ทดลองอ่าน อุบายรักลิขิตเสน่หา บทที่ 29 – หน้า 3 – Jamsai
Connect with us

Jamsai

ทดลองอ่าน

ทดลองอ่าน อุบายรักลิขิตเสน่หา บทที่ 29

ลู่อู๋โยวอยู่ทางนี้วุ่นกับเรื่องการขุดขยายแม่น้ำสร้างทำนบ ทางนั้นยังต้องทลายรังโจรต่อไป พรรคชังซานถูกเขากำราบไปกว่าครึ่ง ยังมีพรรคท้องถิ่นอีกสองพรรค

วันที่ไปพรรคอี้หย่ง เขานั่งรถม้า แทบจะเดินทางไปตามลำพัง

เฮ่อหลันฉือไม่วางใจ ยังคงตามเขาไปด้วยแล้วรออยู่หน้าประตูหมู่บ้าน

“สองแคว้นทำสงครามกัน ไม่ฆ่าทูตที่มาเยือน ข้ามีความจริงใจเต็มเปี่ยม ต่อให้เจรจาล้มเหลวก็ไม่ถึงขั้นลงไม้ลงมือ ถ้าจะลงไม้ลงมือจริง…” ลู่อู๋โยวน้ำเสียงเป็นปกติ “ก็ไม่แน่ว่าจะสู้ไม่ชนะ”

เฮ่อหลันฉือ “…?”

“ท่านพ่อข้าในอดีตทำสงครามสามวันสามคืนยังไม่ล้มลงเลย ข้าทนสักวันสองวันคงไม่เป็นปัญหาใหญ่อะไร” พูดจบเขาก็พลิกเปิดชายชุดขุนนางลงจากรถม้า

เทียบกับประตูหมู่บ้านที่น่าเกลียดของพรรคชังซาน พรรคอี้หย่งดูแล้วเข้าท่ากว่ามาก หน้าประตูมีคนเฝ้ายาม มีคนลาดตระเวน แทบจะเหมือนเมืองเล็กๆ เมืองหนึ่ง

ลู่อู๋โยวไม่ได้นำผู้ติดตามไปด้วยแม้แต่คนเดียว รูปร่างของเขาสูงโปร่ง ผมเผ้าไม่ยุ่งเหยิงแม้แต่น้อย ชุดขุนนางสีเขียวเข้มที่เรียบร้อยขับให้เขาดูหล่อเหลา งามสง่าโดดเด่น แววตาสงบนิ่งมุ่งมั่น ราวกับมีพลังที่ทำให้คนเชื่อถือได้ แต่ยังดูสุขุมยิ่งกว่า

ฉับพลันนั้นเขาดูมีความแตกต่างเล็กน้อยกับจ้วงหยวนที่เพิ่งได้รับความภาคภูมิใจในความสำเร็จคนนั้น

เฮ่อหลันฉือเหม่อลอยไปเล็กน้อย

หลังจากลู่อู๋โยวแจ้งเรื่องแล้วก็ถูกรับตัวเข้าไป ประมุขพรรคอี้หย่งเป็นชายหนุ่มในชุดบัณฑิตที่งามสง่า ผู้ที่ยืนอยู่ด้านข้างคือกุนซือของเขา แต่งกายเหมือนบัณฑิตเช่นกัน

ก่อนที่ลู่อู๋โยวจะแจ้งจุดประสงค์การมา คนทั้งสองก็คำนับเขาแล้วเอ่ยว่า “ใต้เท้าลู่คุณธรรมสูงส่ง วิงวอนเพื่อราษฎร ข้าอยู่ชายแดนได้ยินข่าวเช่นกัน”

ลู่อู๋โยวคำนับตอบแล้วเอ่ยว่า “มิกล้ารับ”

