อาลักษณ์ที่ยืนอยู่ด้านข้างทำเหมือนไม่รับรู้เรื่องที่หยวนสี่ตี้ก้าวก่าย เขาไม่ได้เอ่ยอะไร และที่หน้าผากของเขาก็มีเหงื่อไหลออกมา
กู้ไหวผู้ที่สวมบทบาทนั้นตกตะลึงจนลืมกล่าวขอบคุณผู้มีคุณ รอจนนึกขึ้นได้ก็ไม่เห็นหัวหน้าสำนักหลันไถแล้ว
หมอหลวงใหญ่ย่อมไม่ละเว้นหัวหน้าสำนักหลันไถอยู่แล้ว เขามองตามอาลักษณ์ที่ผู้คนเล่าลือกันว่าตรงไปตรงมาและเจ้าเล่ห์แสนกลออกจากตำหนักไป เขาเคียดแค้นจนกัดฟันกรอด ที่แท้ไป๋สิงเจี่ยนก็คิดจะใช้กู้ไหวแทรกแซงสำนักหมอหลวง อาจถึงขั้นข้ามศีรษะของหมอหลวงใหญ่ ช่างน่าโมโหจริงๆ
ไป๋สิงเจี่ยนที่ถูกคนทั้งสำนักหมอหลวงกล่าวโทษอยู่นั้น เพียงแค่พ้นจากสายตาของคนทั้งหลายแล้ว กระดูกขาของเขาก็แสนปวดเมื่อย มือยันกับกำแพงตำหนักไว้แล้วก็ยังแทบจะยืนไม่อยู่
โต้วเปาเอ๋อร์ที่คุกเข่าอยู่นอกประตูตำหนักจนทั้งปวดทั้งเมื่อยหัวเข่าไปหมดแล้วพลันตกใจเมื่อเห็นภาพตรงหน้าเข้า “อาจารย์”
ทว่าเมื่อเห็นนางกำนัลเดินเข้าออกตำหนักด้วยสีหน้าที่ผ่อนคลายมากขึ้น โต้วเปาเอ๋อร์ก็พลอยโล่งอก ถวนถวนคงปลอดภัยแล้ว ข้าก็เลิกรับโทษได้เสียที
ตอนที่ไป๋สิงเจี่ยนพาหมอหลวงหนุ่มเข้าตำหนักไปนั้น โต้วเปาเอ๋อร์ก็นึกแปลกใจอยู่แล้ว พออีกฝ่ายเดินออกจากตำหนักเพียงคนเดียว ดูไปแล้วเหมือนอาการที่ขาจะกำเริบด้วย เขาก็ยิ่งแปลกใจ แต่เมื่อเห็นว่าขุนเขาจวนจะล้มลงเต็มที โต้วเปาเอ๋อร์จึงยืนขึ้น อดทนกับความปวดเมื่อยที่เหมือนกับมีเข็มมาจิ้มเป็นพันเป็นหมื่นเอาไว้ รีบขยับขาก้าวไปพยุงไป๋สิงเจี่ยนที่จะล้ม
“อาจารย์ ต้องเรียกหมอหลวงหรือไม่” โต้วเปาเอ๋อร์ไม่เคยเห็นอาจารย์ดูเจ็บปวดเช่นนี้มาก่อน คิดว่าคนผู้นี้จะแข็งแกร่งไม่มีวันล้มเสียอีก คิดไม่ถึงว่าจะมาล้มต่อหน้าเขาเช่นนี้ โต้วเปาเอ๋อร์รู้สึกตื่นตระหนกยิ่ง
“ไม่ต้องพ่ะย่ะค่ะ” ไป๋สิงเจี่ยนเหงื่อออกเต็มศีรษะ เขาพยายามฝืนหยัดกายเอาไว้ อย่างไรก็ต้องไม่ล้ม นี่เป็นเรื่องของศักดิ์ศรี
“เช่นนั้นก็เรียกคนมาช่วยเถิด” โต้วเปาเอ๋อร์เดาใจไป๋สิงเจี่ยนไม่ถูก จึงลองหาวิธีที่เขาพอยอมรับได้ออกมา
“ไม่จำเป็นเลย” ริมฝีปากของไป๋สิงเจี่ยนแทบไม่มีสีเลือด กระนั้นก็ยังปฏิเสธข้อเสนอของโต้วเปาเอ๋อร์ข้อแล้วข้อเล่าด้วยความแน่วแน่เช่นเดิม
โต้วเปาเอ๋อร์เพิ่งพบว่า…ท่านช่างเอาใจยากยิ่งนัก เข้าใจยากยิ่งกว่าสตรีเสียอีก! ทั้งที่เห็นว่าเจ็บปวดอย่างมาก แต่กลับไม่ต้องการหมอหลวง ทั้งไม่ต้องการให้คนมาช่วย สรุปแล้วท่านต้องการอย่างไรกันแน่เล่า
เหมือนว่าได้ยินเสียงในใจของโต้วเปาเอ๋อร์ ในที่สุดไป๋สิงเจี่ยนก็ยอมบอกความต้องการของตนเองออกมา “องค์ชายพอจะมีสถานที่ที่สงบเงียบและปลอดคนหรือไม่”
โต้วเปาเอ๋อร์ความคิดฉับไว “มีขอรับ”
โต้วเปาเอ๋อร์เดินไปผลักประตูตำหนักออกแล้วหลบไปอยู่ด้านข้าง ดูเหมือนไป๋สิงเจี่ยนจะไม่ชอบให้ใครมาพยุง แล้วเหตุใดจึงเป็นเช่นนั้นเล่า โต้วเปาเอ๋อร์คิดอย่างไรก็คิดไม่ออก หรือว่าท่านไม่ชอบให้บุรุษเข้าใกล้ แต่ข้าก็ไม่เคยเห็นท่านมีสตรีเข้าใกล้เหมือนกัน!