“เจ้าไม่เชื่อฟัง?” เขากลับมาพูดกับนางต่อ ทว่านัยน์ตาดำภายใต้หน้ากากไม่แม้แต่จะมองนาง
“ข้า…ข้า…คำของพี่ห้า ข้าไม่อาจไม่เชื่อฟัง” นางโมโหมากแต่กลับไม่กล้าต่อต้านเขา ผู้มีพระคุณชั่วชีวิต พี่ห้าชั่วชีวิต คำพูดของเขาเท่ากับประกาศิต ถ้าต่อต้านเขาจริงๆ แม้แต่นางเองยังไม่อาจให้อภัยตนเองได้
นางหรี่ตา จ้องมองการต่อสู้ตะลุมบอนที่เบื้องหน้า เหล่าพี่น้องทางนี้เห็นได้ชัดว่าเป็นต่อ ทว่าฟางไจ้อู่กลับตกเป็นรอง ถูกความแค้นเรื่องถูกทำให้บ้านแตกสาแหรกขาดบังตาเข้าอีกแล้วหรือ
“ถ้ามีปืนไฟก็ไม่ต้องลงไม้ลงมือแล้ว” นางพูดเสียงค่อย
“ถ้าพวกเขามีปืน ตอนนี้คนที่ตายก็คือเจ้า” เขาหันหลังเดินกลับเข้าห้องโดยสารเรือพลางเอ่ย “มานั่ง”
นางนั่งลงตามเขาอย่างไม่เต็มใจ สายตากลอกไปทางวงต่อสู้เป็นระยะ
“เจ้าขึ้นไปฮุยโจวตรวจสอบมาแน่ชัดหรือยัง” เขาเอ่ยถามด้วยท่าทางเฉื่อยชา หยิบหนังสือเล่มหนึ่งมาเปิดอ่านด้วยท่าทางตามสบาย
“อืม…” นางฝืนดึงสติกลับมา กล่าวตอบอย่างจริงจัง “ต้องขอบคุณพี่สิบที่ช่วยสืบสวน จางต้าหลางที่ติดต่อกับพวกเราส่งสินค้าให้พี่น้องสกุลวังทั้งหมด”
“อ้อ?”
“นับตั้งแต่พี่น้องสกุลวังร่วมงานกับเกาะแฝดเป็นต้นมาก็ชอบแย่งตัวพ่อค้าของพวกเราไปเป็นประจำ จนชวนให้คนไม่อาจไม่สงสัย…อ๊ะ!” นางคว้ากระบองก่อนกระโดดลุกขึ้น เนื่องจากมองเห็นนินจาชุดดำคนหนึ่งวิ่งตะบึงมาทางเรือเล็ก
“นั่งลง ข้างในนี้ยังไม่ถึงคราวให้เจ้าต้องลงมือเอง” เขาไม่แม้แต่จะเผยอเปลือกตาขึ้นมอง
ทันใดนั้น นินจาชุดดำก็ถูกฟางไจ้อู่ใช้แส้ฟาดร่างขาด นางเบือนหน้าหนี กลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบากก่อนนั่งลง ชั่วชีวิตก็ยังเลียนแบบความสุขุมเยือกเย็นของพี่ห้าไม่ได้ และชั่วชีวิตก็เห็นฝีมือโหดร้ายทารุณของพี่ไจ้อู่ไม่ชินเช่นกัน
“เขาเข่นฆ่าจนไร้สติไปแล้ว มิใช่หรือไร” เขาทำเป็นถามอย่างไม่ใส่ใจ “เจ้าก็อยากเป็นอย่างเขา?”
นางขยับปาก พูดด้วยความโมโห “ไม่ ข้าร่ำเรียนยุทธ์เพียงเพื่อไว้ปกป้องพี่ห้า”
เขาแค่นเสียงเบาๆ
“ปกป้องข้า? ข้างกายข้าเลี้ยงไว้แต่พวกมุทะลุวู่วาม สามารถมีชีวิตรอดมาได้ก็ควรขอบคุณฟ้าขอบคุณดินแล้วจริงๆ” เขาปิดหนังสือก่อนหลับตาพักด้วยความเบื่อหน่าย
ผ่านไปครู่หนึ่ง ชายฉกรรจ์ไม่กี่คนก็จับตัวฟางไจ้อู่ขึ้นมาบนเรือ
“ท่านห้า…” ฟางไจ้อู่หอบหายใจ เก็บแส้เข้าเอว กลิ่นอายการฆ่าฟันอันบ้าคลั่งยังไม่ทันเก็บลงสิ้น แต่ก็เริ่มกระวนกระวายขึ้นมาแล้ว ไม่ต้องให้ราชาจิ้งจอกเอ่ยปาก เขาก็รู้ว่าหลังกลับถึงเกาะจิ้งจอกจะต้องถูกลงโทษอีกแล้ว
“ออกเรือ” ราชาจิ้งจอกไม่ได้มองเขาก็เอ่ยพูดขึ้นอย่างเฉยชา
“อ๊ะ เดี๋ยวก่อน!” นางพลันกระโดดผลุงลุกขึ้นวิ่งปราดไปหัวเรือ คว้าคนที่เมื่อครู่ถูกเหวี่ยงทิ้งไว้หน้าเรือเล็กขึ้นมา หันหน้ากลับมาร้องบอกว่า “พี่ห้า พวกเราพาเขากลับไปด้วยเถิด ชาวฝอหล่างจี ผู้นี้หนีออกมาจากเกาะแฝด เมื่อครู่ถ้ามิใช่ได้เขา ข้าคงต้านโจรสลัดวอโค่วพวกนั้นไม่ไหวไปนานแล้ว”