“ครั้งนี้มาจากเมืองหลวง ยังคิดว่าใต้เท้าลู่จะหมดอาลัยด้วยเรื่องนี้ คิดไม่ถึงว่าใต้เท้าลู่มาถึงห่วงโจวยังไม่ทิ้งปณิธานผดุงความยุติธรรม ทำให้พวกข้านับถือจริงๆ วันนี้ยังเสี่ยงอันตรายมาตามลำพัง ไม่รู้ว่าด้วยเรื่องใด”

คำพูดเป็นมารยาทเช่นนี้ลู่อู๋โยวรับมือเก่งที่สุด แต่สามารถเจรจาได้นับว่าตัดความยุ่งยากได้มากมาย หลังจากทักทายกันแล้วเขาก็เริ่มพูดจาฉะฉานอย่างมีเหตุผล

เริ่มตั้งแต่แผนการขุดขยายแม่น้ำและสร้างทำนบ ไปจนถึงการทำการค้า พัฒนาพื้นที่เพาะปลูก ปรับปรุงประเพณีท้องถิ่น และเปิดปัญญาผู้คน วาดขนมเปี๊ยะชิ้นใหญ่กว่าที่ไปขอเงินก่อนหน้านี้ แน่นอนว่าภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ หากยังมีพรรคโจรอยู่จะไม่เป็นผลดีต่อการพัฒนาห่วงโจว ลู่อู๋โยวยังเกลี้ยกล่อมให้พวกเขากลับใจเป็นคนดีเช่นกัน

คนทั้งสองฟังจบก็ตกใจเช่นกัน คิดไม่ถึงว่าลู่อู๋โยวจะมีความทะเยอทะยานใหญ่โตถึงเพียงนี้ มองไม่เห็นความไม่พอใจจากการถูกลดตำแหน่งแม้แต่น้อย แต่กลับเหมือนเพิ่งถูกเลื่อนตำแหน่ง ต้องการแสดงฝีมือครั้งใหญ่

ประมุขพรรคอี้หย่งครุ่นคิดครู่หนึ่งจึงเอ่ยว่า “เรื่องนี้ข้ายังต้องปรึกษากับเหล่าพี่น้องในพรรค ไม่สามารถตัดสินใจเองได้ ขอใต้เท้าลู่อภัยด้วย แต่ครั้งหน้าข้าจะไปเยี่ยมเยือนยังที่ว่าการเมืองสุยหยวนด้วยตนเอง ไม่ต้องรบกวนให้ใต้เท้าลู่มาเองแล้ว”

เพราะเหตุนี้จึงกล่าวกันว่าคนเรียนหนังสือย่อมดีกว่า

ขณะที่ลู่อู๋โยวกำลังคิดก็ได้ยินกุนซือผู้นั้นเอ่ยว่า “น่าเสียดายที่ตอนนี้ไม่อยู่ในช่วงแผ่นดินวุ่นวาย น่าเสียดายใต้เท้าลู่”

ลู่อู๋โยวเลื่อนสายตาเล็กน้อย คล้ายสังเกตบางอย่างได้จึงพูดด้วยรอยยิ้ม “ในยามสงบชาวบ้านมักจะมีชีวิตที่ดีกว่ายามวุ่นวาย และจากที่ข้าเห็นเมื่อครู่ ในพรรคของทั้งสองท่านแม้จะดำเนินการได้ไม่เลว แต่คิดจะเอาตัวรอดในยามวุ่นวายยังคงดูไม่เพียงพอไปสักนิด”

กุนซือพูดด้วยรอยยิ้มเช่นกัน “ดังนั้นข้าจึงกำลังรู้สึกเสียดาย ใต้เท้าลู่มีความกล้า มีแผนการ กลับต้องเจอกับฮ่องเต้ไม่เอาไหน ต้องมาอุดอู้อยู่ที่นี่ ถ้าแผ่นดินวุ่นวาย ไม่แน่ว่า…” เขาชะงักไปเล็กน้อย

