บทที่ 2
เสียงมังกรคำรามเหมือนจะบดขยี้ดวงวิญญาณของนางให้แหลกละเอียด นางรู้สึกว่าหากตนเองไม่ใช่วิญญาณล่องลอยอยู่แล้ว ก็อาจจะตายลงได้เลยทีเดียว ขนาดพยายามหนีมาจนไกล หัวใจยังเจ็บระบมเสียไม่มีดี นางหอบหายใจหนักหน่วง ภายในชั่วไม่กี่พริบตาร่างทั้งร่างก็เปียกโชกราวกับกลายเป็นผีพรายน้ำ เพราะเหงื่อไหลจนชุ่มไปทั้งร่าง เนื้อตัวสั่นเทาอยู่นานกว่าจะสงบลง
นางเหลือบตามองห้องบรรทมขององค์หญิงที่เห็นอยู่ไกลๆ ด้วยแววตาหวาดผวา
ไหนๆ ก็ตายไปแล้ว อย่าติดใจสืบสาวราวเรื่องอีกเลย
ความคิดนั้นเพิ่งจะผุดขึ้นมาในหัว จือจือก็นึกดูถูกตนเองทันที ก่อนตายกลัวอีกฝ่ายจนหงอ ขนาดตายแล้วยังกลัวไม่เลิก จะไม่เอาไหนเกินไปแล้ว เหล่าผีร้ายในนิทานที่มารดาเคยเล่าให้ฟังสมัยเด็กๆ น่าขนลุกขนพองออกจะตายไป โดยเฉพาะวิญญาณที่ตายทั้งที่ไม่ควรตายเช่นนาง หัวใจจะเต็มไปด้วยความอาฆาตพยาบาท หากคิดจะแก้แค้นใครก็มักแก้แค้นสำเร็จ ถึงขั้นสามารถฆ่าคนไม่รู้อีโหน่อีเหน่ตายได้เลยด้วยซ้ำ
พอคิดได้เช่นนี้จือจือก็กัดฟันแน่นด้วยแววตาเด็ดเดี่ยว แล้วลอยไปยังห้องบรรทมขององค์หญิงอีกครั้ง คราวนี้นางเพิ่มความระมัดระวังให้มากขึ้นกว่าเก่า หลบซ้ายที หลบขวาที จากนั้นก็ไปหลบอยู่หลังประตู โผล่แต่หัวออกมาแอบมองเข้าไปข้างใน
พวกข้ารับใช้ออกมากันหมดแล้ว ดูเหมือนในห้องจะมีแต่องค์หญิงกับกงหมัวมัวแค่สองคน
จือจือพรูลมหายใจยาวเหยียด ก่อนจะค่อยๆ ลอยเข้าไปข้างในให้เบาที่สุด ระหว่างนั้นยังยกสองมือขึ้นมาประสานกันโดยไม่รู้ตัว พอลอยเข้าไปใกล้ เสียงสตรีนุ่มหูก็ดังขึ้น
เสียงนั้นต่ำกว่าเสียงสตรีทั่วไปเล็กน้อย แต่ก็ไม่บั่นทอนความไพเราะลงเลย
“กงหมัวมัว วันนี้เด็กผู้นั้นตายไปครบเจ็ดวันแล้ว”
จือจือชะงักไปทันที นางยกนิ้วนับ ดูเหมือนวันนี้จะเป็นวันที่เจ็ดที่นางกลายเป็นผีจริงๆ
“องค์หญิงโปรดวางพระทัย หม่อมฉันจัดการดูแลครอบครัวของนางเป็นอย่างดีแล้วเพคะ พอบิดาของนางได้เงินไปหมื่นตำลึง ก็พาน้องชายนางย้ายไปอยู่ทางใต้ทันที จะไม่กลับเข้าเมืองหลวงอีกเลยชั่วชีวิต” พูดมาถึงตรงนี้น้ำเสียงของกงหมัวมัวก็เปลี่ยนไปโดยพลัน กลายเป็นอำมหิตน่ากลัว “หากกล้ากลับเข้าเมืองหลวง หม่อมฉันก็มีวิธีจัดการให้สิ้นซากเช่นกัน”
จือจือทำหน้าเหลอหลา อดลอยเข้าไปใกล้ต้นเสียงอีกนิดไม่ได้
ห้องบรรทมขององค์หญิงหรูหรางดงามยิ่งนัก แต่ชะรอยองค์หญิงจะไม่ชอบจุดตะเกียง ใช้เพียงไข่มุกราตรีให้แสงสว่าง ห้องทั้งห้องจึงสลัวทึบทึม ภาพวาดบนผนังไม่ใช่ภาพลายเมฆทั่วๆ ไป แต่เป็นภาพเทพเซียนเหาะเหินแบบต่างๆ หญิงสาวในภาพสวมอาภรณ์งามหรูสีสันฉูดฉาด เสื้อผ้าปลิวพลิ้ว ในมือถือเครื่องดนตรีหลากหลายประเภท ทว่าดวงตาของทุกคนกลับอำมหิตดุดัน ยิ่งมีม่านแพรบดบัง ไอสังหารที่แผ่ออกมายิ่งดูน่ากลัวเป็นพิเศษ
นางเห็นองค์หญิงแล้ว