ทดลองอ่าน อริร้ายหวนรัก บทที่ 5 – หน้า 6 – Jamsai
Connect with us

Jamsai

ทดลองอ่าน

ทดลองอ่าน อริร้ายหวนรัก บทที่ 5

ซย่าโหวอวี๋มองเด็กที่ถูกตนขุดมาจากดินแดนอันห่างไกลผู้นี้ด้วยความรู้สึกซับซ้อน ชาติก่อนซย่าโหวโหย่วอี้ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับความขัดแย้งพวกนี้เลย เขาได้แต่ใช้ชีวิตอยู่ที่เมืองตงไห่อย่างราบรื่น แต่งภรรยาและมีบุตร ตอนที่นางเกิดเรื่องขึ้นเขาก็ยังมีชีวิตอยู่ ในความทรงจำของนางนั้น เขายังคงเป็นเด็กน้อยที่เกาะราวกั้นรถเทียมวัว และมองกลับมายังวังหลวงอย่างอาลัยอาวรณ์จวบจนรถเทียมวัวแล่นจากไปไกลแล้วเสมอ นั่นเป็นเหตุการณ์ตอนมารดานางเหวินเซวียนฮองเฮาส่งเขาไปยังที่ดินบรรดาศักดิ์

“เดินทางลำบากแล้ว!” นางเอ่ยด้วยน้ำเสียงทอดถอนใจ ไม่อยากให้ซย่าโหวโหย่วอี้เรียกนางว่า ‘พี่สาว’ แม้แต่น้อย คำเรียกขานนี้ควรเป็นของน้องชายนางซย่าโหวโหย่วเต้าเพียงผู้เดียว จะไม่มีผู้อื่นเรียกได้อีก นางเตือนซย่าโหวโหย่วอี้เสียงค่อยอย่างอ้อมค้อม “ตอนนี้ท่านเป็นโอรสสวรรค์แล้ว เรียกข้าว่าจ่างกงจู่จะดีกว่า”

ส่วนลึกในดวงตาของซย่าโหวโหย่วอี้ฉายความงุนงง แต่เขายังคงทำตามคำสั่งของซย่าโหวอวี๋อย่างว่าง่าย เรียกนางใหม่ว่า “จ่างกงจู่”

ซย่าโหวอวี๋ผงกศีรษะอย่างชื่นชม ทว่าเซียวหวนกลับหงุดหงิดเหลือเกิน ซย่าโหวโหย่วฝูพักอยู่ในเรือนที่เขาจัดเอาไว้ให้ ยามนี้เฝิงซื่อกับซย่าโหวโหย่วฝูยังคงรอฟังข่าวดีจากเขาอยู่ ทว่าซย่าโหวอวี๋กลับไปเสาะหาน้องชายคนหนึ่งที่เหมือนกับซย่าโหวโหย่วเต้ามา คนที่เต็มไปด้วยความเคารพรักนาง

อู่จงฮ่องเต้นี่อย่างไรกัน ลูกชายหนึ่งคนสองคนล้วนเป็นเช่นนี้เหมือนกันหมด! หรือนี่จะเป็นสาเหตุที่ซย่าโหวอวี๋เลือกซย่าโหวโหย่วอี้มารับตำแหน่งฮ่องเต้

ทว่าซย่าโหวอวี๋ก็นับว่าหาทางออกให้เขาเช่นกัน ในเมื่อซย่าโหวโหย่วฝูมาเมืองเจี้ยนคังแล้ว ย่อมมิอาจกลับหลางหยาไปอย่างเงียบๆ ได้ ทำได้แค่เข้าวังโดยอ้างว่ามาจุดธูปเซ่นไหว้ซย่าโหวโหย่วเต้า เพียงแต่ตอนที่เฝิงซื่อเห็นซย่าโหวโหย่วอี้ขึ้นครองราชย์แล้วอาจจะอาละวาดยกใหญ่

คิดถึงตรงนี้ สีหน้าของเซียวหวนก็เปลี่ยนเป็นเยียบเย็น เฝิงซื่อกับซย่าโหวโหย่วฝูที่ไม่มีอำนาจก็เป็นแค่แมวที่ถูกเลี้ยงไว้ ไม่น่าหวั่นเกรง กลัวก็แต่ฮ่องเต้ตรงหน้าผู้นี้จะอายุไม่ยืน ซย่าโหวโหย่วฝูย่อมกลายเป็นตัวเลือกเพียงหนึ่งเดียว สายตาของเซียวหวนวาวระยับ

เซี่ยตันหยางกลับปีติยินดีมากนัก ซย่าโหวโหย่วอี้รูปโฉมสะอาดสะอ้าน ท่วงท่ากิริยาสง่างาม นิสัยสุภาพอ่อนโยน ฮ่องเต้องค์ใหม่ผู้นี้ดีกว่าที่เขาคิดเอาไว้มากจริงๆ ซย่าโหวอวี๋ทำอะไรล้วนไว้ใจได้จริงๆ!

