“แล้วที่บ้านมีคนอยู่กี่คน”
“มีนายบ่าวสองคน กระทั่งนายหญิงก็ไม่มี” คนขายได้โอกาสพูดเสริมขึ้นว่า “แต่ว่าขาของคนแซ่ไป๋มีอาการผิดปกติ คงจะหาภรรยาแต่งยากกว่าคนอื่นสักหน่อย”
ฉืออิ๋งยกมือออก วางเงินสองอีแปะไว้ด้วยความรู้สึกพึงพอใจ ก่อนจะคว้ามือเมิ่งกวงหย่วนที่นิ่งอึ้งหมุนตัวเดินเข้าตรอกไป
“อาจารย์แต่งภรรยาไม่ได้จริงๆ หรือ” เมิ่งกวงหย่วนฟังจากที่คนขายน้ำหวานกล่าวถึงตัวอาจารย์แล้วก็ตกใจอย่างมาก เอ่ยถามฉืออิ๋งเสียงเบา
“แน่นอน” น้ำเสียงของฉืออิ๋งมั่นใจยิ่ง “เจ้าดูเขาปั้นหน้าทั้งวันสิ ปฏิบัติต่อผู้อื่นอย่างเข้มงวดอีก ขาก็ไม่ปกติ ไหนเลยจะมีคนมาชอบเขาได้”
“แต่ว่า…ใครๆ ก็บอกว่าอาจารย์ตระหง่านดุจขุนเขาหยก อาจารย์ก็รูปงามนะพ่ะย่ะค่ะ!”
“เหลวไหล! รูปงามก็แลกข้าวกินไม่ได้นะ” ฉืออิ๋งเอ่ยสั่งสอนสหายด้วยท่าทางเย่อหยิ่ง “บุรุษผู้หนึ่งแค่มีรูปงามจะมีประโยชน์อะไร ขาไร้เรี่ยวแรง แล้วก็มากเรื่องช่างเลือก รังเกียจอันนี้ พิถีพิถันอันนั้น หากจะดูบุรุษสักคนต้องดูที่ภายในของเขา คนที่มืดบอดภายใน แม้รูปโฉมงดงามดูดีเพียงใดก็เหมือนเป็นดอกไม้พิษ มิอาจเด็ดดมได้!”
เมิ่งกวงหย่วนเอ่ยในใจว่าฉืออิ๋งเห็นบุรุษมาสักกี่คน ที่เห็นมากก็แค่พวกเพื่อนในชั้นเรียนที่สำนักศึกษาเจาเหวิน ที่นางวิเคราะห์ต้องเป็นเพราะถูกหยวนสี่ตี้และเฟิ่งจวินล้างสมอง
ทั้งสองเดินคุยกันจนมาถึงบ้านอาจารย์
บ้านที่อยู่ตรงหน้ามีสวนแบบชาวบ้านทั่วไป กำแพงบ้านไม่สูงมาก หากไม่ใช่ที่อยู่ในมือเขียนไว้ชัดเจน ฉืออิ๋งก็ไม่มีวิธีเอามาเชื่อมโยงกับหัวหน้าสำนักหลันไถได้ นี่ต้องเป็นแผนร้ายบางอย่างแน่นอน! ฉืออิ๋งยืนยันเห็นว่าอย่างนี้
เมิ่งกวงหย่วนประหลาดใจไม่น้อย อย่างไรก็คิดไม่ถึงว่าอาจารย์ของตนจะมาอยู่ในสถานที่เช่นนี้ เขาเดินหน้าเคาะที่ห่วงประตู รอให้มีการตอบรับ
ฉืออิ๋งแอบมองจากช่องประตู เห็นมีเงาคนมาเปิดประตู นางจึงหลบไปอยู่ด้านข้าง
ตันชิงเปิดประตูด้วยความสงสัยที่มีอยู่เต็มอก กระนั้นก็คิดไม่ถึงว่าจะได้พบกับฉืออิ๋งที่นี่ “องค์หญิง? พระองค์ผ่านมาหรือพ่ะย่ะค่ะ”
“ได้ยินว่าอาจารย์ป่วย ข้าเลยตั้งใจมาเยี่ยมอาจารย์เป็นพิเศษ” ฉืออิ๋งใช้คำพูดที่แม้แต่ผียังไม่เชื่อ นางเดินอ้อมตัวตันชิงเดินเข้าไปในบ้าน ตัวเรือนไม่ใหญ่มากนัก ปลูกผักไว้หลายแปลง มีห้องแบ่งไว้สองสามห้อง เรียบง่ายจนเหมือนไม่มีนายหญิงมาดูแลบ้านจริงๆ
ตันชิงรีบเดินตาม “ทำให้องค์หญิงต้องเสด็จมาถึงที่นี่แล้ว ไท่สื่อไม่ได้ป่วยอะไรมากพ่ะย่ะค่ะ”
“ไม่ต้องเกรงใจ แล้วอาจารย์เล่า” ฉืออิ๋งเริ่มกวาดตามอง นางคล้ายว่าจะเสาะหาไปทีละห้อง
“ไท่สื่อนอนอยู่พ่ะย่ะค่ะ” ตันชิงขวางฉืออิ๋งไว้ทันที
“อ้อ อาจารย์นอนกลางวัน…” ฉืออิ๋งลากเสียงยาวแปลกๆ
เมิ่งกวงหย่วนเหงื่อซึมทั่วศีรษะ ที่แท้องค์หญิงก็มาเพื่อจับผิด ไจ่อวี๋ศิษย์ของข่งจื่อเอาแต่นอนไม่ยอมมาเข้าชั้นเรียน ข่งจื่อกล่าวว่า ‘ไม้ผุไม่อาจแกะสลักได้ ดินไม่ดีไม่อาจฉาบกำแพงได้’
ตันชิงเกิดความทุกข์กังวลขึ้นในใจ เจ้าคนผู้นี้ไม่ได้มาดีจริงๆ ถึงกับตามมาหาเรื่องถึงที่บ้าน นับจากนี้ไท่สื่อจะได้อยู่เป็นสุขหรือ