เหตุใดปฏิบัติตัวได้เหลือจะรับเช่นนี้ ไป๋สิงเจี่ยนยกมือนวดหว่างคิ้ว
เสียงเคาะประตูรัวๆ มาเยือนพร้อมเวลาพลบค่ำ “มีคำสั่งจากทางการ เปิดบ้านให้ค้นด้วย!”
ไป๋สิงเจี่ยนได้ยินเสียงนี้ก็ไม่ได้ตื่นเต้นอะไร เพียงยกพู่กันป้ายหมึกแล้วเขียนวิจารณ์การบ้าน
เป็นเพราะคำขู่ของไป๋สิงเจี่ยน ฉืออิ๋งจึงไม่ค่อยเป็นสุขนักเมื่อได้ยินเสียงเคาะประตูดังขึ้น นางมองตามตันชิงไปรับหน้าที่ประตู เมื่อหันไปมองในบ้าน ยามนี้ไป๋สิงเจี่ยนกลับนิ่งและไม่รีบร้อน ในมือถือพู่กันเขียนอะไรสักอย่างโดยไม่ช้าไม่เร็ว แม้ยามป้ายหมึกก็ดูงามตาอ่อนโยน บิดาของนางเขียนไวดุจสายน้ำไหล ทว่าหัวหน้าสำนักหลันไถกลับเขียนอักษรได้อย่างอบอุ่นมุ่งมั่น คนหนึ่งแสวงหาความโดดเด่น คนหนึ่งกลับต้องการแค่ความเรียบง่าย
เหตุใดบุรุษจึงไม่เหมือนกันเล่า ฉืออิ๋งรู้สึกว่าบุรุษเข้าใจได้ยากเย็นยิ่ง
ตันชิงรับมือกับการตรวจค้นของหน่วยลาดตระเวนอย่างไม่หวาดหวั่น โดยทำตามที่ไป๋สิงเจี่ยนสั่งเอาไว้ ถามฐานะของผู้มา เมื่อหน่วยลาดตระเวนปิดบัง เขาจึงแจ้งให้ทราบว่าที่นี่เป็นเรือนของหัวหน้าสำนักหลันไถ แม้หัวหน้าหน่วยลาดตระเวนจะรู้สึกหวั่นเกรงอยู่บ้าง แต่ก็ไม่ได้หยุดการค้นหา ถึงกับแสดงป้ายคำสั่งของจวนว่าการเมืองแล้วฝ่าเข้าไปในบ้าน
หน่วยลาดตระเวนทำการค้นหาทุกซอกทุกมุม ทั้งยังคอยโปรยเมล็ดข้าวเป็นระยะ
ฉืออิ๋งเพียงมองพวกเขาทำงานที่ไร้ผลอย่างเงียบๆ
หัวหน้าหน่วยลาดตระเวนเห็นสาวน้อยยืนอยู่ภายในบ้านด้วยคนหนึ่ง เขามีสีหน้าใจดีขณะเดินเข้าหา คลำที่ท้ายทอยนางหนูที่กินแป้งม้วนจนใบหน้าเปื้อนคราบผลไม้ “สาวน้อย เห็นไก่ที่ดูโดดเด่นตัวหนึ่งบ้างหรือไม่”
ฉืออิ๋งส่ายหน้า “ไม่เคยเห็นเลย”
สาวน้อยคนนี้ผิวพรรณผุดผ่อง ใบหน้างามน่าหลงใหล หัวหน้าหน่วยลาดตระเวนพลันรู้สึกตาพร่า มือที่คลำท้ายทอยเลื่อนมาที่ใบหน้า “จริงหรือ คงไม่หลอกพี่ชายใช่หรือไม่!”
“ข้าไม่หลอกท่านอาแน่นอน” ฉืออิ๋งกะพริบตาขึ้นลง ท่าทางดูน่ารักไร้เดียงสา
“สาวน้อย เจ้าเป็นอะไรกับเจ้าบ้านหรือ” หัวหน้าหน่วยลาดตระเวนยิ่งมองก็ยิ่งรู้สึกหลงใหล มือเขาค่อยๆ เลื่อนต่ำลงไปอีก “สาวใช้ คนรับใช้ ภรรยารอง คุณหนู?”
“นายหญิง” ดวงตาคู่นั้นของฉืออิ๋งแวววาวสดใสระยิบระยับ “เป็นที่รักยิ่งของไท่สื่อ”
มือของหัวหน้าหน่วยลาดตระเวนพลันสั่นไหว เมื่อเห็นว่าที่ด้านหลังฉืออิ๋งมีคนยืนอยู่คนหนึ่งตรงประตู มือเขาก็ยิ่งสั่น ข้างนอกโกลาหลก็ไม่เห็นเจ้าบ้านปรากฏตัว คิดว่าอยู่แต่คนรับใช้ ในบ้านไม่มีคนอื่นเสียอีก ฉับพลันก็ปรากฏบุรุษที่ดูเย็นชาขึ้น หรือว่านี่คือ…
หัวหน้าหน่วยลาดตระเวนหดมือที่สั่นกลับไปยืนตรงอย่างสงบเสงี่ยม เขาประสานมือคารวะฉืออิ๋ง “ข้าน้อยคำนับไป๋ฮูหยิน!” แล้วต่อด้วยประสานมือไปยังด้านหลังฉืออิ๋ง “ข้าน้อยคำนับหัวหน้าสำนักหลันไถ”
ฉืออิ๋งพลันตระหนก อาจารย์ไม่ใช่เขียนอะไรอยู่ในห้องหรือ มาถึงด้านหลังข้าตั้งแต่เมื่อไร หันหลังไปมองก็เห็นไป๋สิงเจี่ยนยืนอยู่ที่ประตูอย่างเงียบเชียบจริงๆ แสงจากตะเกียงในห้องส่องออกมาทำให้เกิดแสงเรื่อเรืองขึ้นรอบตัวเขา คล้ายว่าเขายืนอยู่ในระหว่างพื้นที่มืดกับสว่าง