หลูฉี่ปรับอารมณ์ของตนเองแล้วก็ได้แต่น้อมรับคำสั่งพลางหยิบฎีกาขึ้นมา แล้วฟุบที่พื้นคัดลอกฎีกาขึ้นมาใหม่
หยวนสี่ตี้นั่งอยู่ที่หลังโต๊ะมองดูด้วยสายตาเย็นชา ในใจนึกตำหนิว่า คงคิดว่าเราไม่รู้หนังสือสินะ คนที่รับเงินเดือนจากราชสำนักอย่างพวกเจ้าก็ดีแต่ฟังเรื่องติฉินนินทา แล้วก็พูดไปกันเองว่าเราเรียนหนังสือแค่ไม่กี่วัน หาว่าตอนที่เราเรียนหนังสือเอาแต่เกี้ยวพาไท่ฟู่ เห็นรูปโฉมหล่อเหลาก็ยึดมาเป็นเฟิ่งจวินแล้ว ไม่เคารพอาจารย์ผิดคุณธรรม เกิดความรักใคร่ระหว่างศิษย์อาจารย์ซึ่งผิดธรรมเนียม หึ! เราจะให้เจ้ารู้ว่าเราก็เล่าเรียนหนังสือมาหลายวันนะ ส่วนที่เป็นพระราชโองการก็ให้เฟิ่งจวินเป็นผู้เขียนแทน คาดว่าพวกเจ้าคงพอเดาได้อยู่ก่อน แต่ในเมื่อรู้อยู่แล้วก็ควรเงียบปากไม่พูดสิ หากยังกล้านำไปวิพากษ์วิจารณ์อีก เราจะลงโทษให้คัดลอกฎีกาสักหนึ่งร้อยจบ!
หลูฉี่ในใจร้อนรนยิ่งนัก การจะกล่าวหาผู้ใดนั้นสิ่งที่สำคัญก็คือช่วงเวลา คิดไม่ถึงว่าที่เขาตั้งใจเขียนอักษรผิดบางตัวเพื่อให้เห็นว่ารีบร้อนเข้ามานั้นกลับให้ผลไม่เป็นไปตามที่คิดไว้ หากรู้ว่าจะเป็นเช่นนี้ เขาจะทำไปเพื่ออะไรเล่า ควรที่จะถามก่อนว่าจักรพรรดินีรักชอบอะไร เขาเพิ่งมาถึงเมืองหลวง ย่อมไม่รู้ธรรมเนียมปฏิบัติในหมู่แวดวงขุนนาง
ฉืออิ๋งที่อยู่หลังฉากบังลมหิวจนต้องหยิบขนมขึ้นมาบิกินไปพลางก่นด่าพึมพำไปพลาง “เจ้าสหายไม่เอาไหนผู้นี้”
เฟิ่งจวินเขยิบเข้ามาใกล้บุตรสาว ก่อนจะจิ้มไปที่ตัวนาง
“ลูกรัก พวกเจ้าเป็นพวกเดียวกันหรือ”
ฉืออิ๋งเอาขนมที่เหลือเพียงครึ่งชิ้นยัดเข้าไปในปากของบิดาพร้อมกับพูดข่มขู่ว่า “หากเสด็จพ่อทูลฟ้องเสด็จแม่เรื่องนี้ ลูกจะหนีออกจากวัง ไม่ให้เสด็จพ่อเสด็จแม่พบเจออีก!”
เฟิ่งจวินเคี้ยวขนมที่ลูกรักกินเหลือก่อนกลืนลงคอไป เขาเอ่ยอย่างลำบากใจว่า “พ่อเพียงจะช่วยคิดหาวิธีให้เป่าเปาเท่านั้น นึกไม่ถึงว่าเป่าเปาจะไม่เชื่อถือพ่อเพียงนี้ น่าชอกช้ำใจจริงๆ”
ฉืออิ๋งหันหน้ามามองอย่างรวดเร็ว แววตายังไม่ค่อยเชื่อถือนัก “จริงหรือเพคะ”
“แน่นอนสิ! เจ้าไป๋สิงเจี่ยนผู้นั้นกล้ามามีเรื่องกับพ่อ พ่อต้องให้มันได้เห็นดีแน่ ตอนนี้มีหัวหน้าสำนักตรวจการมาฟ้องร้องเขา คนอย่างพ่อที่เป็นคนมีหลักการจะต้องฉวยโอกาสซ้ำเติมมันอีกที เจ้าไม่เชื่อพ่อเลยหรือ”
ฉืออิ๋งพยักหน้ารับอย่างแรง “ลูกเชื่อเพคะ! ดังนั้น…เสด็จพ่อจะช่วยลูกคิดหาวิธีอย่างไร”
อีกด้านหนึ่ง ในที่สุดหลูฉี่ก็คัดลอกฎีกาใหม่จนเสร็จ เอวเขาในตอนนี้แทบจะยืดตรงไม่ได้แล้ว
“ฝ่าบาท กระหม่อมคัดลอกใหม่เสร็จแล้ว เชิญพระองค์ทอดพระเนตรพ่ะย่ะค่ะ”
หยวนสี่ตี้ที่แทะขาหมูพะโล้ชิ้นหนึ่งอยู่หลังโต๊ะลอบฉีกฎีกาฉบับก่อนหน้าของหลูฉี่มาเช็ดมือให้สะอาด แล้วรับฉบับที่คัดลอกใหม่มาเปิดอ่านอย่างไม่เต็มใจนัก ดูฎีกาฟ้องร้องทั้งที่ท้องหิวเช่นนี้ ช่างทำร้ายร่างกายและจิตใจโดยแท้