เหลืออีกแค่เดือนครึ่งก็จะถึงงานเสกสมรสขององค์หญิง
จือจือยกนิ้วนับวันแล้วให้ร้อนรนยิ่งกว่าเก่า
หากมอบถุงเหอเปานี้ให้เซี่ยงชิงจวี เขาจะต้องตระหนักถึงความในใจของนางแน่นอน เช่นนั้นเขาจะมาสู่ขอนางหรือไม่นะ
จือจือแสดงออกอย่างเปิดเผยด้วยการปักรูปยวนยางคู่หนึ่งลงบนถุงเหอเปา หวังใจว่าเมื่อเซี่ยงชิงจวีเห็นยวนยางคู่นี้ จะเข้าใจความนัยที่นางไม่ได้เอ่ยเอื้อนออกจากปาก มารดาเคยบอกว่าหากสตรีชอบใครสักคน ไม่มีทางออกปากเอง จะต้องแสดงออกอ้อมๆ ให้อีกฝ่ายเอ่ยออกมาก่อน เช่นนี้ฝ่ายชายก็จะยิ่งรักเรามากขึ้น
แม้บอกว่าขอแค่ฝ่ายชายให้เกียรติกันก็พอแล้ว ทว่าสตรีเป็นสิ่งมีชีวิตที่ต้องการความรัก พวกนางต้องการความรักอันมากล้นมาค้ำจุนตนเอง สตรีที่ถูกหล่อเลี้ยงด้วยความรักคือสตรีที่งดงามที่สุด
วันที่นำถุงเหอเปาไปมอบให้ จือจือตื่นแต่เช้าตรู่มาส่องกระจกลองเสื้อผ้าอยู่หลายชุด กระนั้นนางก็ยังรู้สึกว่าตนเองมีเสื้อผ้าน้อยเกินไปอยู่ดี ดูเหมือนเซี่ยงชิงจวีจะเคยเห็นหมดแล้วทุกชุด ก็เสื้อผ้านางมีอยู่เท่านี้เองนี่นา
สุดท้ายนางเหลือบตาไปมองกระโปรงสีฟ้าอ่อนตัวเดียวกับที่ใส่ออกไปกลางดึกคืนนั้น เหมือนว่าเซี่ยงชิงจวีจะยังไม่เคยเห็น นางสวมชุดนี้ก็แล้วกัน
เด็กสาวใส่เสื้อผ้าแล้วตั้งใจทำผมทรงใหม่ ผมทรงนี้ยังไม่เป็นที่นิยมในปัจจุบัน ชาติก่อนเพิ่งจะเริ่มนิยมหลังจากที่นางแต่งเข้าตำหนักองค์หญิงไปแล้ว หญิงสาวทำผมทรงนี้กันทั้งนั้น นางอยู่ว่างๆ ในตำหนักรู้สึกเบื่อหน่าย จึงหัดทำดูบ้าง
นางบรรจงแต่งตัวอย่างพิถีพิถัน ทั้งแต่งหน้า ลงน้ำมันผม แม้แต่ปลายนิ้วยังทาน้ำคั้นดอกเทียน* ที่เก็บเอาไว้
ก่อนออกจากบ้าน เด็กสาวหันไปส่องกระจก
จือจือยิ้มให้ภาพสะท้อนของตนเองบนบานกระจกสำริด ก่อนจะเปิดประตูเดินออกไป
นางแอบออกจากบ้านโดยไม่ให้น้องชายเห็น ระหว่างที่เดินไปตามทางก็ใคร่ครวญในใจว่าจะพูดอย่างไรดี ความรู้สึกยามนำถุงเหอเปาไปมอบให้เขาครานี้แตกต่างไปจากคราก่อน ถุงเหอเปาที่อยู่ในแขนเสื้อเหมือนร้อนขึ้นจนร้อนจัดราวกับลูกไฟ เดินเลี้ยวอีกแค่แยกเดียวก็จะเห็นประตูคฤหาสน์สกุลเซี่ยงแล้ว นางเริ่มนับก้าว แต่พอเดินเลี้ยวเท่านั้นก็หยุดชะงักอยู่กับที่ด้วยความตกตะลึง
ที่หน้าประตูคฤหาสน์สกุลเซี่ยง เซี่ยงชิงจวีกำลังยืนคู่กับหญิงสาวหน้าตาสะสวยคนหนึ่ง หญิงสาวผู้นั้นแต่งกายงดงาม ข้างๆ ยังมีเด็กสาวแต่งตัวแบบสาวใช้ยืนอยู่ด้วย
ใบหน้าของเซี่ยงชิงจวีประดับรอยยิ้มที่จือจือไม่เคยเห็นมาก่อน
หญิงงามก็กำลังแย้มยิ้มเช่นกัน ซ้ำยังยกมือขึ้นคล้องแขนเซี่ยงชิงจวี…
ระหว่างทางกลับบ้าน จือจือคิดว่าตนเองช่างโง่เง่าเหลือเกิน
นางเอาแต่จำว่าเซี่ยงชิงจวีสอบผ่าน แต่ไม่ได้จำว่าในเวลานั้นเขาแต่งงานแล้วหรือไม่ ต่อให้ยังไม่ได้แต่ง มีหญิงที่ต้องใจอยู่แล้วหรือเปล่า
จือจือล้วงถุงเหอเปาออกจากแขนเสื้อ
ยวนยางคู่ที่ปักอยู่บนถุงเหอเปาเหมือนกำลังเยาะเย้ยกัน ชายหญิงที่นางเห็นเมื่อครู่นี้ต่างหากถึงจะเป็นคู่ครองที่สมกันอย่างแท้จริง
หญิงสาวผู้นั้นแต่งกายด้วยอาภรณ์งามหรู ทุกอากัปกิริยาบ่งบอกว่าเป็นคุณหนูจากตระกูลร่ำรวย ขนาดเอื้อมมือไปคล้องแขนฝ่ายชายอย่างใจกล้าก็ยังทำได้ง่ายๆ ราวกับว่าควรเป็นเช่นนั้นอยู่แล้ว
นับเป็นครั้งแรกที่จือจือรู้สึกริษยาใครสักคน
นางมองถุงเหอเปาของตนเอง แล้วเหลือบไปเห็นเข่งขยะข้างทาง จึงเดินดุ่มๆ เข้าไปเงื้อมือจะเขวี้ยงถุงเหอเปาทิ้งอย่างหัวเสีย
“แม่นาง ถุงเหอเปาสวยเพียงนี้ ทิ้งทำไมกันเล่า”
น้ำเสียงขี้เล่นของบุรุษผู้หนึ่งดังขึ้น
ติดตามตอนต่อไปวันที่ 9 ต.ต. 64 เวลา 12.00 น.