เขาก้าวออกไปคารวะซย่าโหวโหย่วอี้อย่างเต็มพิธี พูดเสียงดังอย่างนอบน้อม “กระหม่อมเซี่ยสยา ขอต้อนรับโอรสสวรรค์!” เซี่ยตันหยางมีชื่อว่าสยา

ขุนนางใหญ่คนอื่นๆ ที่อยู่ในตำหนักต่างก็ได้สติ พากันคารวะฮ่องเต้องค์ใหม่

ภายในตำหนักข้างที่ไม่ใหญ่โตนัก ยามนี้กลับมีคนยืนอยู่สี่คน คนหนึ่งคือซย่าโหวโหย่วอี้ที่ยังงุนงงไม่เข้าใจสถานการณ์ คนหนึ่งคือซย่าโหวอวี๋ที่คิดไม่ถึงว่าเหล่าขุนนางจะยอมรับฮ่องเต้องค์ใหม่ได้รวดเร็วเพียงนี้ พอคิดว่าโลงศพของน้องชายยังตั้งอยู่ในโถงพิธี ในใจนางก็รู้สึกรับไม่ได้เล็กน้อย อีกคนหนึ่งคือเซียวหวนที่ลังเลว่าตนเองควรปฏิบัติกับซย่าโหวโหย่วอี้ด้วยท่าทีเช่นไรกันแน่ และอีกคนคือหลูยวนที่มีสีหน้าหยิ่งยโสโอหัง ท่าทางแฝงแววเหยียดหยันเล็กน้อย

แต่เซียวหวนได้สติอย่างรวดเร็ว นี่เป็นราชสำนักใหม่แล้ว เป็นการเริ่มต้นใหม่ เรื่องราวต่างๆ ในอดีตเป็นเช่นหมอกควันที่ลอยผ่านไป เขาควรแสดงท่าทีและจุดยืนในทันทีถึงจะถูก

เซียวหวนคุกเข่าลงเอ่ยว่า “กระหม่อมจิ้นหลิงฟู่หม่าตูเว่ย แม่ทัพใหญ่เพี่ยวจี้ ผู้บัญชาการกองทัพในสวีโจวและอวี้โจว เซียวหวน ถวายบังคมโอรสสวรรค์!” เขาทำให้คนอื่นๆ เข้าใจว่าตนเองอยากจะโดดเด่น ถึงได้คุกเข่าถวายบังคมฮ่องเต้องค์ใหม่หลังขุนนางคนอื่นๆ

สายตาของซย่าโหวโหย่วอี้ถูกเซียวหวนดึงดูดไปในทันที เขามองเซียวหวนด้วยความฉงนใจเล็กน้อย

ซย่าโหวอวี๋ตัดสินใจแล้วเช่นกัน ในเมื่อนางจะละทิ้งอดีต ย่อมต้องลืมความสูงศักดิ์ในสมัยที่อู่จงฮ่องเต้ครองราชย์ ลืมการเป็นที่นับหน้าถือตาในสมัยที่ซย่าโหวโหย่วเต้าปกครองบ้านเมือง ซย่าโหวอวี๋คุกเข่าให้ซย่าโหวโหย่วอี้ ทว่ากลับถูกซย่าโหวโหย่วอี้คว้าแขนเอาไว้ เขาพูดเสียงค่อย “พี่สาว เอ่อ จ่างกงจู่ ท่านคอยอยู่เป็นเพื่อนข้าเถอะ ไม่ต้องคุกเข่า”

ซย่าโหวอวี๋ขบคิดดูแล้วก็รู้สึกว่านางยังต้องถวายบังคมฮ่องเต้องค์ใหม่ตามกฎธรรมเนียม เมื่อเป็นเช่นนี้ ความสัมพันธ์ระหว่างนางกับซย่าโหวโหย่วอี้ย่อมเป็นเพียงฮ่องเต้กับขุนนาง นางไม่คิดจะสนับสนุนหรือปกป้องฮ่องเต้คนใดอีกแล้ว ความรู้สึกบางอย่าง การเสียสละบางอย่าง จะเป็นของน้องชายที่เคยใช้ชีวิตร่วมกับนางมาเท่านั้น

