พอกลับถึงจวนสกุลเซี่ย เซี่ยซูก็ลอบสั่งมู่ไป๋ว่า “ไปตามหาพวกชาวแคว้นต้าฉินที่ได้พบที่ฉางกั้นในวันนี้ ไม่ว่าต้องใช้วิธีการใดก็ต้องถามให้รู้แน่ชัดว่าที่แท้พวกเขาเล่นกลควันดำนั่นได้อย่างไร”
ช่างดูขู่เข็ญคุกคามชาวบ้านยิ่งนัก! มู่ไป๋รู้สึกว่าวันเวลาแห่งการได้อวดอ้างอำนาจของจวนสกุลเซี่ยหวนกลับมาอีกครั้งแล้ว เขาจึงร้องขานรับอย่างกระตือรือร้นยิ่งทันที “ขอรับ!”
สุดท้ายมู่ไป๋ก็ไปไต่ถามเรื่องกลควันดำจนได้คำตอบที่ชัดเจนกลับมา คืนนั้นโหรหลวงถูกเรียกตัวอย่างลับๆ ให้มายังจวนสกุลเซี่ย
วันถัดมาตอนที่เข้าเฝ้าในท้องพระโรง สีหน้าฮ่องเต้ยังคงเปล่งปลั่งดุจดอกเบญจมาศ “อัครเสนาบดีเซี่ย เรื่องที่หัวหน้าสำนักตรวจการและแม่ทัพเชอจี้ร้องเรียน เจ้าจัดการไปถึงไหนแล้ว”
เซี่ยซูกล่าวตอบด้วยท่าทางสุภาพเรียบร้อย “กระหม่อมรู้สึกว่าเรื่องนี้ยังต้องปรึกษาหารือกันอีกสักหน่อย ตอนนี้ยังไม่ต้องรีบร้อนหรอกพ่ะย่ะค่ะ”
สีหน้าฮ่องเต้พลันเครียดคล้ำ ขณะที่กำลังจะเอ่ยอะไร โหรหลวงก็ก้าวออกมาแล้วกล่าว “กระหม่อมมีเรื่องจะทูลรายงานพ่ะย่ะค่ะ”
“ว่ามา!”
“ฝ่าบาท กระหม่อมตรวจสอบจนพบที่มาที่ไปของข่าวลือเมฆดำเหนือท้องทะเลที่เมืองเหอผู่แล้ว ตอนนี้จึงได้ส่งคนไปแก้ข่าวลือที่มีอยู่ภายในเมืองหลวงแล้ว ขอให้ฝ่าบาทเบาพระทัยได้พ่ะย่ะค่ะ”
ฮ่องเต้กลับดูไม่ ‘เบาพระทัย’ เลยแม้แต่น้อย ยามนี้พระองค์นึกอยากจะทุบคนต่างหาก!!!
เว่ยอี้จือถามขึ้นมาได้จังหวะพอดี “ ‘ที่มาที่ไป’ ที่โหรหลวงว่านั้น ที่แท้มาจากสาเหตุใดกันแน่”
โหรหลวงประสานมือคารวะ “ต้าซือหม่าคงไม่ทราบ นั่นเป็นฝุ่นหินสีดำ พอถูกความร้อนก็จะกระจายตัวออกกลายเป็นหมอกฟุ้ง กลที่ชาวต้าฉินเล่นกันอย่างแพร่หลายในเมืองหลวงเมื่อเร็วๆ นี้ก็คือสิ่งนี้”
“ที่แท้ก็เป็นเช่นนี้เอง” เว่ยอี้จือหันไปมองทางเซี่ยซูพลางพูดประชด “เห็นทีสวรรค์คงจะคอยปกป้องคุ้มครองท่านจริงๆ”
คราวนี้เซี่ยซูไม่อาจตอบรับอย่างคนหน้าหนาได้ นางหันไปมองฮ่องเต้ด้วยท่าทีอ่อนน้อม “มิใช่เช่นนั้นหรอก นี่ต้องเป็นเพราะพระบารมีของฝ่าบาทช่วยไว้เป็นแน่”
ฮ่องเต้หลับตาแล้วเบือนหน้าหนี เราไม่ปรารถนาจะมองเห็นเจ้าคนสารเลวผู้นี้อีก
พอเลิกเข้าเฝ้าแล้ว เพื่อไม่ทำให้ผู้คนสงสัย เซี่ยซูจึงจงใจไม่รอออกไปพร้อมกับเว่ยอี้จือ นางรีบก้าวขึ้นรถม้าแล้วออกไปแต่เนิ่นๆ ทันที
ระหว่างทางยังคงได้ยินเสียงหัวเราะของเหล่าหญิงสาวเฉกเช่นที่เคยเป็นมา พร้อมเสียงเรียกชื่อนางตามมาเบาๆ น้ำเสียงสดใสร่าเริงออกปานนี้ คาดว่าข่าวลือน่าจะยุติลงแล้ว
ในต้าจิ้นผู้ที่นับถือศาสนาพุทธและศรัทธาในลัทธิเต๋ามีอยู่จำนวนไม่น้อย เรื่องที่เกี่ยวข้องกับปรากฏการณ์ประหลาดจากสวรรค์ล้วนถือเป็นสิ่งต้องห้าม เกิดครั้งหนึ่งยังนับว่าบังเอิญได้ แต่หากเกิดหลายๆ ครั้งเข้าก็ทำให้ง่ายที่จะหลงเชื่อ เดิมนางคิดหาทางเบี่ยงเบนความสนใจของผู้คนด้วยเรื่องอื่น ไม่นึกเลยว่าจะหาทางแก้ปัญหาที่น่าพอใจเช่นนี้ได้…เป็นเพราะเว่ยอี้จือแท้ๆ
เซี่ยซูหยิบพัดเคาะที่ฝ่ามือพลางครุ่นคิดอยู่เงียบๆ ก่อนหน้านี้เขาตั้งท่าเป็นศัตรูกับข้าอย่างสุดกำลัง ภายหลังยามที่มาทำดีด้วยก็ดูแสนจะจริงใจ ที่แท้เขามีจุดประสงค์ใดกันแน่