ทดลองอ่าน ออกจากจวนมาไขคดี บทที่ 672-674 – Jamsai
Connect with us

Jamsai

ทดลองอ่าน

ทดลองอ่าน ออกจากจวนมาไขคดี บทที่ 672-674

หน้าที่แล้ว1 of 3

บทที่ 672 เรื่องเล็กเรื่องหนึ่ง

อู๋ไท่เฟยกำลังประทับพักผ่อนอยู่ใต้ชายคาระเบียง ห่อหุ้มพระวรกายไว้ใต้อาภรณ์ผ้าดิ้น มีเสื้อคลุมนกยูงสวมทับอยู่อีกชั้น ปิ่นหยกปิ่นหงส์ประดับอยู่บนพระเกศางดงาม ท่วงท่าอันใดล้วนเป็นธรรมชาติเปี่ยมเสน่ห์ยากเกินบรรยาย

ยามนี้พอได้ยินพระสุรเสียงขององค์ชายสี่ อู๋ไท่เฟยก็สองพระเนตรเรียวโค้งขึ้นมาทันที “ย่าก็นึกว่าผู้ใดเสียอีก ที่แท้ก็เป็นเจ้า รีบเข้ามาเถิด” พระองค์กวักพระหัตถ์พลางรับสั่ง ท่วงทีสนิทสนมเป็นกันเองยิ่ง

จะว่าไปที่ประทับของอู๋ไท่เฟยนี้เรียกได้ว่าพิถีพิถันยิ่งนัก พระเก้าอี้มีเบาะหนาๆ ปูรองไว้ ที่วางอยู่ทางด้านซ้ายคือเตารูปทรงประณีตงดงาม มีบังตาวางอยู่ทั้งสองด้าน อีกทั้งยังมีนางกำนัลกลุ่มใหญ่ช่วยบังลมให้

ส่วนที่อยู่นอกระเบียงคือนางกำนัลตัวน้อยในอาภรณ์แดงเขียวหลายนาง กำลังกระโดดเชือกกันอย่างสุดกำลัง แข่งกันดูซิว่าผู้ใดจะกระโดดได้มากที่สุด ผู้ชนะจะได้รับพระราชทานทองเม็ดถั่ว ส่วนผู้แพ้จะได้รับขนมโก๋ทองคำหนึ่งจาน ทุกคนต่างพากันแย่งกระโดดก่อน ใบหน้าเล็กๆ แดงๆ นั้นเต็มไปด้วยเหงื่อ เสียงหัวเราะดังก้องไปทั่วบริเวณ

พระสุรเสียงกระจ่างชัดแฝงอยู่ท่ามกลางเสียงหัวเราะไม่ต่างอันใดกับเสียงมุกกระทบหยก ทั้งใสกระจ่างทั้งไพเราะเสนาะหู

องค์ชายสี่ทรงขานรับพลางขยับเข้าไปใกล้ พระองค์แย้มพระสรวล “ทางชินหวงจู่หมู่นี้ช่างครึกครื้นยิ่งนัก”

รอยแย้มพระสรวลของอู๋ไท่เฟยลึกล้ำมากยิ่งขึ้น ไม่ต่างอันใดกับลมวสันต์พัดผ่านใบหน้า “ย่าชอบความคึกคักครึกครื้น เด็กดี เจ้าก็รีบนั่งเถิด” หลังจากนั้นก็รับสั่งออกมาอีกครา “รีบไปเอาเตาอุ่นมือมา เอาเก้าอี้มาเพิ่มด้วย ขยับเตาถ่านไปข้างหน้าอีกสักหน่อย เด็กๆ อย่างเจ้ามิควรต้องอากาศหนาว”

