จือจือกลายเป็นวิญญาณล่องลอยหลังตาย
ตอนกลายเป็นวิญญาณล่องลอยใหม่ๆ นางไม่ชินเอาเสียเลย เพราะนางเหยียบพื้นไม่ได้ ทำได้แค่ลอยเท่านั้น หากลมพัดแรงๆ นางยังจะปลิวไปติดยอดไม้เสียอีก
คงเพราะยมทูตดำยมทูตขาวยังหาตัวข้าไม่เจอกระมัง ตอนนี้ข้าจึงยังสามารถลอยไปลอยมาอยู่ในโลกมนุษย์ จือจือคิด
น่าสนุกจริงๆ นางบอกตนเองในใจ
สิ่งแรกที่นางทำเมื่อกลายเป็นวิญญาณล่องลอยคือการกลับบ้าน
ทันทีที่ลอยมาถึงก็พบว่าบ้านที่แต่เดิมมีบิดาอยู่กับน้องชายยามนี้ไม่มีคนพักอาศัยเสียแล้ว
ตอนที่จือจือนั่งเกี้ยวแต่งเข้าตำหนักองค์หญิง บิดาได้รับค่าตอบแทนหนึ่งพันตำลึงเงิน สามัญชนคนธรรมดาครอบครัวหนึ่งใช้จ่ายปีละสิบตำลึงเงินเท่านั้น จำนวนหนึ่งพันตำลึงเงินจึงมากพอให้ครอบครัวของนางอยู่ดีกินดีไปครึ่งค่อนชีวิต องค์หญิงเสกสมรสอย่างยิ่งใหญ่เมื่อสองปีก่อน หลังแต่งงานได้เจ็ดวันก็มีคำสั่งให้ครอบครัวราษฎรทั่วแผ่นดินที่มีบุตรสาวอายุสิบสี่ถึงสิบแปดปีส่งรูปเหมือนของบุตรสาวมาที่ตำหนัก เพราะองค์หญิงประสงค์จะคัดเลือกอนุให้ราชบุตรเขยด้วยตนเอง
เรื่องนี้สร้างความตกตะลึงให้ผู้คนทั้งแผ่นดินอย่างมาก เนื่องจากตั้งแต่โบร่ำโบราณไม่เคยมีมาก่อน ทว่าองค์หญิงเป็นที่โปรดปรานของฮ่องเต้ ดังนั้นจึงมีพระราชโองการลงมาตามที่นางต้องการ
จือจือที่อายุสิบห้าเข้าข่ายพอดี ดังนั้นบิดาจึงส่งรูปเหมือนของนางที่เตรียมไว้สำหรับหาคู่ครองไปที่ตำหนัก จนนางได้รับคัดเลือก ซึ่งถือเป็นเรื่องดีสำหรับครอบครัวของนาง
จือจือสวยสะคราญแต่กำเนิด ถ้าจะให้พูดตรงๆ ล่ะก็ นางมีดวงหน้าที่สนมนางในควรมี คือเฉิดฉันแต่ไม่จัดจ้าน งดงามแต่ไม่ฉูดฉาดเกินพอดี ผิวกายของนางขาวผ่องราวกับหิมะ ดูไม่ออกว่าเป็นบุตรสาวของครอบครัวยากจน ทรวดทรงองค์เอวยิ่งแล้วใหญ่ ทั้งที่เพิ่งอยู่ในวัยแรกแย้ม แต่กลับมีส่วนเว้าส่วนโค้งสะดุดตา ชาวบ้านทั่วไปไม่ชอบสตรีลักษณะนี้ เลือกแม่เรือนทั้งทีจะเลือกสตรีที่มองแล้วชวนให้คิดถึงเรื่องบนเตียงได้อย่างไรกันเล่า หากจะให้นางแต่งไปเป็นอนุคนธรรมดา บิดาก็รู้สึกผิดต่อนางไม่น้อย อีกอย่างสตรีคนใดมีสมองสักหน่อยก็คงไม่อยากให้สามีตนเองได้อนุเช่นนาง
สำหรับตัวจือจือเองแล้ว การได้เป็นอนุของราชบุตรเขยเปรียบเสมือนไก่ป่าบินขึ้นไปอยู่บนยอดไม้เลยก็ว่าได้ ซ้ำยังจะมีวาสนาได้เห็นนางหงส์ตัวจริง นางหงส์ที่ราชวงศ์เลี้ยงดูมาอย่างหรูหราฟุ้งเฟ้อจะเป็นอย่างไรบ้างนะ
จือจือหาอยู่นานก็ยังไม่เจอพ่อกับน้องชาย ไม่รู้ว่าเรื่องที่ตนคบชู้จะทำให้ทั้งคู่เดือดร้อนไปด้วยหรือไม่ พอคิดได้ดังนั้น นางก็รีบลอยไปที่ตำหนักองค์หญิงทันที
ตำหนักองค์หญิงเงียบสงบ ทุกคนปฏิบัติกิจวัตรประจำวันกันตามปกติ ราวกับว่าเรื่องที่อี๋เหนียงห้าเพิ่งตายไปเมื่อไม่กี่วันก่อนไม่เคยเกิดขึ้น