ทดลองอ่าน อุบายรักลิขิตเสน่หา บทที่ 30 – หน้า 4 – Jamsai
Connect with us

Jamsai

ทดลองอ่าน

ทดลองอ่าน อุบายรักลิขิตเสน่หา บทที่ 30

มู่หลิงยิ่งเดินยิ่งไกล สุดท้ายก็มาหยุดยืนตรงที่แห่งหนึ่ง

ลู่อู๋โยวเดินไปไม่กี่ก้าวก็รับรู้ได้ถึงตัวตนของสตรีที่เดินตามมาข้างหลังคนนั้น เขาใช้สายตาถามนางว่าเหตุใดจึงยังไม่หลับ เฮ่อหลันฉือชี้ไปยังที่ไกลๆ ด้วยสีหน้าอยากรู้อยากเห็น ลู่อู๋โยวชะงักไปเล็กน้อยก่อนจะอุ้มนางขึ้นมา

อย่างไรเสียพานางไปดูละครด้วยก็ไม่ใช่เรื่องที่ทำเพียงครั้งสองครั้งแล้ว

มู่หลิงชะงักฝีเท้า ไม่นานก็มีชายวัยกลางคนหน้าขาวไร้หนวดเคราคนหนึ่งปรากฏขึ้นเบื้องหน้า ชายคนนั้นประสานมือคำนับมู่หลิงอย่างนอบน้อม สีหน้าเต็มไปด้วยความจนใจ

จากนั้นลู่อู๋โยวกับเฮ่อหลันฉือต่างก็ได้ยินเสียงอีกฝ่ายเรียกมู่หลิงอย่างชัดเจนว่า “นายน้อย”

“…?”

เฮ่อหลันฉือกับลู่อู๋โยวมองหน้ากัน ส่งสายตาสื่อสาร

เฮ่อหลันฉือ ‘เหตุใดเขาถึงเรียกว่านายน้อย’

ลู่อู๋โยว ‘เรื่องนี้ข้าจะรู้ได้อย่างไร คำเรียกนี้อาจจะเรียกกันล้นตลาดก็ได้ ครั้งหน้าข้าจะให้พวกเขาเปลี่ยนคำเรียกอื่น’

เฮ่อหลันฉือ ‘ไม่ต้องหรอก พวกเราดูต่อไปเถอะ’

เดิมทีน้ำเสียงของมู่หลิงก็เย็นชาอยู่แล้ว เวลานี้กลับฟังดูเฉยชายิ่งขึ้น “เอาล่ะ อย่าตามข้าอีกเลย ข้าไม่สนใจอะไรจริงๆ”

ชายวัยกลางคนพูดเสียงสะอื้น “แต่ว่า…”

“ครั้งหน้าส่งสารมาข้าจะไม่ออกมาแล้ว จะได้ไม่ยุ่งยาก”

“นายน้อย! ท่าน…”

“อย่าเรียกข้าเช่นนี้อีกเลย ฟังแล้วแปลกยิ่งนัก เปลี่ยนมาเรียกข้าว่าจอมยุทธ์น้อยได้หรือไม่”

ชายวัยกลางคนพูดเสียงสะอื้นอีกครั้ง “ท่านจะใช้คำเรียกหยาบกระด้างเช่นนี้ได้อย่างไร นี่ไม่คู่ควรกับท่าน…”

มู่หลิงกลับหัวเราะแล้วพูดว่า “แต่ข้าชอบ ข้าไปละ”

เห็นมู่หลิงเหมือนจะเดินไปจริงๆ เฮ่อหลันฉือจึงคว้าลู่อู๋โยวไว้ เป็นสัญญาณว่าอีกฝ่ายไปแล้วจะทำอย่างไร

ลู่อู๋โยวทิ้งเฮ่อหลันฉือไว้บนหลังคาแล้วหยิกแก้มของนางทีหนึ่ง จากนั้นเขาก็ลอยตัวลงไปอย่างไม่รีบไม่ช้า เดินไปตรงหน้าสองคนนั้น

ค่ำคืนนี้ไร้จันทรา ท้องฟ้าดำสนิทไม่เห็นแสง

มู่หลิงได้ยินเสียงฝีเท้าจึงหันหน้ามาดู

เงาร่างสูงสง่าของลู่อู๋โยวค่อยๆ ปรากฏขึ้นท่ามกลางความมืดมิด

สามคนมองหน้ากัน ต่างนิ่งเงียบไปชั่วขณะ เห็นได้ชัดว่าเป็นการพบหน้าที่ช่างน่าอึดอัดโดยไม่คาดคิดจริงๆ