เหล่านางกำนัลต่างขานรับและแยกย้ายไปจัดการตามรับสั่ง

อู๋ไท่เฟยทรงจูงองค์ชายสี่ให้ขยับเข้าไปใกล้ ลูบแขนเสื้อของเขา พระขนงดำขลับที่วาดไว้ยาวๆ ขมวดเข้าหากัน สีพระพักตร์วิตกกังวลจางๆ เผยให้เห็นอยู่บนพระพักตร์ที่มีริ้วรอยปรากฏอยู่น้อยๆ “เจ้าเด็กผู้นี้ไฉนถึงใส่เสื้อผ้าน้อยชิ้นนัก ฤดูหนาวอากาศหนาวเหน็บ ป่วยไข้เพราะต้องลมหนาวหาใช่เรื่องเล่นๆ ไม่”

“หลานไม่รู้สึกหนาวแม้แต่น้อย หากมิทรงเชื่อก็ลองจับมือร้อนผ่าวของหลานดูก็ได้” องค์ชายสี่ยิ้มกุมพระหัตถ์ของอู๋ไท่เฟย ทอดพระเนตรดูสายตาของอีกฝ่าย แสดงความรักใคร่อย่างพอเหมาะพอสม

อู๋ไท่เฟยพระสิริโฉมงดงาม พระอุปนิสัยอบอุ่นอ่อนโยน ปฏิบัติต่อหลานชายหลานสาวเฉกเดียวกัน ไม่ว่าผู้ใดมาก็ล้วนทรงเรียก ‘เด็กดี’ เหมือนกันทั้งหมด มิเคยปั้นสีพระพักตร์บึ้งตึง เรียกได้ว่าพระอารมณ์ดียิ่งนัก

ก่อนหน้านี้ทุกคนเพราะมีโอกาสไปมาหาสู่กันไม่มากจึงไม่คุ้นเคยกันสักเท่าใดนัก ทว่ายามนี้ครั้นได้มาเยี่ยมคารวะอยู่บ่อยๆ ทุกคนก็ให้รู้สึกว่าอู๋ไท่เฟยทรงยิ้มแย้มแจ่มใสตลอดทั้งวัน เป็นกันเองกว่าเซียวไทเฮานัก

เพียงแต่วาจาลบหลู่ดูหมิ่นเยี่ยงนี้ไหนเลยจะพูดกับผู้ใดได้ ทำได้ก็แต่เพียงเก็บมันไว้ในท้องก็เท่านั้น

เพียงไม่นานข้าวของที่พวกนางกำนัลนำมาก็ถูกจัดวางไว้เป็นที่เรียบร้อย ย่าหลานสองคนนั่งอยู่ใต้ชายคาระเบียง กินดื่มชาและของว่าง มองดูเหล่านางกำนัลตัวน้อยแข่งขันกระโดดเชือกพลางพูดคุยสัพเพเหระ

องค์ชายสี่ทรงประคองถ้วยชาถวายให้กับอู๋ไท่เฟยด้วยพระองค์เอง ก่อนจะแย้มพระสรวลกล่าว “หลานซาบซึ้งกับรับสั่งของชินหวงจู่หมู่ยิ่งนักที่ทรงสอนหลานให้รู้จักออกจากวังไปสัมผัสกับชีวิตของผู้คน ไปรับฟังการแสดงที่จวนหย่งเฉิงโหว ดูกายกรรมกินอาหารชาวบ้านที่ไม่เคยกินมาก่อน…”

ทรงเลือกบอกเล่าเรื่องราวสนุกสนานน่าสนใจที่เกิดขึ้นในวันนี้ให้อู๋ไท่เฟยฟัง

ก่อนหน้านี้เพราะองค์ชายสี่พระวรกายมิสู้แข็งแรงจึงมิได้เสด็จออกจากวังไปที่ใด อู๋ไท่เฟยทรงสงสาร กลัวพระองค์จะเบื่อหน่ายจนล้มป่วย ดังนั้นพอทรงหายจากอาการประชวร อู๋ไท่เฟยเลยเสด็จไปทูลขออนุญาตต่อฮ่องเต้หยวนจยาด้วยพระองค์เอง ถึงทำให้วันนี้องค์ชายสี่มีโอกาสเสด็จออกจากวัง

