เซี่ยซูเอาพัดป้องปากพลางยิ้มจนตาหยี “เรื่องของสตรีน่ะ เจ้าถามอะไรกันนี่” พูดจบนางก็เร่งฝีเท้าตามหวังจิ้งจือไป
เว่ยอี้จือนิ่งอึ้งไปครู่หนึ่ง รอยยิ้มเช่นนี้เขาเคยเห็นมาก่อน คำพูดเช่นนี้ก็ใช่ว่าไม่เคยได้ยิน แต่การที่เซี่ยซูพูดและยิ้มด้วยท่าทางเช่นนี้กลับเพิ่งเคยได้เห็นเป็นครั้งแรก ทำหน้าทำตามีเลศนัย เล่นเอาเขางุนงงไปเลยทีเดียว
คนเหล่านั้นนั่งฟังเซี่ยซูคุยโวอยู่พักหนึ่ง หวังจิ้งจือเห็นว่าฟ้าจวนมืดแล้วก็เชิญให้ทุกคนอยู่กินข้าวก่อน หวนถิงกับหยวนเพ่ยหลิงกลับอยากจะไปดูนักระบำที่เพิ่งรับตัวมาใหม่ที่บ้านหยางจวี้ จึงบอกปัดอย่างแนบเนียน หวนถิงรู้สึกว่ายังสนุกไม่ถึงใจ ฉับพลันก็นึกถึงลูกพี่ลูกน้องของตนเอง เขาจึงรบเร้าเซี่ยซูให้ไปด้วยกัน
เซี่ยซูมุมปากกระตุกอยู่พักหนึ่ง นางฝืนยิ้มปฏิเสธ “ช่างเถอะ ข้าไม่ค่อยสนใจเรื่องพรรค์นั้นเท่าไร”
หยวนเพ่ยหลิงคอยสะกิดเตือน พยายามขยิบตาให้
หวนถิงจึงค่อยรู้สึกตัว แล้วร้องออกมาอย่างประหลาดใจ “พี่ชายชอบบุรุษจริงหรือนี่! ข้ายังคิดว่าคนเขาลือกันไปเองเสียอีก ท่านเป็นเช่นนี้ สกุลเซี่ยมิขาดผู้สืบสกุลหรอกหรือ”
“พรืด!” เซี่ยซูถึงกับสำลักชาออกมา
หวังจิ้งจือทนไม่ไหวกุมท้องพลางหัวเราะร่า หัวเราะไปก็หันไปขอโทษเซี่ยซู “ขอ…ขออภัยท่านด้วย ข้าอดไม่ไหวจริงๆ ฮ่าๆๆ”
หยางจวี้ถอนหายใจอยู่ข้างๆ “เอินผิงพูดจาเหลวไหลอีกแล้ว”
พวกเขาทั้งสอง คนหนึ่งหัวเราะร่าอีกคนถอนหายใจ ทำเอาหวนถิงหน้าแดงหูแดงไปหมด บ่นอุบว่า “เช่นนั้นข้าไม่พูดก็ได้ แต่พี่ชาย ท่าน…ท่านจะต้องแต่งงานนะ!”
เซี่ยซูคลี่พัดออกมาโบกไปมา จงใจเอ่ยเย้าเล่น “เช่นนั้นหากเจ้าพบคนที่น่าสนใจก็จงจำไว้ว่าต้องแนะนำให้พี่ชายด้วยนะ”
หวนถิงทำหน้าม่อยคอตก ถูกลือไปทั่วว่าชมชอบบุรุษ หากลูกสาวบ้านใดต้องแต่งกับท่าน จะต้องรู้สึกว่าไม่เป็นธรรมแน่ๆ
เว่ยอี้จือเหลือบมองเซี่ยซู ทำสีหน้าเหมือนจะยิ้มแต่ก็ไม่เชิง “หากข้ารู้ว่าบ้านไหนมีหญิงสาวที่เพียบพร้อม จะคอยมองๆ ไว้ให้เจ้าเอง”
ชิ ล้อเขาไว้หลายครั้ง กลับถูกล้อคืนเสียแล้ว เซี่ยซูคิ้วกระตุก “เช่นนั้นก็ขอบคุณอู่หลิงอ๋องมาก”
“ท่านอัครเสนาบดีอย่าได้เกรงใจ”
ในที่สุดทั้งกลุ่มก็ไม่ได้อยู่กินข้าว ต่างคนต่างบอกลาแล้วจากไป หวังจิ้งจือเห็นเซี่ยซูมาคนเดียวไม่มีผู้ติดตาม จึงจะให้คนบังคับรถม้าไปส่ง เดิมทีเว่ยอี้จือคิดว่าจะให้เซี่ยซูติดรถไปด้วย เห็นเช่นนั้นแล้วก็กลืนคำพูดกลับลงไป กล่าวลาแล้วกลับจวน
พอพ่อบ้านรู้ว่าเว่ยอี้จือเพิ่งกลับมาจากที่ใด เขาก็ยิ้มเอ่ยว่า “หากฮูหยินทราบว่าจวิ้นอ๋องไปบ้านพักรับรองสกุลหวังมา คงไม่จัดแจงเรื่องนี้แน่”
เว่ยอี้จือฟังแล้วนึกสงสัย “จัดแจงอะไรกัน”
พ่อบ้านยิ้มอย่างมีเลศนัย แล้วพูดอย่างกำกวมว่า “อีกไม่ช้าจวิ้นอ๋องก็จะรู้เอง”
เว่ยอี้จือย่อมได้รู้ในไม่ช้าแน่ เขากินข้าวแล้วกลับห้องของตนเองได้ไม่นานก็มีสาวน้อยหน้าตาสะสวยนางหนึ่งยกน้ำร้อนเข้ามา พลางก้มหน้าพูดด้วยท่าทางเขินอาย “ฮูหยินให้บ่าวมาคอยปรนนิบัติจวิ้นอ๋องอาบน้ำพักผ่อนเจ้าค่ะ”