยสารก็เห็นราชาจิ้งจอกกำลังพลิกหน้าหนังสืออ่านอยู่
เพียงไม่นานเสียงฝีเท้าม้าก็ดังขึ้น ปนเปกับเสียงฝีเท้าย่ำสับสน บุรุษหน้าเด็กเพิ่งจะชะงักงันไปเล็กน้อย ราชาจิ้งจอกก็โผล่มายืนอยู่ข้างๆ เพ่งมองไปทางด้านหน้าแล้ว
“ไจ้อู่”
ฟางไจ้อู่ติดตามราชาจิ้งจอกมานานหลายปี มีหรือจะไม่เข้าใจความหมายของอีกฝ่าย เขากระโดดข้ามไม้กระดานไปก็มองเห็นม้าปรากฏตัวอยู่กลางหมู่ไม้แล้ว ที่ด้านหลังม้าเป็น…นินจา? ดวงตาเขาหรี่ลง แววเหี้ยมเกรียมปรากฏออกมาทันที
นินจารวดเร็วเป็นที่สุด แต่กำลังขาของฟางไจ้อู่ก็มิอ่อนด้อย ขณะที่ออกตัวพุ่งไปข้างหน้า มือก็เลื่อนไปที่เอว ดึงแส้ออกมาหวดไปทางสุยอวี้ที่อยู่บนหลังม้า
“พี่ไจ้อู่ รับไป!” ฝานสุยอวี้หมุนตัวหลบแส้ ทำให้คนที่ฟุบอยู่ข้างท้ายม้าถูกแส้ม้วนพันไป
แม้ฟางไจ้อู่จะรู้สึกประหลาดใจอยู่เล็กน้อย แต่ยังคงกระตุกแส้กลับมา มิได้มองชัดว่าพันใครอยู่ก็เหวี่ยงคนมาหน้าเรือเล็กแล้วกระโดดเข้าร่วมวงต่อสู้อย่างรวดเร็ว
ดูเหมือนบนชุดดำของนินจาเปื้อนคราบเลือด เป็นของใครกัน ของสุยอวี้?
ไม่ใช่ วิทยายุทธ์ของนางแม้จะไม่ก้าวหน้า แต่ยังรับมือกับนินจาไม่กี่คนได้เหลือเฟือ เช่นนั้น…ก็เป็นเลือดของผู้อื่นแล้ว
เป็นของ…ชาวบ้านในหมู่บ้านริมทะเลแถบตะวันออกเฉียงใต้?
ใบหน้าเด็กของฟางไจ้อู่เต็มไปด้วยกระไอหนาวเหน็บบีบเค้น แส้หวดออกไปด้วยความรวดเร็ว เกิดเป็นแสงเงินจำนวนมาก
“สุยอวี้ออกมา” คำพูดเย็นเยียบออกมาจากปากของราชาจิ้งจอก แม้จะอยู่ระหว่างต่อสู้ เสียงของเขาก็ยังคงชัดเจนสามารถแยกแยะได้
ฝานสุยอวี้พยักหน้า ยกกระบองสกัดอาวุธลับ กระโดดออกมาได้ไม่กี่ก้าวก็เกิดลังเล หันหน้ากลับไปอีก
แส้เงินเปื้อนเลือดโบกสะบัด ฟางไจ้อู่เข่นฆ่าจนไร้สติไปอีกแล้ว ทุกครั้งที่เจอกับโจรสลัดวอโค่ว เขาจะเสียสติสัมปชัญญะเช่นนี้ทุกครา
ไม่ช่วยเขาจะดีหรือ
“ข้าบอกให้เจ้ามา ฝานสุยอวี้ หรือเจ้าคิดจะขัดคำสั่งข้า”
นางห่อไหล่ ไม่ลังเลอีก กระโดดออกนอกวง และวิ่งไปหาราชาจิ้งจอกทันที นางดูหน้าตามอมแมมสลดหดหู่อยู่บ้าง นัยน์ตาดำของราชาจิ้งจอกกวาดมองทั่วร่างนางอย่างเย็นชา ก่อนกล่าวว่า “เจ้ายังจำได้หรือไม่ว่าข้าเคยพูดว่าอะไร”
“พี่ห้า…พวกเขาก่อกวนหมู่บ้านริมทะเล ชาวบ้านตายไปตั้งหลายคน…” ฝานสุยอวี้ออกแรงเช็ดคราบเลือดบนหน้า หอบหายใจด้วยความเคียดแค้น
“ข้าก็เคยบอกแล้วอย่างไรว่าเจ้าจะแตะต้องใครก็ได้ เว้นแต่พวกชาวรื่อเปิ่น” น้ำเสียงเขามิได้หนัก มิได้เกรี้ยวกราด แต่โดยปกตินี่หมายถึงว่าเขาเริ่มไม่ชอบใจแล้ว
เรื่องที่ทำให้เขาไม่ชอบใจได้มีน้อยยิ่งนัก แทบจะไม่เคยเห็นเลยด้วยซ้ำ แต่เมื่อใดที่ได้เห็นก็หมายความว่าต้องมีคนเคราะห์ร้ายครั้งใหญ่
“เหตุใดท่านถึงอนุญาตให้ข้าฆ่าใครก็ได้ แต่กลับไม่ให้ฆ่าโจรสลัดวอโค่วแม้แต่คนเดียว” นางกัดฟันคัดค้าน
“เจ้าเคยถามมาหลายครั้งแล้ว และสิ่งที่แน่ใจได้คือเจ้าจะไม่ได้รับคำตอบใดๆ” ราชาจิ้งจอกมองวิธีเข่นฆ่าอันรุนแรงไม่ยั้งมือของฟางไจ้อู่อย่างเฉยชา ก่อนจะยกมือกวักเรียกชายฉกรรจ์บนเรือเล็กพลางกล่าวเสียงเย็น “ไปจัดการซะ อย่าให้เหลือแม้แต่คนเดียว แล้วจับเจ้าทึ่มนั่นกลับมาให้ข้า ต่อให้ทำเขาบาดเจ็บก็ไม่เป็นไร”
ชายฉกรรจ์ไม่กี่คนผงกศีรษะรับคำ ก่อนจะผลุบตัวเข้าร่วมวงต่อสู้ตะลุมบอนอย่างคล่องแคล่วว่องไว