เพราะทรงตระหนักถึงพระเมตตาของอู๋ไท่เฟย องค์ชายสี่ถึงได้พยายามบอกเล่าอย่างสุดกำลัง ครั้นเล่าถึงตอนสนุกๆ พระองค์ก็ทรงวาดมือวาดไม้ นิสัยเยี่ยงเด็กหนุ่มอันใดล้วนเผยออกมาหมดสิ้น

อู๋ไท่เฟยฟังพลางแย้มพระสรวล มิได้รับสั่งตัดบทอันใด พระเนตรงดงามที่ถูกริ้วรอยเล็กๆ ห้อมล้อมแฝงไว้ซึ่งความรู้สึกรักใคร่เอ็นดู

ในวังหลวงนี้ผู้ใดบ้างที่มีจิตพิสุทธิ์ องค์ชายสี่ถึงจะพระชนมายุยังน้อย แต่การรักษาจิตใจให้ยังคงบริสุทธิ์เยี่ยงนี้ได้หาใช่เรื่องง่ายดายไม่

ขณะพระองค์ครุ่นคิดถึงจุดนี้ จู่ๆ นอกตำหนักก็ดังลั่นไปด้วยเสียงเอะอะมะเทิ่ง

อู๋ไท่เฟยพระขนงกระตุก แต่ถึงกระนั้นสีพระพักตร์กลับสงบนิ่ง พระองค์ยกผ้าซับพระพักตร์กดลงบนมุมพระโอษฐ์

ครั้นเห็นเช่นนั้นเก่อเฉาอี้ที่ยืนอยู่อีกด้านก็ค้อมกายน้อยๆ ถอยจากไปเงียบๆ

หลังจากนั้นเพียงไม่นานเสียงเอะอะเอ็ดตะโรก็ยุติลง เสียงพูดคุยหัวเราะทั่วทั้งพระตำหนักดังขึ้นอีกคราว

ตลอดชั่วระยะเวลาดังกล่าว พระสุรเสียงขององค์ชายสี่ดังอยู่มิได้ขาด คล้ายมิทรงได้ยินทุกสิ่งอย่างที่เกิดขึ้นนอกพระตำหนัก พระองค์สนพระทัยก็แต่บอกเล่าเรื่องราวสนุกสนานน่าสนใจให้อู๋ไท่เฟยฟังเท่านั้น

อู๋ไท่เฟยแย้มพระสรวลทอดพระเนตรดูอีกฝ่าย สายพระเนตรเอ็นดูรักใคร่ฝากแฝงไว้ซึ่งความรู้สึกเห็นดีเห็นชอบอยู่ส่วนหนึ่ง

อุปนิสัยจริงใจ รู้อะไรหนักอะไรเบา องค์ชายสี่ผู้นี้ไม่ธรรมดาจริงๆ

ทว่าโตอยู่ในวัง หากเป็นคนเรียบง่ายจริง จะรักษาชีวิตอยู่รอดได้กระนั้นหรือ

อู๋ไท่เฟยยกพระหัตถ์ขึ้นแตะริมพระโอษฐ์ที่ทาชาดสีชมพูไว้แผ่วเบา สายพระเนตรแบบเดิมจางหายไปอย่างรวดเร็ว ไม่ทันมีผู้ใดสังเกตเห็น

เพียงไม่นานเก่อเฉาอี้ก็กลับเข้ามา เขายืนค้อมกายอยู่ที่นอกระเบียง ไม่พูดไม่จาอันใด

อู๋ไท่เฟยหยิบเอาแคะพระทนต์เงินขึ้นมาจิ้มผลไห่ถังในจาน ยื่นส่งให้กับองค์ชายสี่พลางรับสั่งอ่อนโยน “เด็กดี กล่าววาจาประจบประแจงย่ามากมายเช่นนี้คาดว่าคงเหนื่อยแล้ว กินผลไม้ดื่มชาสักหน่อยเถิด พักผ่อนสักนิดก่อนแล้วค่อยว่าต่อ”