มู่หลิงกระแอมทีหนึ่ง กลับมาสงบนิ่งดังเดิมและเอ่ยอย่างใจเย็น “ใต้เท้าลู่ ข้าไม่รู้จักชายคนนี้ แต่เขามาตามติดข้าไม่เลิก”

สองฝ่ายเผชิญหน้ากันเช่นนี้ ชายวัยกลางคนซึ่งเป็นผู้มีวรยุทธ์คนหนึ่งก็ลอยตัวคิดจะจากไปในทันที แต่พอได้ยินคำพูดของมู่หลิง คงเพราะคิดว่าในเมื่อถูกคนพบเข้าแล้ว เขาจึงชะงักฝีเท้า บนใบหน้าฉายความจนใจและร้อนรนอยู่บ้าง

“นายน้อย ถึงแม้ท่านจะจำไม่ได้แล้ว แต่ก็ไม่สามารถ…”

เสียงพูดของเขาแหลมเล็กกว่าบุรุษทั่วไปเล็กน้อย หากไม่ตั้งใจฟังอาจจะฟังไม่ออก

ลู่อู๋โยวเคยพบปะติดต่อคนเช่นนี้อยู่หลายครั้งก็มองออกได้อย่างรวดเร็ว ชายวัยกลางคนผู้นี้เป็นขันที เดิมทีมีความคาดเดาอยู่หลายส่วน คราวนี้เขามั่นใจยิ่งขึ้นแล้วจึงเอ่ยออกมาทีละคำ

“ขอถามสักประโยคได้หรือไม่ นายน้อยของเจ้าคือผู้สูงศักดิ์คนใดหรือ”

เฮ่อหลันฉือเงี่ยหูฟัง

มู่หลิงชะงักไปเล็กน้อยก่อนจะเอ่ยว่า “ใต้เท้าลู่ ข้าคิดว่านั่นไม่สำคัญ”

ยังคงปากแข็งจริงๆ

ลู่อู๋โยวขยับนิ้วมือเล็กน้อย เดินมาทางมู่หลิงแล้วเอ่ยขึ้น “ในเมื่อไม่สำคัญ ข้าซ้อมเจ้าสักยกก่อนดีหรือไม่”

มู่หลิง “…?”

ชายวัยกลางคน “เจ้าคิดจะทำอะไร!”

ลู่อู๋โยวยิ้มอย่างสุภาพอ่อนโยน “เห็นคุณชายที่มีที่มาที่ไปไม่ชัดเจนผู้นี้แล้วไม่ค่อยชอบใจนัก อยากจะซ้อมเขาสักยก”

ระหว่างที่พูดลู่อู๋โยวก็ขยับตัวเคลื่อนมาอยู่ข้างกายมู่หลิง ในตอนที่ใกล้จะแตะคอเสื้อของอีกฝ่าย ชายวัยกลางคนก็ขยับตัวมายกมือขึ้นขวาง วรยุทธ์นับว่าไม่เลว เพียงชั่วครู่ทั้งสองก็ประมือกันอย่างรวดเร็วสิบกว่ากระบวนท่าแล้ว

เดิมทีเป็นการหยั่งเชิงอยู่แล้ว ย่อมไม่ได้ใช้ความสามารถเต็มที่

มู่หลิงที่ยืนอยู่ด้านข้างกดหว่างคิ้ว เอ่ยปากพูดด้วยน้ำเสียงสุภาพอย่างยิ่ง “ยั้งมือเถอะ ใต้เท้าลู่อยากจะซ้อมก็ซ้อม แต่ทางที่ดีอย่าซ้อมใบหน้า แม่นางฮวาเห็นแล้วข้าจะได้ไม่ต้องอธิบายไม่ถูก”

ชายวัยกลางคนเคลื่อนไหวช้าลงในทันที น้ำเสียงยังแฝงความเศร้าสลดและโกรธเคืองเล็กน้อย “นายน้อย! เหตุใดท่าน…”

“ข้าหนีรอดจากความตายมาตลอดทาง ใช่ว่าจะไม่เคยถูกซ้อม”

ชายวัยกลางคนกล่าวในขณะที่น้ำตาแทบจะอาบหน้า “ล้วนเป็น…” เขาเงียบไปครู่หนึ่งก่อนจะพูดอย่างคลุมเครือ “ความทะเยอทะยานของคนเลวนั่น”