ลู่อู๋โยวหัวเราะออกมาจริงๆ “ความทะเยอทะยานของพวกท่านไม่น้อยเลย แต่ตอนนี้ข้าไม่มีความคิดเช่นนั้น นั่นเป็นเรื่องที่ยุ่งยากเกินไปจริงๆ และคนเป็นฮ่องเต้มีภาระผูกพันกว่าคนเป็นขุนนางมาก แบกอะไรไว้บนบ่ามากเกินไป ยิ่งสูงยิ่งหนาว กลายเป็นคนที่โดดเดี่ยว มีชีวิตที่ลำบากยิ่งนัก”

 

เฮ่อหลันฉือรออยู่ข้างนอกอย่างอกสั่นขวัญแขวน กลัวจริงๆ ว่าลู่อู๋โยวจะบุกทะลวงออกมา เช่นนั้นนางต้องคิดหาทางรีบหนีไป จะเป็นตัวถ่วงเขาไม่ได้

ขณะที่กำลังคิดก็เห็นลู่อู๋โยวถูกคนส่งออกมาอย่างนอบน้อม ในมือยังถือปลาไว้สองตัวอีกด้วย

รอเขาเดินมาถึง เฮ่อหลันฉือจึงค่อยพลิกเปิดม่านรถม้า ยื่นศีรษะออกไปถามอย่างสงสัย “นี่คืออะไร”

ลู่อู๋โยวพูดอย่างรังเกียจ “ปลาดองตากแห้ง สินค้าเฉพาะถิ่นของห่วงโจว พวกเขาบอกว่าจะให้ข้าจากไปมือเปล่าไม่ได้ จึงมอบของให้ข้าเล็กน้อย”

เฮ่อหลันฉือหมดคำพูดไปครู่หนึ่งจึงเอ่ยว่า “พวกเจ้าเจรจากันเป็นอย่างไรบ้าง”

“นับว่าราบรื่น” ลู่อู๋โยวยื่นปลาที่มีกลิ่นคาวกระจายออกมาให้คนอื่น ก้าวขึ้นรถม้าแล้วพูดเสียงเบาว่า “ก็แค่ก่อนจากมายังยุยงให้ข้าก่อกบฏอีกด้วย”

เฮ่อหลันฉือ “…???”

ลู่อู๋โยวจับจ้องนางแล้วเอ่ยถาม “เจ้าอยากเป็นฮองเฮาหรือไม่”

เฮ่อหลันฉือส่ายหน้าอย่างรวดเร็วด้วยความตื่นกลัว จับไหล่ของลู่อู๋โยวแล้วกล่าวว่า “เจ้าสงบสติสักนิดเถอะ”

ลู่อู๋โยวแตะแขนของนาง เป็นสัญญาณให้นางสบายใจ “ข้าถามไปอย่างนั้นเอง เจ้าวางใจได้ ข้าปฏิเสธไปแล้ว แค่พวกเขาไม่กี่พันคน อย่าว่าแต่เมืองหลวงเลย ถ้ากองทหารหลักห่วงโจวคิดจะยกทัพมาทลายรังโจรจริง พวกเขาก็ต้านไม่ไหวเช่นกัน แต่เพราะกำลังวุ่นวายกับการเตรียมป้องกันเป่ยตี๋ ไม่ว่างจะจัดการพวกเขาเท่านั้นเอง”

เฮ่อหลันฉือชะงักไปเล็กน้อยก่อนจะเอ่ยถาม “เหตุใดเจ้าจึงดูเหมือนเคยใคร่ครวญเรื่องนี้มาก่อนจริงๆ”

ถึงแม้การที่เขาอยู่ว่างๆ แล้วชอบหาเรื่องใส่ตัวนั้นไม่ใช่เรื่องที่เพิ่งเกิดขึ้นในวันสองวันนี้ก็ตาม

