มาถึงวันหนึ่ง เซี่ยหร่านก็เข้ามารายงานต่อเซี่ยซูว่าทุกอย่างได้ตระเตรียมไว้เรียบร้อย พร้อมจะออกเดินทางไปไคว่จีแล้ว
เขาทำการอย่างละเอียดรอบคอบดีมาก ไม่เพียงจัดการเรื่องวันเดินทางและจำนวนคนอย่างชัดเจนเท่านั้น เขายังทำหนังสือในนามอัครเสนาบดีแจ้งต่อหวังจิ้งจือซึ่งเป็นเจ้าเมืองไคว่จีและแม่ทัพฝ่ายขวาก่อนแล้ว
เซี่ยหร่านล้วนจัดการได้อย่างดี รอเพียงแค่วันออกเดินทางเท่านั้น
เซี่ยซูนั่งอยู่ในห้องหนังสือ นางตรวจดูรายการเรื่องที่จัดแจงซึ่งเซี่ยหร่านส่งมาให้ จู่ๆ ก็ถามขึ้นว่า “ส่วนมากสกุลหวังจะไปร่วมงานที่ไคว่จีด้วย การเดินทางไปครั้งนี้ ทุ่ยจี๋คิดเห็นเช่นไร”
เซี่ยหร่านนั่งพับขาอยู่ต่อหน้าเซี่ยซู แผ่นหลังเหยียดตรง “ตอนนั้นที่มีคำกล่าวอ้างว่า ‘หวังและหม่าครองใต้หล้า’ เพราะอำนาจของสกุลหวังเคยรุ่งโรจน์ไม่แพ้เชื้อพระวงศ์ ทว่าบัดนี้กลับเป็นสกุลเซี่ยที่เป็นใหญ่แต่เพียงผู้เดียว สกุลหวังก็คงไม่สยบยอมแต่โดยดี ท่านอัครเสนาบดีจะทำการใดล้วนต้องคอยระวังตัวด้วย”
เซี่ยซูคิดถึงตรงนี้ก็เงยหน้าขึ้นถามอีก “เช่นนั้นเจ้าคิดเห็นเกี่ยวกับสกุลเว่ยเช่นไร”
“สกุลเว่ยก็เคยรุ่งโรจน์ แต่ที่ทำให้พวกเขาเสื่อมถอยลงก็เพราะมีคนในตระกูลน้อยเกินไป เมื่อคราวเกิดเหตุจลาจลแปดอ๋อง* บรรพชนสกุลเว่ยเกือบถูกสังหารไปจนสิ้น จากนั้นมาจำนวนสมาชิกในตระกูลก็เทียบกับสกุลหวังไม่ได้ คนที่เก่งก็เทียบกับสกุลเซี่ยไม่ได้ ย่อมยากที่จะกลับมารุ่งเรืองได้อีก บัดนี้เห็นจะมีอู่หลิงอ๋องที่โดดเด่น ทว่าก็มีเขาเพียงคนเดียว ต่อให้ฝ่าบาททรงโปรดปรานและทรงเชื่อในตัวเขาเพียงใด ก็ให้เขากุมกำลังทหารทั่วหล้าไว้แค่เกือบครึ่งเท่านั้น”
เซี่ยซูพยักหน้า “พูดมีเหตุผล ฝ่าบาทมีพระประสงค์จะให้อู่หลิงอ๋องมาเพื่อคานอำนาจเหล่าตระกูลชั้นสูง เราสกุลเซี่ยก็เป็นหนึ่งในนั้นด้วย” นางปิดหนังสือ หันไปยิ้มให้เซี่ยหร่าน “เจ้าก็ไปไคว่จีกับข้าด้วยเถอะ”
เซี่ยหร่านตกตะลึง “ให้ข้าไปด้วยอย่างนั้นหรือ”
“ย่อมต้องไปสิ งานนี้เจ้าเหนื่อยที่สุด ต้องได้ไปอยู่แล้ว”
“แต่ฐานะข้า…”
มู่ไป๋ซึ่งยืนอยู่ข้างเซี่ยซูยืดคอขึ้นอย่างทะนง “ช่วงนี้คุณชายดูมีบารมีน่าเกรงขามนัก ดวงวิญญาณของนายท่านบนสวรรค์จะต้องดีใจแน่ จวนสกุลเซี่ยถึงคราวรุ่งโรจน์ขึ้นแล้ว!”
เซี่ยหร่านพอใจยิ่งนัก แต่เพราะเป็นคนเย่อหยิ่งจึงไม่ได้แสดงความรู้สึกออกมาให้เห็นมากนัก หลังจากกล่าวขอบคุณเซี่ยซูแล้วก็กลับไปเตรียมตัวที่เรือนหลิวอวิ๋น
กวงฝูคนรับใช้ที่เรือนหลิวอวิ๋นจัดเตรียมหีบเดินทางไว้พร้อมแล้ว เมื่อเห็นผู้เป็นนายกลับมาด้วยสีหน้าเบิกบาน ก็ทราบว่าเขาได้ในสิ่งที่ต้องการแล้ว
“เห็นทีท่านอัครเสนาบดีจะยังให้ความสำคัญกับคุณชายอยู่”
เซี่ยหร่านหัวเราะ “นี่ค่อยคุ้มกับที่ข้าทำตนเองบาดเจ็บในตอนนั้นสักหน่อย”
เขาเข้าใจว่าฐานะของตนเองย่อมไม่อาจวาดหวังถึงอนาคตได้ มีเพียงเรียกร้องความสนใจจากเซี่ยซูเท่านั้น จึงจะทำให้นางมอบโอกาสให้เขาได้ใช้ความสามารถ
ทว่าเรื่องเหล่านี้เขาไม่อาจบอกออกไปได้ มิเช่นนั้นคงจะขายหน้าแย่