เป็นถึงเจ้าความรู้ แต่ต้องมาทนรับความรู้สึกของการถูกมองว่าไร้ตัวตน เทียบไม่ได้กระทั่งคนเรียนแย่อย่างคุณชายเมิ่ง เช่นนี้มัน…
ฉืออิ๋งหายใจเข้าลึกๆ วิญญูชนแก้แค้นหนึ่งชั่วยาม ก็ไม่สาย
สอนจนเสร็จสิ้นแล้ว ไป๋สิงเจี่ยนก็ออกจากสำนักศึกษาเจาเหวิน ก่อนขึ้นเกี้ยวเพื่อเดินทางกลับหลันไถ
เกี้ยวของหัวหน้าสำนักหลันไถก็เป็นเหมือนกับตัวเขา เพียงแค่พบเห็นยังคิดหลบแทบไม่ทันเลย ได้ยินว่าเคยมีคนไม่หลีกทางให้เกี้ยวของหัวหน้าสำนักหลันไถ พอถึงสิ้นปีคนผู้นั้นก็ถูกลดขั้น ทว่าเขาไม่ยอมรับ วิพากษ์วิจารณ์กรมปกครองว่าทำการปกปิดเรื่องเลวร้าย ร้องเรียนให้ที่ว่าการทุกแห่งตรวจสอบหาความกระจ่างอย่างดุเดือด
ผลลัพธ์ก็เป็นไปตามที่เขาปรารถนาจริงๆ กรมปกครองเปิดเผยผลการตรวจสอบ โดยติดประกาศประวัติด้านมืดของคนผู้นี้ที่มีทั้งหมดตั้งแต่อายุสิบแปดไปจนถึงสามสิบแปดปี วันเดือนปีใดขโมยวัวของหมู่บ้านข้างเคียง วันเดือนปีใดไปมีความสัมพันธ์กับแม่ม่ายในหมู่บ้านจนฝ่ายหญิงตั้งครรภ์ คนผู้นี้ทั้งอับอายทั้งโกรธแค้นจนยากจะรับไหว เขาแทบกระอักเลือดออกมาเสียตรงนั้น คิดไม่ถึงเลยว่าจุดด่างพร้อยในอดีตจะถูกขุดคุ้ยออกมาได้ ภายหลังมีคนในกรมปกครองที่ไม่ต้องการเปิดเผยชื่อเกิดเห็นอกเห็นใจเขาขึ้นมา บอกเขาว่าคำตอบเหล่านี้ล้วนมาจากสถานที่ที่เก่งกาจในการขุดคุ้ยประวัติด้านมืดของผู้อื่น เพียงแค่ออกนอกประตูแล้วเลี้ยวซ้ายก็จะเจอกับหลันไถ
ไม่มีใครสงสัยความสามารถในการขุดคุ้ยเรื่องราวต่างๆ ของหลันไถ กระนั้นใครบ้างที่จะไม่มีจุดด่างพร้อย โดยเฉพาะบรรดาคนใหญ่คนโตที่มีตำแหน่งสูง ในแวดวงขุนนางนี้ใครกล้าบอกว่าตนเองขาวสะอาดบ้าง ดังนั้นยิ่งมีตำแหน่งสูงและมากอำนาจเพียงใด พวกเขาก็จะยิ่งเกรงกลัวหลันไถมากเท่านั้น เนื่องจากไม่อาจรู้ได้เลยว่าวันใดหัวหน้าสำนักหลันไถจะนึกอยากเขียนบันทึกประวัติให้หรือไม่ เพราะหากมีวันนั้น เรื่องราวดำมืดทุกเรื่องในอดีตจะล้วนถูกขุดรากถอนโคนขึ้นมา ทั้งหมดนี้ล้วนเป็นเพราะความรักที่หัวหน้าสำนักหลันไถมีต่อคนผู้นั้นทั้งสิ้น
ดังนั้นทุกคนจึงไม่อยากให้หัวหน้าสำนักหลันไถพุ่งความสนใจมาที่ตนเอง พยายามไม่ทำให้ตนเองมีตัวตนอยู่ต่อหน้าเขา สถานที่ใดที่เกี้ยวของหัวหน้าสำนักหลันไถผ่านไปจะไม่มีคนปรากฏตัวขึ้นในรัศมีหลายสิบจั้ง คนจำนวนมากแทบจะพากันหลีกหนีประเดี๋ยวนั้นเลย
ไป๋สิงเจี่ยนจึงได้อยู่อย่างสุขสงบ เขาไม่ต้องพบเจอผู้คนมากหน้าหลายตา ทั้งยังร่วมสมาคมอย่างไร้สาระในแวดวงขุนนางได้น้อยลง นับว่าประหยัดเวลาไปได้ไม่น้อย เดิมทีการไปสอนลูกหลานชนชั้นสูงที่สำนักศึกษาเจาเหวินก็มิใช่เรื่องที่เขาอยากทำสักนิด แต่เนื่องจากเป็นรับสั่งของจักรพรรดินี ต่อให้เขาต้องเสียเวลา ความคิด และแรงกายเพียงใด เขาก็จำต้องไปรับมือกับหนุ่มสาวชนชั้นสูงกลุ่มนี้
หากกล่าวถึงชื่อเสียงของเขาแล้ว เหล่าผู้เรียนกลุ่มนั้นล้วนเกรงกลัวเขาทั้งสิ้น ยกเว้น ‘ใครบางคน’ ที่คอยจ้องหาทางท้าทายเขาอยู่
ไป๋สิงเจี่ยนนั่งพิงโต๊ะตัวเล็กภายในเกี้ยวด้วยท่าทางที่ผ่อนคลาย เขาสอนอยู่ที่สำนักศึกษาเจาเหวินเป็นเวลานานจนหัวเข่าปวดเมื่อยไปหมดแล้ว คิดจะหาเวลาพักเพียงชั่วครู่ก็ยังยากเลย
ไป๋สิงเจี่ยนกลับมาถึงหลันไถ ประตูด้านหน้าก็เปิดกว้างรออยู่แล้ว คนทั้งหมดล้วนออกมาต้อนรับ เซ่าลิ่งสื่อ ซูลิ่งสื่อ เจี้ยวซูหลาง ต่างจัดแต่งชุดให้เรียบร้อย พวกเขายืนเรียงรายอยู่ด้านใน
หลังจากเกี้ยววางลงบนพื้น ไป๋สิงเจี่ยนก็ค้ำไม้เท้าเดินออกมา
“ไท่สื่อกลับหลันไถ!” เสียงตะโกนดังราวกับจะไปถึงชั้นฟ้า เป็นทั้งการต้อนรับและเป็นการเตือนคนทั้งหลันไถ หากมีผู้ใดแอบงีบหรือทำตัวขี้เกียจอยู่ ตอนนี้ก็ให้ตื่นตัวได้แล้ว