“เพียงใคร่ครวญเล็กน้อยเท่านั้น ถ้ามีวิธีการก่อกบฏอย่างสันติได้ ข้าก็ใช่ว่าจะไม่สามารถ…แน่นอนว่าตอนนี้แผ่นดินสงบผู้คนปลอดภัยก็ช่างเถอะ แม้เซียวไหวจั๋วจะแก้แค้นส่วนตัว ลดตำแหน่งและส่งข้ามาที่นี่ แต่อย่างเช่นบิดาเจ้าที่เป็นขุนนางมาได้นานหลายปีถึงเพียงนั้น เซียวไหวจั๋วก็ยังนับว่าอยู่ห่างจากฮ่องเต้โง่เขลาระยะหนึ่ง แต่ถ้าเซียวหนานสวินสืบทอดตำแหน่งก็พูดได้ยากแล้ว…ตระกูลของลี่ซื่อเป็นใหญ่จึงจะเป็นภัยร้าย ถึงเวลานั้นใต้หล้าก็จะกลายเป็นอี้โจวในอดีตไปหมด”

เฮ่อหลันฉือก้มหน้าครุ่นคิดสักครู่เช่นกัน

“ถ้าเป็นเช่นนี้จริง…” เฮ่อหลันฉือพูดอย่างช้าๆ “ถ้าเขายังมีใจต่อข้า ข้าไปลอบฆ่าเขาก็ใช่ว่าจะทำไม่ได้”

“…???” ลู่อู๋โยวอึ้งงันไป ก่อนจะพูดอย่างมีสติว่า “ขอแนะนำให้เจ้าสงบสติสักนิดเช่นกัน”

เฮ่อหลันฉือใช้คำพูดเดิมของเขาตอบว่า “เพียงใคร่ครวญเล็กน้อยเท่านั้น! เรื่องข้านี้ไม่แน่ว่ายังง่ายกว่าเล็กน้อย”

ลู่อู๋โยวจนคำพูดอย่างหาได้ยากไปในพริบตา ยื่นมือไปขยี้ผมของนางก่อนจะเอ่ยว่า “พวกเราใช้ชีวิตของตนเองอย่างสงบดีกว่า บุตรชายยังอยู่ที่บ้านรอเจ้ากลับไปทำน้ำแกงโบราณอยู่นะ อ้อจริงสิ ปลาดองตัวนั้นเก็บไว้ให้เขาได้พอดี เสริมสร้างร่างกาย”

เฮ่อหลันฉือ “…”

อย่าทำตัวเป็นพ่อคนอย่างเป็นธรรมชาติเช่นนี้ได้หรือไม่

Comments

comments

No tags for this post.
Continue Reading

More in ทดลองอ่าน

  • ทดลองอ่าน

    ทดลองอ่าน ลำนำฝูหรงเคียงกระเรียน บทที่ 1.3-1.4

    By

    บทที่ 1.3 นกกระเรียนบาดเจ็บกับดอกฝูหรง หลังจากหิมะตกในยามค่ำคืน วันถัดมาที่หนานไห่จื่อก็ปกคลุมไปด้วยหิมะสีขาวโพลน ผู้ดูแลเอามือป้องตาพลางเปิ...

  • ลำนำฝูหรงเคียงกระเรียน

    ทดลองอ่าน ลำนำฝูหรงเคียงกระเรียน บทนำ-บทที่ 1.2

    By

    บทนำ บนโลกนี้มีการเดินทางข้ามกาลเวลาที่สมบูรณ์แบบอยู่หรือไม่ น่าจะมีอยู่ หยางหวั่นก็คือคนโชคดีที่ได้เดินทางข้ามกาลเวลาครั้งนี้ หลายคนต่างบอก...

  • ทดลองอ่าน

    ทดลองอ่าน ฟูมฟักจอมราชัน บทที่ 7-8

    By

    บทที่ 7 หูซื่อหลังส่งจางมามาไปแล้วก็มีท่าทางเซื่องซึม แต่ตอนที่หันกลับมาเห็นบุตรสาวก็ฝืนทำเป็นยิ้มร่าเริง กระตุ้นให้ตนเองฮึกเหิมแล้วไปล้างปล...