องค์ชายสี่รีบรับมันไว้ด้วยสองมือ ที่ปรากฏอยู่บนพระพักตร์คือรอยแย้มพระสรวลสว่างไสว “ขอบพระทัยชินหวงจู่หมู่ เช่นนั้นหลานก็ไม่เกรงพระทัยแล้ว” ตรัสจบก็ส่งผลไห่ถังเข้าปากเคี้ยว ก่อนจะหันไปเลือกของว่างด้วยพระทัยแน่วแน่ ประหนึ่งทรงมองไม่เห็นเก่อเฉาอี้

อู๋ไท่เฟยแย้มพระสรวลอยู่น้อยๆ ก่อนจะทรงหันไปหาเก่อเฉาอี้ พระขนงขมวดเข้าหากันน้อยๆ “ด้านนอกมีเรื่องอันใดกระนั้นหรือ”

เก่อเฉาอี้ค้อมกายกล่าว “ขันทีน้อยตำหนักจินหวาหกล้มหัวแตกหมดสติพ่ะย่ะค่ะ กระหม่อมได้ให้คนพาไปพักที่เรือนบ่าวไพร่ด้านหลังแล้ว หมอหลวงจะมาถึงในอีกไม่ช้าพ่ะย่ะค่ะ”

จู่ๆ องค์ชายสี่ก็เงยหน้าขึ้น

ตำหนักจินหวา?

นั่นมิใช่ที่ประทับของพระสนมหนิงผินเสด็จแม่ผู้ให้กำเนิดของเขาหรือไรกัน

ที่แท้เสียงเอะอะเมื่อครู่ก็เพราะขันทีผู้หนึ่งหกล้มได้รับบาดเจ็บนั่นเอง

“ชินหวงจู่หมู่ หลานขอตัวไปดูสักครู่” องค์ชายสี่ทรงวางไม้จิ้มฟันเงินลง ขยับชายอาภรณ์ลุกขึ้น

“ช้าก่อน” อู๋ไท่เฟยแย้มพระสรวลรับสั่งรั้งองค์ชายสี่ ก่อนจะโบกพระหัตถ์เป็นสัญญาณบอกให้พวกบ่าวไพร่ถอยออกไปพลางรับสั่งว่า “เด็กดี เหตุใดเจ้าต้องไปด้วยเล่า เพียงเรื่องเล็กน้อยเท่านั้น หกล้มก็แค่พักสักครู่ หลังจากนั้นค่อยให้หมอหลวงไปตรวจดูอาการ กินยาสักเทียบสองเทียบ รีบร้อนวิ่งไปเช่นนี้รังแต่จะทำให้ทุกฝ่ายตกอกตกใจ สมควรแล้วกระนั้นหรือ”

องค์ชายสี่ทรงหยุดชะงักด้วยความลังเล

รับสั่งของอู๋ไท่เฟยนี้เป็นการสนับสนุนตำหนักจินหวา

พระสนมหนิงผินฐานะชาติกำเนิดต่ำต้อย ไม่มีผู้มีอำนาจคอยสนับสนุนอยู่เบื้องหลัง ต่อให้ตำหนักในของราชสำนักต้าฉู่สงบนิ่ง แต่ผู้ใดจะรับรองได้ว่าวันหน้าจะไม่ถูกคนหลอกใช้หาผลประโยชน์ หากต้องตกเป็นขี้ปากผู้อื่นเพียงเพราะเหตุนี้ เช่นนั้นย่อมไม่งามแน่

มีอู๋ไท่เฟยออกหน้า ด้วยฐานะในตำหนักในของนางในเพลานี้ไหนเลยจะพ่ายแพ้ให้กับผู้ใดได้ ในเมื่อเป็นเช่นนี้แล้วยังจะมีผู้ใดกล้าเล่นเล่ห์เพทุบายอันใด

