หวังจิ้งจือกับน้องสาวใกล้จะกลับไปไคว่จีแล้ว เซียงฮูหยินจึงจัดงานเลี้ยงรับรองให้บนเรือสำราญซึ่งอยู่ใกล้เคียงกันพอดี
หวังลั่วซิ่วตาไว เห็นเซี่ยซูนั่งอยู่ตรงที่นั่งอันโดดเด่นในเรือลำใหญ่ ท่ามกลางราตรีของฤดูคิมหันต์เช่นนี้ เซี่ยซูสวมใส่ชุดสีดำ เมื่ออยู่ภายใต้แสงโคมไฟก็ยิ่งดูโดดเด่นตัดกับปากแดงฟันขาว
เซียงฮูหยินเห็นหวังลั่วซิ่วมีท่าทางเหม่อลอยก็มองตามสายตาของนางไป พอเห็นว่าเป็นเซี่ยซูก็นึกรังเกียจนัก ได้แต่ข่มเสียงแล้วเอ่ยเตือน “ลั่วซิ่ว เจ้าคงเคยได้ยินข่าวที่ว่าท่านอัครเสนาบดีชมชอบบุรุษแล้วสินะ”
หวังลั่วซิ่วอมยิ้มแล้วเอ่ย “เรื่องนั้นน่าจะเป็นคนนอกลือกันผิดๆ ไปเองเจ้าค่ะ”
เซียงฮูหยินขยำผ้าเช็ดหน้าในมือแน่น สีหน้าทุกข์ร้อน นางหันไปถลึงตาใส่เว่ยอี้จือ ยังคิดไปว่าช่วงนี้ท่าทางเขาเหมือนจะมีใจให้หวังลั่วซิ่วเสียอีก เหตุใดจึงไม่สำเร็จเสียทีเล่า!
ที่จริงเว่ยอี้จือมองออกตั้งนานแล้วว่าเป็นเรือลำใหญ่ของเซี่ยซู ทว่าเขาเพียงแสร้งทำเป็นไม่ได้ใส่ใจมอง เวลานี้ได้ยินพวกนางพูดกันจึงค่อยเงยหน้ามองไป พอเห็นว่ารัชทายาทนั่งอยู่ข้างๆ เซี่ยซู เขาก็ลุกเดินออกจากห้องรับรองในเรือสำราญทันที
หวังจิ้งจือนึกสงสัยจึงเดินตามออกมา “อู่หลิงอ๋องเป็นอะไรไปหรือ”
คิ้วที่ขมวดมุ่นของเว่ยอี้จือคลายลง “ไม่มีอะไรหรอก เพียงแค่เห็นท่านอัครเสนาบดีในงานเลี้ยงเท่านั้นเอง”
“หืม?” หวังจิ้งจือหันไปมอง แขกเหรื่อในเรือนั้นต่างคนต่างก็มีหน้ามีตา ยิ่งได้เห็นรัชทายาทอยู่ในนั้นด้วย เขาก็เข้าใจทันทีว่าเกิดอะไรขึ้น
“อู่หลิงอ๋อง ท่านอัครเสนาบดีเก่งกาจในการเอาชนะใจคนนัก เรื่องนี้เจ้ายังเทียบไม่ติด ฮ่าๆ”
เว่ยอี้จือย่อมเข้าใจความหมายที่หวังจิ้งจือจะสื่อ นี่เป็นการบอกเป็นนัยๆ ว่าเขาควรจะมาร่วมมือกับสกุลหวัง
“ท่านเจ้าเมืองกล่าวได้ถูกต้องแล้ว”
หวังจิ้งจือหันไปมองน้องสาว หัวเราะเบาๆ แล้วเอ่ยว่า “ไม่ทราบว่าเมื่อใดอู่หลิงอ๋องจึงจะไปที่ไคว่จีอีกครั้ง”
เว่ยอี้จือเห็นใบหน้ายิ้มแย้มแจ่มใสดุจวสันต์ของเซี่ยซูก็นิ่งเงียบไปนานแล้วเอ่ยว่า “ควรจะไปเมื่อใดก็ย่อมต้องไป”
วันต่อมา เมื่อฮ่องเต้ได้ทราบข่าวนี้ก็ยิ่งไม่สบอารมณ์
เซี่ยซูช่วยให้รัชทายาทได้รับแรงสนับสนุนจากตระกูลใหญ่มากมายถึงเพียงนั้น โอกาสที่อู่หลิงอ๋องจะเกี่ยวดองกับสกุลหวังก็ยิ่งชัดเจนขึ้นทุกที
เฮ้อ เริ่มปวดหัวตุบๆ ขึ้นมาอีกแล้ว
คาดไม่ถึงว่าเซี่ยซูจะเข้าวังมายั่วโทสะพระองค์ในเวลานี้อีก บอกว่าที่รัชทายาทอยากออกบวชเป็นเพราะข้างกายมีคนชักนำไปในทางที่ไม่ถูกไม่ควร ควรจะเลือกสรรคนที่มีความสามารถสักหน่อยมารับหน้าที่เป็นผู้ติดตามของรัชทายาท
ฮ่องเต้บีบนวดขมับก่อนจะเอ่ยถาม “แล้วเจ้าคิดว่าใครกันที่เหมาะสม”
“เซี่ยหร่าน ท่านอาของกระหม่อมสามารถรับหน้าที่นี้ได้พ่ะย่ะค่ะ”
คนสกุลเซี่ยอีกแล้วรึ! ฮ่องเต้แทบอยากจะกระอักเลือดอยู่เงียบๆ