ลู่อู๋โยวยั้งมือแล้วเอ่ยว่า “พอแล้ว อย่าให้ต้องคาดเดากันอีกเลย คนเป่ยตี๋ไม่ใช้ขันที ชาวอูเหมิงน่าจะไม่มีความสามารถนี้ เจ้าไม่ใช่คนราชวงศ์นี้ก็เป็นคนราชวงศ์ก่อน ดังนั้นแซ่เซียวหรือแซ่จู หรือว่าเป็น…ทายาทกงโหวคนใด แต่ทายาทกงโหวคงไม่ต้องส่งองครักษ์เสื้อแพรมาตามฆ่ากระมัง ภายในเขตห่วงโจวเดิมทีมีองครักษ์เสื้อแพรไม่เท่าไร แต่หลังจากที่เจ้ามาที่นี่กลับมีแทรกซึมเข้ามาหลายกลุ่มแล้ว”

ชายวัยกลางคนคิดไม่ถึงว่าลู่อู๋โยวจะพูดจาเหิมเกริมเช่นนี้ จึงถลึงตาดุขึ้นมาอีกครั้งทันที “เจ้าบังอาจยิ่งนัก!”

ลู่อู๋โยวพูดด้วยรอยยิ้ม “คำพูดนี้มีกลิ่นอายของการเป็นขันทีแล้ว”

เฮ่อหลันฉือคิดในใจอยู่เช่นกันว่าถูกต้อง

ชายวัยกลางคนพูดด้วยความอับอายและโกรธเคือง “เจ้า! เจ้า…”

มู่หลิงครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะเอ่ยด้วยน้ำเสียงเย็นชา “ถ้าใต้เท้าลู่อยากรู้ให้ได้ เช่นนั้นข้าจะพูดตามจริง”

ชายวัยกลางคนตกใจอย่างยิ่ง รีบเอ่ยขัด “นายน้อย คนผู้นี้ไม่รู้ตื้นลึกหนาบาง ไม่ได้นะขอรับ!” เขาทำท่าเหมือนอยากจะไปปิดปากมู่หลิงแต่ก็ไม่กล้าทำ “นายน้อย ใคร่ครวญอีกครั้งเถอะ!”

ลู่อู๋โยวกลับเอ่ยว่า “เจ้าว่ามา”

แม้แต่เฮ่อหลันฉือที่ย่อตัวนั่งอยู่บนหลังคาก็รู้สึกตื่นเต้นขึ้นมาหลายส่วนในทันที

มู่หลิงสูดหายใจเข้าลึก ใช้น้ำเสียงเฉกเช่นปกติเล่าชาติกำเนิดที่น่าตกใจยิ่งนักนั้นออกมา

“เขาบอกว่าข้าเป็นทายาทขององค์รัชทายาทไหวจิ่น ตำแหน่งฮ่องเต้องค์ปัจจุบันได้มาโดยมิชอบ ข้าต่างหากจึงจะเป็นโอรสสวรรค์ที่แท้จริง ยังบอกว่าอดีตฮ่องเต้ทิ้งราชโองการไว้ให้ข้าหนึ่งฉบับ แต่ปัญหาคือข้าไม่มีความสนใจอะไรจริงๆ รู้สึกเพียงว่ายุ่งยาก ตอนอยู่เมืองหลวงแม้แต่ประตูข้าก็ไม่กล้าออกไป นานทีจะได้ออกสักครั้งยังต้องปกปิดใบหน้า ยังเกือบถูกป้ายร้านทับตายอีกด้วย”

เฮ่อหลันฉือนิ่งเงียบไปครู่หนึ่งก่อนจะรู้สึกตื่นตกใจ

Comments

comments

No tags for this post.
Continue Reading

More in ทดลองอ่าน

  • ทดลองอ่าน

    ทดลองอ่าน ห้วงฝันบันดาลรัก บทที่ 4-6

    By

    บทที่ 4 แป้งชาด ตอนตี้อีชิวกลับถึงกองเสวียนอู่ก็เป็นยามอิ๋นแล้ว ถึงอย่างไรท้องฟ้าก็กำลังจะสว่าง เขาจึงมิได้นอนอีก ตัดสินใจไปอ่านเอกสารที่ห้อ...

  • ทดลองอ่าน

    ทดลองอ่าน ห้วงฝันบันดาลรัก บทที่ 1-3

    By

    บทที่ 1 แค้นเก่า หวงหร่างกลายเป็นเผือกร้อนหัวหนึ่ง ผู้เก่งกล้าจากสำนักเซียนหลายคนฝ่าฟันอันตรายลักพาตัวนางออกมาด้วยความยากลำบากเหลือแสน เดิมท...

