เผยซู่ถึงจะไม่เข้าใจความหมายของเฉินอิ๋ง แต่ถึงกระนั้นเขาก็รู้ว่าเรื่องที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนนับแต่เบิกฟ้าเปิดปฐพีเช่นนี้ หมายจะผลักดันให้สำเร็จลุล่วงย่อมไม่ใช่เรื่องง่าย
“ไม่ทราบว่าท่านโหวน้อยพอจะบอกต่อกับองค์รัชทายาทได้หรือไม่ว่าข้ายินดีช่วยเหลือเรื่องจัดหาที่พักให้กับผู้อพยพ” เฉินอิ๋งบอกเล่าถึงวิธีการของตนเองออกมาตรงๆ นางยกถ้วยชาขึ้นดื่มคราหนึ่ง “ข้าคิดว่าหากมีองค์รัชทายาทคอยช่วยเหลืออยู่ข้างๆ อย่างน้อยเรื่องสถานพำนักก็น่าจะพอเป็นไปได้อยู่”
ส่วนเรื่องสำนักศึกษาสตรีนั้นหากไม่ได้จริงๆ ก็สามารถพักไว้ก่อนชั่วคราวได้ เพราะไม่ว่าเช่นไรมันก็แค่ชื่อเท่านั้น จะใช้สถานพำนักดำเนินการเรียนการสอนก็ย่อมได้เช่นกัน
เผยซู่ไม่พูดอันใด ทำเพียงประคองถ้วยชาขึ้นดื่ม หัวคิ้วขมวดเข้าหากันแน่น
เฉินอิ๋งรู้ดีอยู่แก่ใจว่าการนี้ไม่ง่าย นางจึงกล่าวต่อ “ผู้อพยพในเติงโจวมีอยู่ด้วยกันไม่ใช่น้อย คิดจะจัดหาที่พักให้พวกเขาในระยะเวลาอันสั้น น่าจะยากลำบากอยู่พอสมควร ต่อให้ย้ายพวกเขากลับบ้านเกิด ไม่ว่าเช่นไรก็จะยังมีคนกลุ่มหนึ่งไร้ที่อยู่อาศัยอยู่ดี ไร่นาที่ถูกปล่อยรกร้างนานปี จะปลูกพืชผลอันใดได้หรือไม่ก็ยากจะบอกได้ หากผู้อพยพเหล่านี้ยังคงไร้ที่ไป แต่คดีทุจริตที่เติงโจวกลับปิดตัวลงเสียก่อน เช่นนั้นคงไม่สู้ดีสักเท่าใดนัก หากปีหน้าพวกเขากลับไปเป็นขอทานที่ซานตงอีก ถึงตอนนั้นจะให้ทำเช่นไร ยังคงปล่อยให้ทางราชสำนักดำเนินการจ่ายเงินช่วยเหลือต่อกระนั้นหรือ”
นี่เป็นแผนการรับมือที่นางคิดขึ้นกะทันหันหลังได้ยินว่าเผยซู่ต้องการนัดพบนางและองค์รัชทายาทก็ยังประทับอยู่ที่จี่หนาน
เงินทองในมือนางแม้จะไม่มาก แต่ก็เพียงพอที่จะประคับประคองสำนักศึกษากับสถานพำนักในช่วงระยะแรกได้ ขอเพียงองค์รัชทายาททรงยอมออกหนังสือรับรองให้ นางมีหรือที่จะยังต้องกังวลเรื่องหาทุนทรัพย์ไม่ได้อันใด
จี่หนานมีที่ดินรกร้างอยู่ไม่ใช่น้อย นางไม่ได้ต้องการอะไรมาก ขอแค่ที่ดินสักยี่สิบสามสิบหมู่ ผนวกกับเงินสองหมื่นตำลึงที่นางหามาได้ เมื่อพิจารณาจากราคาสินค้าบนแผ่นดินต้าฉู่ เชื่อว่าน่าจะเพียงพอให้ใช้ได้ชั่วระยะเวลาหนึ่ง
“รอบๆ จี่หนานมีที่ดินรกร้างอยู่ เรื่องนี้ข้ารู้มาจากท่านลุง หากสามารถเอาที่ดินพวกนั้นให้เด็กและสตรีที่พลัดที่นาคาที่อยู่เหล่านั้นได้ใช้ทำไร่ไถนา เช่นนั้นข้าย่อมสามารถช่วยเหลือเรื่องที่อยู่อาศัยให้ผู้อพยพได้เพิ่มมากขึ้น” เฉินอิ๋งพูดขึ้นอีกครั้ง
นอกจากนี้นางยังมีแผนการระยะยาวอื่นอีกอย่างคือสร้าง ’สภาสตรี’ เป็นองค์กรที่ทำเพื่อสตรี สนับสนุนให้สตรีอยู่ได้ด้วยลำแข้ง มีสิทธิ์มีเสียงมากขึ้น ต้าฉู่เป็นเพียงก้าวแรกเท่านั้น นางเชื่อว่าความรู้คือกำลัง อีกทั้งยังเปลี่ยนเป็นเงินทองและอาหารได้ ขอแค่มีเวลามากพอ สตรีต้าฉู่เหล่านี้ย่อมสามารถแผ้วถางหนทางหาเลี้ยงตนเองได้ หลังจากนั้นค่อยกลับมาตอบแทนบุญคุณ ‘สภาสตรี’ กับสำนักศึกษาสตรีในวันข้างหน้า
“ขอให้องค์รัชทายาททรงออกหน้า…เรื่องนี้อาจพอเป็นไปได้”
จู่ๆ เสียงของเผยซู่ก็ดังขึ้น ตัดบทความคิดอ่านของเฉินอิ๋ง นางมองดูเขา ไม่รู้ว่าอีกฝ่ายเดินไปหยุดอยู่ข้างเตาไฟตั้งแต่เมื่อใด
เผยซู่ในเวลานี้กำลังเขี่ยถ่านไฟในเตาเล่น น้ำเสียงแฝงไว้ซึ่งท่าทีเกียจคร้านหลายส่วน “ผู้อพยพพวกนั้นมีจำนวนไม่ใช่น้อยจริงๆ อย่างน้อยครึ่งหนึ่งก็ยังไม่อาจกลับบ้านเดิมได้ ยามนี้สภาพอากาศหนาวเหน็บ ไม่สะดวกที่จะเดินทาง ยิ่งไปกว่านั้นพวกเขาส่วนใหญ่ล้วนตัวเปล่าเล่าเปลือยไม่มีทรัพย์สมบัติอันใด ไม่ต้องพูดถึงว่ากลับบ้านเกิดไปแล้วจะมีอาหารให้กินอิ่มท้องมีเสื้อผ้าสวมใส่อบอุ่นร่างกายหรือไม่ แค่ไม่อดตายก็นับว่าสวรรค์เมตตามากแล้ว”