หลูฉี่ไม่รีรอที่จะเติมเชื้อไฟอีกระลอก “ทูลฝ่าบาท ผู้ตรวจการที่เดินทางไปป๋อหลิงยังพบว่าช่วงเวลาที่เซ่าลิ่งสื่อชุยซั่งที่ไท่สื่อโปรดปรานที่สุดไปบันทึกเรื่องราวอยู่ที่ป๋อหลิงนั้น ไม่เพียงแค่รับสินบนและปิดบังการค้าที่ไม่ได้แจ้งแก่ทางการเท่านั้น เพราะช่วงเวลาที่ต้องไว้ทุกข์ให้มารดายังไปชอบพอกับสาวใช้สกุลชุยอย่างลับๆ ด้วย จนนางเกิดตั้งครรภ์ขึ้นมา และเพื่อจะกำจัดภัยที่แฝงมา สกุลชุยจึงไม่ลังเลที่จะจับสาวใช้ผู้นั้นถ่วงน้ำเสีย ต้องสูญสิ้นร่างเดียวสองชีวิต!”
หยวนสี่ตี้โกรธเกรี้ยวถึงกับโยนฎีกาของไป๋สิงเจี่ยนทิ้ง “ช่างกำเริบเสิบสานยิ่งนัก! ให้ปลดไป๋สิงเจี่ยนออกจากตำแหน่งหัวหน้าสำนักหลันไถ!”
“ฝ่าบาททรงไม่ดำเนินตามขั้นตอนอีกแล้ว” เฟิ่งจวินเดินอ้อมออกมาจากหลังฉากบังลม ภายใต้แขนเสื้อแอบซ่อนขาหมูที่โชยกลิ่นหอมชิ้นหนึ่งเอาไว้ เขาเดินไปทางหยวนสี่ตี้ด้วยท่าทางสง่าผ่าเผย “การโยกย้ายขุนนางและปลดออกจากตำแหน่งล้วนต้องผ่านกรมปกครองทั้งสิ้น เกรงว่าขั้นตอนนี้จำต้องใช้เวลาหลายวัน กระหม่อมเคยทูลว่าจะเพิ่มความสามารถในการสะสางงานของทางการ ซึ่งประการแรกจะต้องลงมือปรับปรุงวิธีการภายในหน่วยงานนั้นๆ ทันที!”
สายตาหยวนสี่ตี้ถูกดึงดูดไปที่ใต้แขนเสื้อของเฟิ่งจวินทันทีทันใด “เรารู้อยู่แล้วว่าความสามารถในการสะสางงานของทางการชักช้าเพียงใด ทว่าการปรับปรุงการทำงานของแต่ละหน่วยงานใช่ว่าจะสำเร็จในวันสองวัน เรื่องนี้ส่งให้กรมปกครองไปทำก็แล้วกัน”
“เช่นนั้นก็เรียกเสนาบดีกรมปกครองเข้าเฝ้า” เฟิ่งจวินวางขาหมูลงบนจานอาหารบนโต๊ะ
“ให้เสนาบดีกรมปกครองเข้าเฝ้า” หยวนสี่ตี้ทำตามที่สามีแนะนำมา
“แต่คดีนี้เกี่ยวพันกับหลายข้อกล่าวหา จำเป็นต้องให้ศาลสถิตยุติธรรมและกรมอาญามาร่วมสอบสวน”
“ให้หัวหน้าศาลและเสนาบดีกรมอาญาเข้าเฝ้า!”
“เรื่องนี้เกี่ยวพันกับหลายฝ่าย คดีนี้ถือเป็นคดีใหญ่ อาจจะต้องให้ทั้งสามหน่วยเข้าร่วมตรวจสอบ ตรวจสอบครึ่งเดือนก็ถือว่าเร็วแล้ว ฝ่าบาทต้องทรงเตรียมการพิจารณาคดีรับสินบนและเป็นกบฏนี้ ซึ่งจะยาวนานนับหลายเดือน งดสิ่งรื่นเริงทั้งหมด ตรวจร่างคำวินิจฉัย งานนี้หนักหนาเอาการ ควรเสวยอาหารแบบง่ายๆ รสชาติจืดๆ อย่างอาหารมังสวิรัติ…”
หยวนสี่ตี้หันใบหน้าไปจ้องที่ไป๋สิงเจี่ยน “ไป๋สิงเจี่ยน เจ้าจะยอมรับความผิดหรือไม่ หากไม่ยอมรับผิด เจ้ายังคิดกล่าวอะไร”
ฉืออิ๋งเบิกตามองดูบิดาที่ออกหน้าพลิกสถานการณ์ด้วยความตกตะลึง ผู้ร่วมศึกที่ตนเองออกแรงดึงมานั้นกลับหักหลังกันเสียได้ ดูเหมือนว่าคุณธรรมของบิดานางนั้นจะไม่มีจริง ล้วนเป็นเพียงความว่างเปล่า
“กระหม่อมมีความผิดขาดการตรวจสอบ ส่วนความผิดนอกเหนือจากนี้ กระหม่อมไม่ขอรับไว้พ่ะย่ะค่ะ” ไป๋สิงเจี่ยนเอ่ยขึ้นอย่างไม่ทะนงตนและไม่ถ่อมตัว
“เพียง ‘ความผิดขาดการตรวจสอบ’ ก็คิดจะกลบเกลื่อนความผิดปิดบังเรื่องสกปรกของหลันไถรึ ไท่สื่อช่างรู้ผ่อนหนักเป็นเบา” หลูฉี่เอ่ยปากเสียดสี “การกระทำของเซ่าลิ่งสื่อชุยซั่งยังไม่มากพอแก่การกล่าวโทษไท่สื่ออีกหรือ ไม่พิจารณาคนให้ดีจนเกิดภัยร้าย คุณธรรมเสื่อมสูญคิดปิดบังเรื่องเหมืองเถื่อน คบคิดกับศัตรู เรื่องเหล่านี้ล้วนไม่เกี่ยวข้องกับไท่สื่อจริงหรือ”
“ชุยซั่งยังไม่ได้ให้ร้ายแก่ชีวิตผู้ใดและไม่ได้คบคิดกับศัตรูของอาณาจักร แม้ฝ่าฝืนกฎหมายและระเบียบด้วยการละเลยหน้าที่ของอาลักษณ์จริง แต่เขาก็ไม่ได้ทำความผิดร้ายแรงอย่างการฆ่าคนอย่างเลือดเย็น เรื่องเปิดเหมืองทองแดงเถื่อน คบศัตรูของอาณาจักร ถือเป็นการกระทำของสกุลชุยแห่งป๋อหลิง ไม่ทราบว่าใต้เท้าหลูใช้ถ้อยคำบิดเบือนเอาความผิดสกุลชุยผลักมาที่หลันไถเช่นนี้ มีความในใจเช่นไรกันแน่”