ฮ่องเต้ไม่โปรดปรานรัชทายาท แต่ที่เซี่ยซูพูดมาก็มีเหตุผล มีคนอยากจะโค่นบัลลังก์ของพระองค์ คนที่เหมาะสมที่จะออกหน้าจัดการมากที่สุดย่อมต้องเป็นฮ่องเต้เองและว่าที่ฮ่องเต้ในอนาคต ไม่มีตระกูลใหญ่ตระกูลใดอยากจะเข้าไปพัวพันกับการแก่งแย่งอำนาจการปกครองหรอก ทุกคนย่อมรู้อยู่แก่ใจ
ตอนนี้เว่ยอี้จือจึงหันไปประสานมือคารวะฮ่องเต้แล้วเอ่ยว่า “กระหม่อมก็คิดว่าอัครเสนาบดีเซี่ยไม่อาจแบกรับงานใหญ่เช่นนี้ได้ ฝ่าบาทอย่าทรงลืมว่าเรื่องคดีเล่ออัน ท่านอัครเสนาบดีก็กระทำการไปโดยไม่ได้ขออนุญาตอย่างเป็นทางการนะพ่ะย่ะค่ะ”
เซี่ยซูชักสีหน้าไม่พอใจทันที “ที่อู่หลิงอ๋องทูลนั้นหมายความว่าอะไร ข้าทำไปโดยคำนึงถึงชาติบ้านเมืองเป็นสำคัญต่างหาก หากจัดการเรื่องเล่ออันอย่างเปิดเผย ข้าจะทำอะไรเขาได้เล่า”
เว่ยอี้จือหันไปทางฮ่องเต้ คร้านที่จะมองเซี่ยซู
ฮ่องเต้ไม่มีใจจะมาเพลิดเพลินกับการโต้ฝีปากของทั้งสองคน จึงโบกมือกล่าวว่า “เอาเถอะ ให้รัชทายาทจัดการก็แล้วกัน”
ตอนที่ออกจากวังก็ใกล้จะฟ้าสางแล้ว เซี่ยซูจงใจเดินช้ารอให้เว่ยอี้จือออกมา แล้วจึงตรงเข้าไปขอบคุณเขา “เมื่อครู่นี้ขอบคุณจ้งชิงด้วยที่ช่วยไว้”
“เจ้ากับข้าเป็นพี่น้องกัน ขอแค่เจ้าอยากเป็นพี่น้องกับข้าไปชั่วชีวิตก็พอแล้ว” เว่ยอี้จือมองท้องฟ้าแล้วพูดอย่างเสียดายว่า “เดิมทีกำจัดหายนะได้เช่นนี้ก็ควรไปดื่มเฉลิมฉลองด้วยกัน แต่เวลานี้ฟ้ายังไม่ทันสางดี ร้านขายสุราคงยังไม่เปิด”
เซี่ยซูยิ้มเอ่ย “เช่นนั้นก็รอให้ถึงวันพรุ่งนี้ดีหรือไม่ เป็นวันหยุดพอดี”
“ก็ดี”
ทั้งสองบอกลากัน ต่างคนต่างกลับจวน
ทันทีที่เซี่ยซูมาถึงจวนนางก็รีบหาลูกกระเดือกปลอมอันนั้นแทบพลิกทั้งเรือน
ของสิ่งนี้ใครทำขึ้นเซี่ยซูก็ไม่อาจทราบได้ เซี่ยหมิงกวงทำเช่นไรจึงได้มานางก็ไม่ทราบ นางนั่งอยู่หน้าคันฉ่องทองเหลือง เปิดกล่องที่งามประณีตใบนั้น ท่าทางราวกับกำลังจะหยิบอาวุธออกไปรบก็ไม่ปาน
ขณะกำลังพยายามจะติดลูกกระเดือกปลอมที่คอ เซี่ยหร่านก็เข้ามาในห้อง เพิ่งเอ่ยว่า “ท่านอัครเสนาบดี” เขาก็ได้ยินเสียงพรึบพรับดังมาจากด้านหลังฉากกันลม
ด้วยความสงสัยเซี่ยหร่านจึงอ้อมไปดู เห็นเซี่ยซูกำลังนั่งอยู่หลังโต๊ะตัวเล็กอย่างเรียบร้อย มือถือหนังสือกำลังอ่านด้วยท่าทางเอาจริงเอาจัง
“อ้าว ทุ่ยจี๋นั่นเอง”
เซี่ยหร่านมองไปรอบๆ ก็ไม่เห็นมีอะไรผิดปกติ เขายังคิดว่าตนเองอาจหูฝาดไป
“ข้าจะมาถามท่านว่าเรื่องของลู่ซีฮ่วนเป็นเช่นไรบ้าง”
“อ้อ เรื่องนี้ฝ่าบาททรงให้รัชทายาทไปจัดการแล้ว เรื่องต่อจากนี้ข้าไม่ต้องเข้าไปยุ่งเกี่ยวแล้วล่ะ”
“เป็นเช่นนี้ก็ดี” เซี่ยหร่านยังไม่คิดจะจากไป เขาจึงนั่งพับขาลงต่อหน้าเซี่ยซู จู่ๆ ก็เอ่ยถามขึ้นว่า “ท่านกับอู่หลิงอ๋องมีความสัมพันธ์ใดต่อกัน”