เซียงฮูหยินจึงค่อยมีท่าทีพอใจ นางแสร้งหยิบผ้าเช็ดหน้าขึ้นมาเช็ดหางตาด้วยความซาบซึ้งแล้วเอ่ยว่า “แม่ไม่ได้บีบบังคับเจ้าหรอกนะ เป็นเพราะพ่อเจ้าอายุสั้น มีแค่ซื่อจือกับเจ้าเป็นบุตรชายสองคนเท่านั้น ตอนนั้นแม่หวงเจ้าจึงไม่ให้มีภรรยา บัดนี้รู้สึกผิดนัก มีแต่ได้เห็นครอบครัวเจริญรุ่งเรือง ร้อยปีให้หลังจึงค่อยไปพบบรรพชนสกุลเว่ยอย่างสบายใจเสียที”
เว่ยอี้จือได้ฟังมารดาอ้างถึง ‘บรรพชน’ แล้วก็เวียนศีรษะยิ่ง “ก็ได้ๆๆ ท่านแม่กล่าวได้ถูกต้องแล้ว”
เซียงฮูหยินสะบัดผ้าเช็ดหน้า แล้วพูดอย่างเศร้าสร้อย “หากพี่ชายเจ้ายังสบายดี ก็ดีอยู่หรอก เฮ้อ…”
เว่ยอี้จือนึกถึงพี่ใหญ่แล้วก็ทอดถอนใจทันที
เมื่อเซียงฮูหยินเห็นว่าตนเองบรรลุเป้าหมายแล้วก็พูดคุยเรียบๆ อีกสองสามประโยคก่อนจะกลับออกไป ในใจเริ่มวาดหวังถึงหลานในอนาคต
เมืองเจี้ยนคังห่างจากไคว่จีไม่ไกลมาก ใช้เวลาไม่นานหวังจิ้งจือก็มีหนังสือตอบกลับมา สำบัดสำนวนสละสลวย ลายมือพลิ้วไหว สรุปใจความได้ในประโยคหนึ่งว่า ‘ทุกอย่างเตรียมไว้พร้อมสรรพแล้ว พวกเจ้ามากันได้’
เซี่ยซูเพิ่งได้เรียนอ่านเขียนตอนที่เข้ามาในจวนอัครเสนาบดี เนื่องจากลายมือของนางแย่มากจึงถูกเซี่ยหมิงกวงทำโทษลงมาไม่น้อย จนบัดนี้ลายมือจึงนับว่าพอใช้ได้แล้ว แต่พอได้เห็นลายมือหวังจิ้งจือ นางก็นึกอยากจะขุดรูเข้าไปหลบเสียให้รู้แล้วรู้รอด
“มานี่สิ มู่ไป๋ เอาจดหมายนี้ไปแขวนให้ข้าที”
มู่ไป๋นั้นชื่นชมสกุลเซี่ยมากอย่างไม่ลืมหูลืมตา ดังนั้นจึงพลอยเทิดทูนเซี่ยซูอย่างไม่ลืมหูลืมตาตามไปด้วย เขาพูดอย่างเหยียดหยามว่า “คุณชาย ท่านใช้เท้าก็ยังเขียนได้งามกว่าลายมือนี้เลย ไยต้องให้ค่าลายมือพวกสกุลหวังถึงเพียงนี้ด้วย”
เซี่ยซูนึกถึงรองเท้าไม้ขึ้นมาพอดี นางจึงพูดเสียงเศร้าว่า “อย่าได้พูดเรื่องเท้ากับข้า…”
และแล้ววันออกเดินทางก็มาถึง
ตระกูลดังในต้าจิ้นมีกว่าร้อยตระกูล ที่ตั้งรกรากอยู่ในเมืองเจี้ยนคังก็แทบจะเกินครึ่งแล้ว แถวรถม้ายาวเหยียดติดต่อกัน แทบจะทอดยาวจากประตูเซวียนหยางไปถึงคูเมืองทางทิศใต้ที่อยู่นอกเมืองเลยทีเดียว
เซี่ยซูวางท่าใหญ่โตเหมือนที่เคยเป็นมา ขณะที่คนอื่นมาถึงกันแล้ว รถม้าของนางกลับค่อยๆ แล่นมาอย่างเชื่องช้า ถึงอย่างนั้นก็ยังรักษาเวลา ไม่ได้มาสายแต่อย่างใด ในบรรดาตระกูลชั้นสูงในที่แห่งนั้น มีไม่น้อยที่เป็นผู้อาวุโสผู้ทรงภูมิและมีชื่อเสียง แม้ไม่ค่อยพอใจ แต่ก็ไม่อาจพูดอะไรได้
เซี่ยซูเลิกม่านแล้วเดินออกมา ทุกคนพากันคำนับ ตระกูลชั้นสูงแต่ละตระกูลเมื่อเห็นท่าทางของนางเปี่ยมด้วยมารยาทและดูสง่างาม ไม่มีข้อใดให้ตำหนิได้ ความไม่พอใจต่อการเดินทางครั้งนี้จึงลดลงมาก
พูดทักทายตามมารยาทสองสามประโยค และไม่ลืมที่จะเอ่ยชื่นชมคุณธรรมและอัจฉริยภาพของฮ่องเต้อีกสักหน่อยแล้ว เซี่ยซูก็ร้องสั่งให้ออกเดินทางได้