ถูกรั้งไว้เช่นนี้ จนในที่สุดกลุ่มที่ออกไปท่องเที่ยวก็กลับมาก่อนเวลา
หวนถิงร้องตะโกนด้วยท่าทางยินดี “จ้งชิงโชคดียิ่งนัก เขาได้เจอกวางป่า ยิงออกไปดอกเดียวทะลุหน้าผากตรงๆ เลย”
คุณชายหยวนเพ่ยหลิงจากสกุลหยวนก็ยิ้มอยู่ข้างๆ “ดูท่าทางเจ้าสิ ใครไม่รู้จะนึกว่าตัวเจ้าเป็นคนล่ามาเอง”
เว่ยอี้จือขี่ม้ามา เขาสวมเสื้อแขนกว้าง ข้างหน้ายังวางซากกวางพ่วงพีตัวหนึ่งมาด้วย
หยางจวี้ก้าวเข้ามาพลางยิ้มเอ่ยว่า “กลับไปเซียงฮูหยินต้องได้รองเท้าหนังกวางเพิ่มมาอีกหลายคู่แน่ เนื้อกวางตัวนี้เจ้าต้องแบ่งให้ทุกคนด้วยนะ”
“แน่นอน”
หวนถิงเห็นเว่ยอี้จือใจกว้างเช่นนี้ก็ทำตาวาว “ข้าก็อยากได้รองเท้าหนังกวางเช่นกัน จ้งชิง ข้าขอหนังกวางสักครึ่งผืนสิ!”
หยวนเพ่ยหลิงรีบรั้งตัวเขาเอาไว้ หันไปทางหวังลั่วซิ่วแล้วขยิบตาบอกเป็นนัย ความหมายก็คือ…ตรงนั้นยังมีลูกพี่ลูกน้องหญิงอยู่อีกคน ไหนเลยจะตกมาถึงเจ้าได้
เว่ยอี้จือไม่ได้ตอบรับในทันที ทันใดนั้นเขาก็หันไปมองเซี่ยซูแล้วเอ่ยว่า “หนังกวางครึ่งผืนให้ท่านแม่ ยังมีอีกครึ่งหนึ่ง เช่นนั้นก็ให้ท่านอัครเสนาบดีเอาไปทำรองเท้าแล้วกัน”
เซี่ยซูถามอย่างแปลกใจ “ให้จริงรึ!”
เว่ยอี้จือพยักหน้ายืนยัน “ท่านเป็นหัวหน้าของเหล่าขุนนาง นี่ก็เป็นเรื่องสมควรแล้ว”
ใช่สิ อู่หลิงอ๋องให้หนังกวางถูกคนแล้ว ในที่นี้จึงไม่มีผู้ใดเอ่ยคัดค้าน
ตอนที่เข้าเมืองก็เป็นเวลาย่ำค่ำแล้ว ตะวันจวนลับตา ทว่าสองข้างทางกลับมีผู้คนอยู่กันอย่างแน่นขนัด ครึ่งหนึ่งกวาดตาหาอัครเสนาบดีอย่างเบื้อใบ้ อีกครึ่งเหม่อมองหาอู่หลิงอ๋องอยู่เงียบๆ
ไม่ช้าก็มีคนตาดีพบว่าในขบวนม้าของสกุลเว่ยมีรถม้าที่ดูไม่ธรรมดาเพิ่มขึ้นมาอีกคันหนึ่ง ทั้งยังแล่นตามรถม้าของอู่หลิงอ๋องไปติดๆ อีกด้วย ยามม่านรถปลิวไสวไปตามสายลมก็เผยให้เห็นรองเท้าและชายกระโปรงของคนรับใช้หญิงอย่างไม่ได้ตั้งใจ คิดแล้วคนที่นั่งมาจะต้องเป็นญาติฝ่ายหญิงเป็นแน่
ฝ่ายที่สนับสนุนอู่หลิงอ๋องพากันใจหาย
จวิ้นอ๋องไปไคว่จีคราวนี้พาหญิงสาวกลับมาด้วย ใช้หัวแม่เท้าคิดก็รู้ได้ว่าเกิดอะไรขึ้น
หัวใจแหลกสลายไม่มีชิ้นดีแล้ว
มู่ไป๋ซึ่งเจ็บหนักยังไม่หายดีหลังชะโงกหน้าออกไปมองข้างนอกแล้วก็พลิกกายกลับเข้ามาในรถด้วยท่าทางปลาบปลื้ม พูดกับเซี่ยซูว่า “คุณชาย บ่าวว่าอีกไม่นานอู่หลิงอ๋องคงไม่อาจโดดเด่นเทียบท่านได้แล้วล่ะ”
เซี่ยซูกำลังคิดเรื่องอื่น เมื่อได้ยินเช่นนั้นก็ตะลึง “อะไรนะ”
“ท่านคิดดูสิ เมื่อใดที่อู่หลิงอ๋องแต่งงาน หญิงสาวในเมืองที่หลงใหลในตัวเขาก็จะพากันเปลี่ยนมาสนับสนุนท่านแทนแล้ว”
การสนับสนุนที่ว่าจะมีประโยชน์อันใดเล่า
เซี่ยซูลูบศีรษะมู่ไป๋อย่างนึกเอ็นดู “เจ้าดูแลตนเองให้หายเจ็บเถอะนะ”
มู่ไป๋จึงเบ้ปากแล้วถอยหลังไป