เว่ยอี้จือฟังนางพูดจนอดหัวเราะไม่ได้ ทันใดนั้นก็ตกตะลึง “จิงโจวรึ ข้าจำได้ว่าแปดปีก่อนหลังเกิดภัยแล้งก็มีตั๊กแตนระบาด พืชผลเก็บเกี่ยวไม่ได้ ชาวบ้านอดอยากไปทั่ว เจ้ากลับมาบ้านสกุลเซี่ยตอนนั้นเองหรือ”
เซี่ยซูตะลึงงัน มุมปากยังกระตุกด้วย “แม้แต่เรื่องนี้เจ้าก็รู้ด้วยรึ”
“เจ้าลืมไปแล้วหรือว่าจิงโจวอยู่ติดกับเมืองอู่หลิง”
“อ้อ จริงด้วย” เซี่ยซูก้มหน้าล้างรากบัว ไม่พูดไม่จาอะไรอีก
นั่นเป็นความทรงจำเมื่อนานมาแล้ว ผืนดินแตกระแหงมีแต่ตั๊กแตนบินว่อนไปทั่ว และเสียงร้องคร่ำครวญด้วยความหิวโหย…
นางไปขโมยของกินในพื้นที่ห่างไกลกับสหายกลุ่มหนึ่ง ทุกครั้งที่ไปล้วนเหมือนเคลื่อนพลออกรบ ตอนนั้นถือเป็นภารกิจที่สูงส่ง เนื่องจากทุกคนต่างก็แบกความเป็นความตายของคนทั้งครอบครัวเอาไว้
ภายหลังพวกสหายก็ค่อยๆ หายหน้าไปทีละคนสองคน บางคนอดตาย บ้างก็ถูกขายออกไป ยังมีบางคนถูกทุบตีเสียน่วมหลังจากออกไปขโมยของกินแล้วถูกจับได้ บาดเจ็บจนล้มป่วย ยื้อได้ไม่กี่เดือนก็ป่วยตาย
ชีวิตคนไร้ค่า…สิ่งที่มีค่าคืออาหาร
ความทรงจำช่วงนั้นโหดร้ายยิ่งนัก นางไม่อยากหวนกลับไปคิดอีกแล้ว
จำต้องบอกว่าคนสกุลเซี่ยปรากฏตัวได้ประจวบเหมาะพอดี ขณะที่นางและมารดาไร้ทางออก พวกเขาก็ส่งทางรอดมาให้
“หรูอี้ เหมือนข้าจะไม่เคยได้ยินเจ้าพูดถึงมารดาของเจ้ามาก่อนเลย” เว่ยอี้จือเห็นเซี่ยซูล้างรากบัวอยู่นานแล้วก็ยังล้างไม่เสร็จ จึงต้องพูดขึ้นมาเพื่อดึงนางออกจากห้วงความคิด
“มารดาข้า…” นางนั่งยืดหลังตัวตรง แล้วหันมายิ้มให้เขา “ตายไปแล้วเมื่อแปดปีก่อน”
เว่ยอี้จือตกตะลึงกับรอยยิ้มของเซี่ยซู นั่นมิใช่รอยยิ้มแบบที่เขาเคยเห็น
“ข้าล่วงเกินเจ้าแล้ว ขออภัยด้วย”
“ไม่เป็นไร เรื่องก็ผ่านมานานแล้ว” เซี่ยซูไม่คิดจะถือสา
แม้เว่ยอี้จือจะไม่เคยได้เห็นภัยพิบัติจากการระบาดของตั๊กแตนด้วยตาตนเอง แต่เขาก็เคยได้ยินมาบ้าง เมื่อมองดูเซี่ยซูอีกครั้ง จะมากน้อยก็มีอะไรบางอย่างที่ดูแตกต่างออกไป
“ว่ากันว่าหากรอดชีวิตจากเหตุเภทภัยครั้งใหญ่มาได้ ย่อมต้องประสบสุขในภายหลัง ต่อจากนี้ไม่ว่าเจ้าจะทำการสิ่งใดย่อมราบรื่น”
เซี่ยซูส่งรากบัวรากหนึ่งให้เขา นางหัวเราะร่าแล้วเอ่ยว่า “ข้าขอแค่ให้เรื่องเฉพาะหน้านี้ผ่านไปได้ก็พอใจแล้ว”
เว่ยอี้จือรับมากัดคำหนึ่งแล้วค่อยๆ เคี้ยวชิมลิ้มรส เขาพบว่ารากบัวนี้มันทั้งกรอบและหวาน สิ่งนี้น่ะหรือที่เลี้ยงดูปากท้องของคนผู้นี้มาก่อน
เขามองดูเซี่ยซูแวบหนึ่ง จู่ๆ ก็รู้สึกว่าตนเองราวกับไม่เคยเข้าใจเกี่ยวกับคนผู้นี้เลย
ทว่าการรอคอยของพวกเขายังไม่ประสบผล หวังจิ้งจือยังไม่ทันมา ทหารที่ไล่ตามก็เป็นฝ่ายหวนกลับมาก่อน
กลุ่มคนที่มาตามหาก่อนหน้านี้อาจจะโง่เขลา แต่บุรุษตาเฉี่ยวมิใช่คนที่จะหลอกลวงได้ง่ายๆ พอหาหลายรอบแล้วไม่พบก็คาดเดาได้ว่าตนเองถูกหลอกแล้ว ดังนั้นจึงนำกำลังคนหวนกลับมาอีกรอบทันที
เซี่ยซูได้ยินเสียงคนก็รีบวักน้ำดับไฟ อาทิตย์อัสดงจวนลับตาไปหมดแล้ว รอบด้านมืดครึ้มลง เว่ยอี้จือกลับยังกัดกินรากบัวอย่างไม่รีบไม่ร้อน ดูเหมือนเขาเพิ่งจะพบความยอดเยี่ยมของเจ้าสิ่งนี้ จึงกินเอาๆ ด้วยความเอร็ดอร่อย
ทางบนภูเขาค่อนข้างราบ จึงบุกฝ่าขึ้นไปได้เร็ว ไม่ช้าบุรุษตาเฉี่ยวก็มาถึง
“อยู่ที่นี่นั่นเอง รีบไปจับตัวมา!”