  • ทดลองอ่าน

    ทดลองอ่าน ลำนำฝูหรงเคียงกระเรียน บทที่ 1.5-1.6

    By

    บทที่ 1.5 นกกระเรียนบาดเจ็บกับดอกฝูหรง ยามนี้ในห้องลงทัณฑ์เงียบสงัดราวกับไร้คนมีชีวิต ความเจ็บปวดแสนสาหัสที่ยากจะทานทนเมื่อครู่เริ่มสงบลงแล้...

  • ทดลองอ่าน

    ทดลองอ่าน ลำนำฝูหรงเคียงกระเรียน บทที่ 1.3-1.4

    By

    บทที่ 1.3 นกกระเรียนบาดเจ็บกับดอกฝูหรง หลังจากหิมะตกในยามค่ำคืน วันถัดมาที่หนานไห่จื่อก็ปกคลุมไปด้วยหิมะสีขาวโพลน ผู้ดูแลเอามือป้องตาพลางเปิ...

  • ลำนำฝูหรงเคียงกระเรียน

    ทดลองอ่าน ลำนำฝูหรงเคียงกระเรียน บทนำ-บทที่ 1.2

    By

    บทนำ บนโลกนี้มีการเดินทางข้ามกาลเวลาที่สมบูรณ์แบบอยู่หรือไม่ น่าจะมีอยู่ หยางหวั่นก็คือคนโชคดีที่ได้เดินทางข้ามกาลเวลาครั้งนี้ หลายคนต่างบอก...

  • ทดลองอ่าน

    ทดลองอ่าน ฟูมฟักจอมราชัน บทที่ 7-8

    By

    บทที่ 7 หูซื่อหลังส่งจางมามาไปแล้วก็มีท่าทางเซื่องซึม แต่ตอนที่หันกลับมาเห็นบุตรสาวก็ฝืนทำเป็นยิ้มร่าเริง กระตุ้นให้ตนเองฮึกเหิมแล้วไปล้างปล...

  • ทดลองอ่าน

    ทดลองอ่าน ฟูมฟักจอมราชัน บทที่ 5-6

    By

    บทที่ 5 ตามที่บทละครเขียนไว้แขวนโคมแดงคือการเปิดประตูเรือนทำงานเป็นนางคณิกา แม้หูซื่อจะทำเช่นนี้จริงๆ ยามจวนตัว แต่คำพูดนี้พอออกมาจากปากบุตร...

บทความยอดนิยม

everY

ทดลองอ่าน เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 Chapter 2.1-2.2 #นิยายวาย

ทดลองอ่าน เรื่อง เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 ผู้เขียน : MINTRAN แปลโดย : ทันบี ผลงานเรื่อง : 배타적 연애 금지구역 ถือเป็นลิขสิทธิ์...

ทดลองอ่าน

ทดลองอ่าน ฟูมฟักจอมราชัน บทที่ 1-2

บทที่ 1 อู๋เซี่ยวเซี่ยวไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าตนเองที่เป็นผู้จัดการดารามือทองมากประสบการณ์จะถูกสังคมวิพากษ์วิจารณ์อย่างดุเ...

ทดลองอ่าน

ทดลองอ่าน ฟูมฟักจอมราชัน บทที่ 5-6

บทที่ 5 ตามที่บทละครเขียนไว้แขวนโคมแดงคือการเปิดประตูเรือนทำงานเป็นนางคณิกา แม้หูซื่อจะทำเช่นนี้จริงๆ ยามจวนตัว แต่คำพูด...

ทดลองอ่าน

ทดลองอ่าน ฟูมฟักจอมราชัน บทที่ 3-4

บทที่ 3 อู๋เซี่ยวเซี่ยวเปิดกระจกรถเล็กน้อยด้วยสีหน้าเรียบเฉย ให้กลิ่นค่อยๆ ระบายออกไป จากนั้นสตาร์ตรถ เหยียบคันเร่งขับรถ...

ลำนำฝูหรงเคียงกระเรียน

ทดลองอ่าน ลำนำฝูหรงเคียงกระเรียน บทนำ-บทที่ 1.2

บทนำ บนโลกนี้มีการเดินทางข้ามกาลเวลาที่สมบูรณ์แบบอยู่หรือไม่ น่าจะมีอยู่ หยางหวั่นก็คือคนโชคดีที่ได้เดินทางข้ามกาลเวลาคร...

community.jamsai.com