  • ทดลองอ่าน

    ทดลองอ่าน ฟูมฟักจอมราชัน บทที่ 5-6

    By

    บทที่ 5 ตามที่บทละครเขียนไว้แขวนโคมแดงคือการเปิดประตูเรือนทำงานเป็นนางคณิกา แม้หูซื่อจะทำเช่นนี้จริงๆ ยามจวนตัว แต่คำพูดนี้พอออกมาจากปากบุตร...

  • ทดลองอ่าน

    ทดลองอ่าน ฟูมฟักจอมราชัน บทที่ 3-4

    By

    บทที่ 3 อู๋เซี่ยวเซี่ยวเปิดกระจกรถเล็กน้อยด้วยสีหน้าเรียบเฉย ให้กลิ่นค่อยๆ ระบายออกไป จากนั้นสตาร์ตรถ เหยียบคันเร่งขับรถสปอร์ตออกไปจากโรงจอด...

  • ทดลองอ่าน

    ทดลองอ่าน ฟูมฟักจอมราชัน บทที่ 1-2

    By

    บทที่ 1 อู๋เซี่ยวเซี่ยวไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าตนเองที่เป็นผู้จัดการดารามือทองมากประสบการณ์จะถูกสังคมวิพากษ์วิจารณ์อย่างดุเดือดพร้อมกับเจิงฝาน ...

  • ทดลองอ่าน

    ทดลองอ่าน อุบายรักลิขิตเสน่หา บทที่ 31

    By

    บทที่ 31 เสี่ยงตายป้องกันเมือง   ภายในวังหลวง ซุ่นฮ่องเต้ยังคงไม่เข้าประชุมราชสำนัก เพียงอ่านเอกสารที่ราชเลขาธิการนำถวายอยู่บนเตียง แม้...

บทความยอดนิยม

everY

ทดลองอ่าน เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 Chapter 2.1-2.2 #นิยายวาย

ทดลองอ่าน เรื่อง เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 ผู้เขียน : MINTRAN แปลโดย : ทันบี ผลงานเรื่อง : 배타적 연애 금지구역 ถือเป็นลิขสิทธิ์...

ทดลองอ่าน

ทดลองอ่าน ฟูมฟักจอมราชัน บทที่ 1-2

บทที่ 1 อู๋เซี่ยวเซี่ยวไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าตนเองที่เป็นผู้จัดการดารามือทองมากประสบการณ์จะถูกสังคมวิพากษ์วิจารณ์อย่างดุเ...

ทดลองอ่าน

ทดลองอ่าน ฟูมฟักจอมราชัน บทที่ 5-6

บทที่ 5 ตามที่บทละครเขียนไว้แขวนโคมแดงคือการเปิดประตูเรือนทำงานเป็นนางคณิกา แม้หูซื่อจะทำเช่นนี้จริงๆ ยามจวนตัว แต่คำพูด...

ทดลองอ่าน

ทดลองอ่าน ฟูมฟักจอมราชัน บทที่ 3-4

บทที่ 3 อู๋เซี่ยวเซี่ยวเปิดกระจกรถเล็กน้อยด้วยสีหน้าเรียบเฉย ให้กลิ่นค่อยๆ ระบายออกไป จากนั้นสตาร์ตรถ เหยียบคันเร่งขับรถ...

ทดลองอ่าน

ทดลองอ่าน ฟูมฟักจอมราชัน บทที่ 7-8

บทที่ 7 หูซื่อหลังส่งจางมามาไปแล้วก็มีท่าทางเซื่องซึม แต่ตอนที่หันกลับมาเห็นบุตรสาวก็ฝืนทำเป็นยิ้มร่าเริง กระตุ้นให้ตนเอ...

community.jamsai.com