ราวกับเป็นที่แสดงของเล่น แทบไม่มีที่ว่างพอให้วางเท้าเลย
“องค์ชายทรงคิดว่า…นี่มัน…เป็นที่อะไรหรือ” ไป๋สิงเจี่ยนเอ่ยถามอย่างไม่ค่อยแน่ใจนัก
“เป็น…เป็นห้อง…ห้องหนังสือของพี่สาวข้า” โต้วเปาเอ๋อร์ไม่ค่อยมั่นใจเท่าไรนัก
จบกัน! โต้วเปาเอ๋อร์ลืมไปเสียสนิทว่าตอนนี้ไป๋สิงเจี่ยนเป็นอาจารย์ของฉืออิ๋ง พาอาจารย์ของพี่สาวมายัง ‘ห้องหนังสือ’ ของพี่สาว ได้มาเห็นสมบัติล้ำค่าของพี่สาว ซึ่งของเหล่านี้แม้แต่บิดาก็แตะต้องไม่ได้ ทั้งไม่มีนางกำนัลคนใดกล้าเอาไปเก็บ ที่สำคัญที่สุดคือเขาได้ยินมาว่าการบ้านวิชาประวัติศาสตร์ที่ไป๋สิงเจี่ยนให้ฉืออิ๋งทำนั้นคะแนนก็ไม่ดีเท่าไรด้วย เมื่อคิดเรื่องนี้ได้ โต้วเปาเอ๋อร์ก็อยากจะร้องไห้ด่าว่าตนเองว่าโง่เขลาอีกสักหน
ด้วยเป็นห้องของเล่นควบคู่กับเป็นห้องหนังสือจึงไม่ค่อยมีใครมาเยือน ที่นี่เงียบสงบไร้ผู้คน เพราะฉืออิ๋งกังวลว่าของเล่นอันเป็นที่รักของตนจะมีคนอื่นมาอยากได้แล้วหยิบฉวยขโมยไป แค่หายไปสักชิ้นก็สามารถทำให้นางร้องไห้ได้ตลอดทั้งบ่าย ดังนั้นบิดาจึงสั่งห้ามไม่ให้คนในวังเข้าใกล้ห้องหนังสือของรัชทายาทอีก คนไม่รู้ยังคิดไปว่าห้องหนังสือของรัชทายาทอาจจะเก็บความลับของอาณาจักรเอาไว้
จากชุดนอนของรัชทายาทจนมาถึงห้องหนังสือของรัชทายาท ไม่มีสักอย่างที่ไม่ทำให้คนต้องตกตะลึงจนตาค้าง ไม่มีสักอย่างที่เชื่อมโยงคนกับ ‘รัชทายาท’ คำนี้ได้เลย ไป๋สิงเจี่ยนไม่มีเรี่ยวแรงไปใส่ใจว่าจะเป็นห้องหนังสือหรือห้องของเล่นอีก เขาเพียงคิดจะหาที่นั่งลงได้โดยเร็ว
“ต้องระวังอะไรบ้างหรือไม่” เขาฝืนทนกับร่างกายที่เจ็บปวดมากขึ้นทุกที พลางเอ่ยถามอย่างอดกลั้น
“อย่าไปโดนของเล่นพวกนี้ อย่าไปขยับหรือย้ายตำแหน่งพวกมัน” โต้วเปาเอ๋อร์ตอบตามตรงถึงเรื่องที่ต้องระวังในห้องหนังสือของฉืออิ๋ง
“อืม กระหม่อมขอพักตรงนี้สักครู่หนึ่ง องค์ชายวางพระทัยได้” ไป๋สิงเจี่ยนคิดที่จะอยู่คนเดียว “วันนี้ต้องรบกวนองค์ชายแล้ว กระหม่อมเองก็ต้องขอบังอาจแสดงความเห็นต่อองค์ชายสักหน่อย…ทรงอย่าทูลขอความเห็นใจให้เหยาจี”
โต้วเปาเอ๋อร์ถึงกับตะลึง เดิมทีเขาคิดว่าพอพี่สาวพ้นอันตรายแล้ว บางทีเขาอาจขอให้บิดาละเว้นโทษให้เหยาจีได้ “หากข้าไม่ช่วยจัดการเรื่องเหยาจีให้ มิใช่ว่านางมีแต่ต้องตายสถานเดียวหรอกหรือ”
“นางคิดฆ่ารัชทายาท มิใช่ว่าคำพูดเพียงไม่กี่คำขององค์ชายจะช่วยละเว้นโทษนางได้ อีกทั้งตัวองค์ชายเองก็ถือว่ามีส่วนพัวพันกับเรื่องนี้ด้วย แม้เป็นพี่น้องกัน แต่พระองค์ก็ใช้แซ่ของซีจิง ย่อมมีความแตกต่างกับรัชทายาทในฐานะผู้ปกครองกับผู้ใต้ปกครอง ยิ่งไปกว่านั้นสาเหตุที่รัชทายาทต้องประสบภัยก็เป็นเพราะท่านนำตะกร้อไฟจากซีจิงมาให้นาง ไม่ว่าเป็นเพราะเหตุผลเรื่องน้ำใจหรือใดๆ ท่านก็ไม่อาจปฏิเสธการรับโทษนี้ได้ หากองค์ชายยังทูลขอชีวิตแทนมือสังหารอย่างขาดความยั้งคิดอีก คนที่จะถูกดึงเข้ามาเกี่ยวข้องเพิ่มด้วยก็คือคนที่ซีจิง” ไป๋สิงเจี่ยนแยกแยะให้เห็นข้อดีข้อเสียทั้งหมดเพื่อเป็นการตอบแทนเรื่องในวันนี้
โต้วเปาเอ๋อร์ถึงกับเหม่อลอยเมื่อได้ยินจนจบ เขาไม่ได้คิดถึงจุดสำคัญของเรื่องนี้ว่าจะเกี่ยวพันกับผู้คนมากมาย การวิเคราะห์ของไป๋สิงเจี่ยนคล้ายกับที่อาจารย์ในชั้นเรียนของตระกูลซีจิงสอนเอาไว้ ให้วิเคราะห์ถึงผลที่จะเกิดขึ้นและผลกระทบจากจุดกำเนิดของเรื่องราว ความเป็นเหตุเป็นผล ความต่างของผู้ปกครองและผู้ใต้ปกครอง กระทั่งตระกูลใหญ่ที่มีรากฐานเป็นร้อยปีก็ยังอาศัยสติที่แจ่มชัดเช่นนี้มารักษาความอยู่รอดของตระกูลเลย แต่ทั้งหมดล้วนเป็นเรื่องของการหาเหตุและผล ได้เปรียบเสียเปรียบ กลับไม่มีเรื่องของจิตใจหรือความเห็นใจใดๆ มีเพียงความเย็นชาเช่นนี้ เขายอมรับไม่ได้