บทที่ 7
ลู่ซีฮ่วนในยามนี้กำลังรีบร้อนเดินทางไปพร้อมกับพวกคนจากตระกูลต่างๆ ทำทีเหมือนว่าตนเองก็พลอยตระหนกตกใจไปด้วย
พวกตระกูลใหญ่ฝ่ายเหนือที่เดินทางมาด้วยต่างเย้ยหยันว่าลู่ซีฮ่วนขี้ขลาด เขาก็เพียงตีสีหน้าเย็นชาไม่คิดโต้ตอบ เพียงหันไปสบตากับคุณชายสกุลกู้ ทั้งสองมองหน้าแล้วยิ้ม…ต่างคิดเหมือนกันในใจ
พวกเจ้าเหล่าคนหยาบช้าสามานย์ ดูซิว่าจะยังวางกร่างได้อีกสักเท่าไร
เซี่ยซูในตอนนี้ก็กำลังเดินทางอย่างเร่งรีบเช่นกัน นางถูกชายร่างกำยำจับตัวไว้ จุดหมายปลายทางที่กำลังมุ่งไปนั้นล้วนปิดไว้เป็นความลับ พวกเขาจงใจใช้ทางสายเล็กในการเดินทาง
คนกลุ่มนั้นคงจะนึกดูถูกเซี่ยซูจึงไม่ได้มัดนางเอาไว้ เพียงบีบให้นางอยู่ตรงกลาง นางเองก็แสดงท่าทีอย่างว่าง่าย ไม่ร้องโวยวาย ยอมเดินตามพวกเขาไปแต่โดยดี ไม่มีท่าทีต่อต้านเลยสักนิด
เดินไปได้สี่ห้าหลี่ ทุกคนเห็นใบหน้าของเซี่ยซูซีดขาวและดูเชื่อฟังเป็นอย่างดี ก็รู้ว่าคนผู้นี้กำลังหวาดกลัว ในใจพลันนึกเย้ยหยัน ค่อยๆ ลดการระแวดระวังลงไป
เซี่ยซูแอบสำรวจรอบด้าน นางเหลือบสายตาไปเห็นว่าทุ่งนาข้างหน้ามีหุ่นไล่กาตั้งอยู่ก็ลอบจดจำเอาไว้
เดินไปอีกสักพักก็มีแม่น้ำปรากฏอยู่ในสายตา เซี่ยซูคิดอ่านอย่างฉับไว นางใช้นิ้วหัวแม่มือกดลงไปที่ลำคอแรงๆ ทันใดนั้นก็โก่งคออาเจียน
“เป็นอะไรไปน่ะ!” บุรุษตาเฉี่ยวที่เดินนำหน้ากลับหลังเดินมาหา เห็นเซี่ยซูโก่งคออาเจียนอย่างเอาเป็นเอาตายก็ปิดจมูกพลางร้องด่า “สมเป็นไอ้สวะที่เอาแต่สวาปามทั้งวันทั้งคืน กินจนต้องอาเจียนออกมาเลยเชียวรึ!”
เซี่ยซูหันมองเขาด้วยสีหน้าอิดโรย เอ่ยอย่างน่าสงสารว่า “ท่านผู้กล้าช่วยพาข้าไปล้างตัวหน่อยได้หรือไม่”
บุรุษตาเฉี่ยวเห็นเซี่ยซูอาเจียนเสียจนเสื้อผ้าเปรอะเปื้อนไปหมดก็ร้องด่าอีก “มารดามันเถอะ! น่าขยะแขยงชะมัด!”
เซี่ยซูหดคอแล้วนิ่วหน้าทำทีเหมือนพยายามจะกลั้นอาเจียนไว้อย่างเต็มที่
บุรุษตาเฉี่ยวด่าไม่ออกอีกแล้ว ใบหน้าเซี่ยซูนั้นดูงดงามปานรูปสลัก ดวงตาปิดแน่นเหมือนสะกดกลั้นถ้อยคำเป็นพันเป็นหมื่นเอาไว้ นิ่วหน้าเหมือนเก็บซ่อนความระทมขมขื่นอันแสนสาหัส เป็นแค่เด็กหนุ่มคนหนึ่งเท่านั้นกลับน่ามองเสียยิ่งกว่าหญิงสาวคนใดที่เขาเคยได้พบเห็น เดิมทีเขาทำท่ากระโชกโฮกฮาก แต่แล้วกลับตะคอกไม่ออก ได้แต่กระแอมไอทีหนึ่ง ร้องอืมแล้วหันกลับไป โบกมือพลางเอ่ยว่า “ไปซะไป รีบไปแล้วก็รีบกลับ!”
สีหน้าเซี่ยซูตื่นเต้นยินดียิ่ง นางเอ่ยขอบคุณครั้งแล้วครั้งเล่าพร้อมกับเผยรอยยิ้มเจิดจ้า ทำเอาคนมองนัยน์ตาพร่าเลือนทีเดียว บุรุษตาเฉี่ยวแอบก่นด่าแล้วสั่งให้คนสองคนพานางไปที่ริมฝั่งแม่น้ำ กำชับแล้วกำชับอีกว่าต้องคอยจับตาดูให้ดี
สองคนนั้นพาเซี่ยซูไปถึงริมฝั่ง หยุดอยู่ห่างจากนางแค่ไม่กี่ก้าว แต่เห็นได้ชัดว่าไม่ได้ใส่ใจอะไรนัก ทั้งยังหละหลวมไม่คอยระวังให้ดี
เซี่ยซูสบโอกาสก็กระโดดลงไปในแม่น้ำแล้วรีบว่ายตามกระแสน้ำไป
สองคนเพิ่งได้สติก็ขวัญกระเจิงทันที พวกเขาคิดไม่ถึงว่าพวกลูกหลานชนชั้นสูงเหล่านี้จะว่ายน้ำเป็น ทั้งยังว่ายไปอย่างว่องไวอีกด้วย
“พวกเรามานี่หน่อย อัครเสนาบดีหนีไปแล้ว!”
บุรุษตาเฉี่ยวรีบนำคนวิ่งมา ด้านหนึ่งตะคอกสั่งให้พรรคพวกออกตามหา อีกด้านหนึ่งก็ก่นด่าคนทั้งสอง “ให้ตายเถอะ! คิดจะทำให้ชาวบ้านแถบนี้รู้กันหมดหรือว่าเราจับตัวใครมา? อยากตายนักหรือ!”
แถบเจียงหนานมีคนว่ายน้ำได้คล่องแคล่วอยู่มากมาย เพียงไม่นานก็มีชายฉกรรจ์หลายคนกระโดดลงแม่น้ำตามไล่ล่าเซี่ยซู การว่ายตามกระแสน้ำทำให้เคลื่อนตัวไปได้รวดเร็วมากก็จริง แต่พวกเขามากันหลายคน ครึ่งหนึ่งจึงไปดักจับตามเส้นทางลัดริมฝั่งแม่น้ำ อีกครึ่งคอยระวังหลังในแม่น้ำ ไม่ต้องกังวลเลยว่าจะจับตัวกลับมาไม่ได้