บทที่ 4
หยวนสี่ตี้จำต้องอยู่รอไป๋สิงเจี่ยนเข้าเฝ้าต่อ นางจึงได้แต่ต้องทนหิวโหยต่อไป ยามนี้จึงโมโหจนแทบจะล้มโต๊ะอยู่แล้ว ทว่าทันใดนั้นจู่ๆ นางก็ได้กลิ่นหอมที่คุ้นเคยอย่างหนึ่งโชยมา…เครื่องในหมูต้มเค็ม!
หยวนสี่ตี้เห็นฉืออิ๋งเป็นดั่งเทพธิดาน้อยผู้นำอาหารรสเลิศที่นางโปรดปรานมากที่สุดมาให้ พูดได้ว่าเลี้ยงบุตรสาวได้ดั่งใจโดยแท้ ช่างเป็นลูกรักของแม่ น่ารักจนอยากจะหอมแก้มสักครั้งหนึ่ง
ด้วยเหตุนี้ฉืออิ๋งจึงสามารถออกจากหลังฉากมาอยู่ด้านหน้าได้ นางยืนอยู่ข้างกายมารดา รอคอยให้ไป๋สิงเจี่ยนมารับความตาย
“ไท่สื่อขอเข้าเฝ้าเพคะ” นางกำนัลกราบทูลจากด้านนอก
หลูฉี่รวบรวมสติของตนเอง ฉืออิ๋งเผยรอยยิ้มที่บริสุทธิ์ไร้พิษสง ขณะที่หยวนสี่ตี้ก็รีบเร่งกินเครื่องในหมูต้มเค็มจนหมด
ไม่นานทุกคนก็มองเห็นไป๋สิงเจี่ยนมือถือไม้เท้าก้าวข้ามประตูตำหนักมา รูปร่างของเขาสูงโปร่ง อาภรณ์เป็นทางการเรียบร้อย ดูตระหง่านประดุจขุนเขาหยกยิ่งนัก
“กระหม่อมไป๋สิงเจี่ยน ถวายบังคมฝ่าบาท!” เขาโค้งตัวเล็กน้อย
“ไม่ต้องมากพิธี” หยวนสี่ตี้รู้ว่าร่างกายไป๋สิงเจี่ยนไม่อำนวย นางจึงงดเว้นการคำนับแบบเต็มพิธีการให้เขา ด้วยเห็นแก่ที่เขามีฐานะเป็นถึงหัวหน้าสำนักหลันไถ นางจึงกล่าวต่อ “นั่งลงได้”
ตรงหน้าหยวนสี่ตี้ไม่มีที่นั่ง เมื่ออนุญาตให้นั่งเช่นนี้ ไป๋สิงเจี่ยนก็ต้องย้ายเก้าอี้มาจากด้านข้างด้วยตนเอง ทว่าเขาไม่อาจย้ายที่นั่งมาเองได้ อีกทั้งหลูฉี่ก็ไม่ยอมช่วย หยวนสี่ตี้จึงมองไปที่บุตรสาวที่รักยิ่งซึ่งอยู่ข้างกาย มีแรงงานที่ไม่ต้องเสียเงินจ้างทั้งที หากไม่ใช้ก็เป็นการเสียเปล่าแล้ว
ฉืออิ๋งรับรู้ได้ถึงสายตาของมารดา นางจึงไม่สบอารมณ์เป็นอย่างยิ่ง ทว่าตอนนี้จะดีที่สุดคือนางไม่ควรแสดงท่าทีต่อต้านมารดาที่แสนสูงศักดิ์ของนาง ฉืออิ๋งเบ้ปาก ก่อนค่อยๆ นวยนาดไปย้ายเก้าอี้มาให้ เมื่อเดินมาถึงด้านหลังไป๋สิงเจี่ยนแล้วก็วางเก้าอี้กระแทกลงพื้น
ไป๋สิงเจี่ยนค่อยๆ นั่งลง “ขอบพระทัยพ่ะย่ะค่ะ”
ฉืออิ๋งส่งเสียงหึอยู่ในใจ ก่อนจะตั้งท่าเดินไปอยู่ข้างกายมารดา
ไป๋สิงเจี่ยนนั่งลงเรียบร้อยแล้วก็จัดแจงเสื้อผ้า “วันนี้องค์หญิงเสด็จไปที่หลันไถมา หากมีสิ่งใดที่กระหม่อมต้อนรับไม่ดีล่ะก็ ขอองค์หญิงโปรดทรงอภัยด้วย”
ฉืออิ๋งราวกับแมวน้อยที่ถูกเหยียบหางจนขนลุกพองชี้ชันในทันใด
หยวนสี่ตี้ส่งเสียงประหลาดใจ “วันนี้ถวนถวนไปที่หลันไถมา? ไปทำอะไรมาหรือ ไม่ใช่ไปขโมยอ่านบันทึกมาหรอกนะ”
ไป๋สิงเจี่ยนเอ่ยด้วยน้ำเสียงราบเรียบ “หามิได้พ่ะย่ะค่ะ องค์หญิงเพียงออกมาจากสำนักตรวจการ คงคิดว่าเป็นทางเดียวกัน จึงอยากมาชมดอกไม้ที่หลันไถ แต่จะดีที่สุดหากวันหลังองค์หญิงไม่หักกิ่งดอกไม้อีก”
ฉืออิ๋งพลันไม่สบายไปทั้งร่าง
ไม่นานมานี้ เนื่องจากฉืออิ๋งไปมีส่วนพัวพันกับเรื่องของสำนักตรวจการ นางจึงถูกลงโทษด้วยการกักบริเวณ ครั้งนี้จึงพยายามระแวดระวังยิ่งกว่าเดิม กระนั้นก็คิดไม่ถึงว่าจะถูกไป๋สิงเจี่ยนจับได้…ข้าไม่น่าจะถูกเขาจับได้เช่นนี้สิ!