“เด็กโง่ ยังไม่รีบนั่งลงอีก” พอเห็นอีกฝ่ายยืนนิ่งไม่ขยับเช่นนั้นอู๋ไท่เฟยก็แย้มพระสรวล ยกผ้าซับพระพักตร์ขึ้นปิดพระโอษฐ์ “เอาล่ะๆ เจ้าก็เลิกคิดเรื่องนี้ได้แล้ว อยู่กับย่าที่นี่เจ้าก็วางใจเถอะ ย่าไม่ปรารถนาอันใด ต้องการก็แค่ความบันเทิงเริงใจเท่านั้น เจ้ายังจะกริ่งเกรงสิ่งใด”

รับสั่งของอู๋ไท่เฟยนี้ลึกล้ำยิ่งนัก หลังจากยืนนิ่งรับฟังอยู่เป็นนาน ในที่สุดองค์ชายสี่ก็แสดงคารวะ ตรัสด้วยพระสุรเสียงเคร่งขรึมว่า “ชินหวงจู่หมู่ทรงเมตตา หลานรู้สึกละอายใจยิ่งนัก”

เมื่อเห็นอีกฝ่ายปั้นหน้าขึงขังเช่นนั้น อู๋ไท่เฟยก็อดแย้มพระสรวลไม่ได้ “ช่างเถอะ แทนที่จะรู้สึกละอายใจมิสู้ทำตามที่ย่าบอก นั่งลงกินของว่างของเจ้าไปเถอะ”

องค์ชายสี่ทรงพระสรวลออกมาคราหนึ่ง พระองค์ลูบหลังพระเศียรอย่างขัดเขิน มิได้ตรัสวาจาปฏิเสธอันใดอีก หากกลับทรงนั่งลงเสวยพระสุธารสชาพลางสนทนากับอู๋ไท่เฟยต่อ

หน้าที่แล้ว1 of 3

Comments

comments

No tags for this post.
Continue Reading

More in ทดลองอ่าน

บทความยอดนิยม

everY

ทดลองอ่าน เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 Chapter 2.1-2.2 #นิยายวาย

ทดลองอ่าน เรื่อง เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 ผู้เขียน : MINTRAN แปลโดย : ทันบี ผลงานเรื่อง : 배타적 연애 금지구역 ถือเป็นลิขสิทธิ์...

จุติรัก พลิกชะตาร้าย

ทดลองอ่าน จุติรัก พลิกชะตาร้าย บทที่ 1-2

บทที่ 1 ฮ่องเต้หญิง   “ท่านพี่นำร้อง น้องหญิงคลอรับ ท่านพี่เสียงเพิ่งลับ น้องหญิงสลับขึ้นเวที เป็นมารดาอารี มีบุตรีกตัญญ...

ทดลองอ่าน

ทดลองอ่าน ร้อยเรียงรักเคียงฤทัย บทนำ – 1.2

บทนำ ความหลังของต้าลี่ 1   ฤดูหนาวในรัชศกต้าลี่ปีที่สิบเอ็ด โม่เป่ย ตำบลค่งหม่า สถานที่แห่งนี้คือประตูด่านสำคัญสุดท้ายทา...

จุติรัก พลิกชะตาร้าย

ทดลองอ่าน จุติรัก พลิกชะตาร้าย บทที่ 7-8

บทที่ 7 ค่าเดินทาง เมื่อภูตสุนัขดำคืนร่างเป็นสุนัขธรรมดาตัวหนึ่ง ภูตบุปผาสองตนนั้นก็ไม่อาจทำการใหญ่ ต่อให้ชาวหมู่บ้านป่า...

จุติรัก พลิกชะตาร้าย

ทดลองอ่าน จุติรัก พลิกชะตาร้าย บทที่ 3-4

บทที่ 3 เกิดใหม่   เวิ้งฟ้าดำสนิทปานน้ำหมึก เพียงมีดวงดาวบางตากระจัดกระจายบนม่านฟ้า ทอรัศมีอ่อนจางประเดี๋ยวเผยประเดี๋ยวเ...

community.jamsai.com