การอยู่คนเดียวในสภาพแวดล้อมที่ไม่คุ้นเคยและเต็มไปด้วยอันตรายรอบด้านย่อมทำให้เกิดความกังวล ความหวาดกลัว ความอ่อนแอ และความไม่สบายใจ ซย่าโหวอวี๋เคยผ่านประสบการณ์นี้มาอย่างลึกซึ้ง ดังนั้นนางจึงอธิบายกับซย่าโหวโหย่วอี้ด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน “บัดนี้พระองค์เป็นโอรสสวรรค์แล้ว หากทรงทำผิดกฎธรรมเนียมตั้งแต่แรก วันหน้าจะทำให้เหล่าขุนนางเคารพเชื่อฟังได้อย่างไร” นางคุกเข่าลงอย่างเรียบร้อย

Comments

comments

No tags for this post.
Continue Reading

More in ทดลองอ่าน

  • ทดลองอ่าน

    ทดลองอ่าน หอมเกศา บทที่ 84.1-84.2

    By

    บทที่ 84.1 ชายาเป่ยเจิ้นอ๋องมองชุดรัดเอวแขนหลวมทำจากผ้าพลิ้วกรุยกรายลายปักซูซิ่ว บนร่างองค์หญิงอวี๋หยางอีกครา ดูคล้ายกับแบบที่ซูลั่วอวิ๋นสวม...

  • ทดลองอ่าน

    ทดลองอ่าน หอมเกศา บทที่ 83.1-83.2

    By

    บทที่ 83.1 หานเหยาได้ยินน้องชายพูดขึ้นมา นางก็เอ่ยอย่างลิงโลด “ดี! พี่สะใภ้ ท่านไม่ต้องกลับไปที่หมู่บ้านเฟิ่งเหว่ยแล้ว ที่นั่นวุ่นวายเหลือเก...

  • ทดลองอ่าน

    ทดลองอ่าน หอมเกศา บทที่ 82.1-82.2

    By

    บทที่ 82.1 ที่แท้จ้าวกุยเป่ยคิดว่าให้สัญญากับหานเหยาไว้ว่าจะมารับลูกอมก็จำเป็นต้องรักษาคำพูดหรือไร หานหลินเฟิงคร้านจะแยแสบุรุษหัวทึบผู้นี้ เ...

  • คืนลมพัดต้องเหมยงาม

    ทดลองอ่าน คืนลมพัดต้องเหมยงาม บทที่ 5-6

    By

    บทที่ 5 ราตรีวุ่น แววตาเสิ่นเฉียนมืดทะมึน กัดริมฝีปาก ปลายคางเกร็งแน่นเผยความแข็งกร้าวอยู่ในที “ที่แท้ถูกเด็ดปีกหมดสิ้นแล้วเนรเทศมาให้ข้านี่...

  • ทดลองอ่าน

    ทดลองอ่าน หอมเกศา บทที่ 81.1-81.2

    By

    บทที่ 81.1 ฉิวเจิ้นเพ่งตามองดูแล้วก็พบว่าไม่เพียงกำแพงของค่ายเสบียงมีการต่อเติมให้สูงขึ้น ยังขุดคูลึกรอบตัวกำแพงทั้งด้านนอกด้านในเพิ่มอีกสอง...

  • คืนลมพัดต้องเหมยงาม

    ทดลองอ่าน คืนลมพัดต้องเหมยงาม บทที่ 3-4

    By

    บทที่ 3 หงหลวนแต่งงาน ลมราตรีพัดกรู แสงจันทร์สาดส่อง ภายในหอตั้นเสวี่ยของจวนสกุลเซี่ยเวลานี้ เซี่ยจิ่นสองมือไพล่หลัง ฟังน้องชายตัวน้อยเซี่ยซ...

  • คืนลมพัดต้องเหมยงาม

    ทดลองอ่าน คืนลมพัดต้องเหมยงาม บทที่ 1-2

    By

    บทที่ 1 ลมตะวันตกพัดมา สุริยันจมลับประจิม แสงสายัณห์สาดส่องขอบฟ้า เสิ่นเฉียนเปลี่ยนม้าไปตัวหนึ่งแล้วในจุดพักม้า เช่นนี้จึงเร่งมาถึงนอกเมืองห...

บทความยอดนิยม

everY

ทดลองอ่าน เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 Chapter 2.1-2.2 #นิยายวาย

ทดลองอ่าน เรื่อง เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 ผู้เขียน : MINTRAN แปลโดย : ทันบี ผลงานเรื่อง : 배타적 연애 금지구역 ถือเป็นลิขสิทธิ์...

community.jamsai.com