ทดลองอ่าน
ทดลองอ่าน เกิดใหม่อีกที ไม่ขอสามีสกุลหลี่ บทที่ 1 – บทที่ 2
หัวหน้าใหญ่ผู้นั้นรู้ว่าคนบนเรือฝ่ายตรงข้ามมีวิชาธนูแก่กล้า พอเห็นหลี่ซิวเหยาน้าวสายธนูจึงผลุบตัวหลบหลังคนข้างๆ ทันที ตอนนี้คนผู้นั้นต้องลูกธนูตายไปแล้ว เขาก็ยื่นมือไปหิ้วตัวคนผู้นั้นมาไว้เบื้องหน้าตนเองเพื่อบังลูกธนูของหลี่ซิวเหยา พร้อมกันนั้นก็หันหน้ากลับไปคำรามใส่คนด้านหลังด้วยอาการกระหืดกระหอบ “รีบพาย! รีบพาย! รอขึ้นเรือใหญ่ได้เมื่อไร ธนูของเขาก็ไม่มีที่ให้แผลงฤทธิ์แล้ว!”
เขายังพูดเสียงดังอีกว่า “ผู้ที่เหมาเรือลำนี้เป็นแม่นางจากครอบครัวร่ำรวย มีสตรีอยู่มาก และยังมีแก้วแหวนเงินทองอีกหลายหีบ ขอเพียงพวกเจ้าบุกขึ้นเรือได้ แต่ละคนจะได้รางวัลห้าสิบตำลึงเงินพร้อมสตรีหนึ่งนาง ใครฆ่าเจ้าคนยิงธนูได้ ตกรางวัลอีกห้าร้อยตำลึงเงิน!”
รางวัลหนักย่อมมีผู้กล้า พวกเดนตายเหล่านี้เมื่อได้ยินคำของหัวหน้าใหญ่แล้ว ไหนเลยจะยังสนใจธนูอีก สองตาแดงก่ำ ถึงขั้นใช้ดาบโค้งในมือจ้ำพายอย่างสุดชีวิต
เรือเล็กเหล่านี้แล่นเข้าหาเรือใหญ่ด้วยความเร็วปานติดปีกบิน แม้ระหว่างนี้หลี่ซิวเหยาจะยิงธนูมือเป็นระวิงจนฆ่าโจรสลัดไปได้จำนวนมาก แต่อย่างไรจำนวนคนก็มากเกินไป ยามนี้จึงมีคนปีนกระโดดขึ้นจากเรือเล็กมาแล้ว
หลี่ซิวเหยาโยนคันธนูในมือให้ฉีหมิงที่ยืนอยู่ด้านข้าง ก่อนเอื้อมมือชักกระบี่อ่อนตรงเอวตนเองออกมา ฟันใส่ลำคอของโจรสลัดคนที่กระโดดขึ้นเรือมาคนแรก
โจรสลัดผู้นั้นตายทันทีโดยไม่ทันแม้แต่จะส่งเสียงร้องโหยหวน ศพหงายหลังตกลงแม่น้ำ เกิดเสียงน้ำดังตูมใหญ่ขึ้นมา
เหตุการณ์ที่ท้ายเรือเหล่านี้ทำให้คนบนเรือตกใจนานแล้ว คนคุมเรือกับลูกเรือกลุ่มหนึ่งพรั่นพรึงจนหน้าซีดเผือด วิ่งไปรอบเรือพลางร้องตะโกนลั่นไม่หยุด “โจรสลัดมาแล้ว! โจรสลัดมาแล้ว!”
พวกที่ขลาดกลัวมากๆ ก็ตกใจจนปัสสาวะราดออกมาตรงนั้นเลย
เสิ่นหยวนกับไฉ่เวยที่อยู่ในห้องพักก็ได้ยินเสียงเหล่านี้เช่นกัน คนทั้งสองเดินไปส่องดูตรงหน้าต่าง เห็นหลี่ซิวเหยากำลังสู้กับโจรสลัดพวกนั้นอยู่ที่ท้ายเรือ
หลี่ซิวเหยากุมกระบี่ยาวเล่มหนึ่งไว้ในมือ มองเห็นเพียงประกายแสงเยียบเย็นภายใต้แสงจันทร์ แม้โจรสลัดเหล่านั้นจะมีคนมาก แต่กลับไม่มีแม้แต่คนเดียวที่จะเข้าใกล้ตัวเขาได้
บนดาดฟ้าเรือมีแต่เลือดสีแดงฉานสาดกระเซ็นอยู่ทั่ว ทั้งยังมีเสียงคนกรีดร้องดังมาเป็นระยะ หรือไม่ก็เห็นท่อนแขนท่อนขาตกลงบนดาดฟ้าเรือ ไฉ่เวยไหนเลยจะเคยพบเห็นเรื่องเช่นนี้ นางจึงตกใจจนใบหน้าเปลี่ยนสี มือเท้าอ่อนยวบในทันที แต่ถึงจะเป็นเช่นนี้ นางก็ยังพูดกับเสิ่นหยวนด้วยความเด็ดเดี่ยว “คุณหนู หากอีกประเดี๋ยวเกิดอะไรขึ้น ท่าน…ท่านก็มาหลบที่ด้านหลังบ่าว บ่าวถึงตายก็จะปกป้องท่านให้ได้!”
ในใจเสิ่นหยวนให้ซาบซึ้งยิ่งนัก
ชาติก่อนนางไม่ได้ทำดีอะไรต่อคนข้างกายตนเอง สุดท้ายจึงถูกบิดารังเกียจ น้องชายและน้องสาวต่างเห็นพี่สาวอย่างนางเป็นความอับอาย สาวใช้ข้างกายเหล่านั้นก็พากันทอดทิ้งนางไปยามที่นางตกยากหรือไม่ก็ซ้ำเติมนาง มีเพียงไฉ่เวยสาวใช้ผู้ซึ่งนางไม่เคยใส่ใจที่ยังจงรักภักดี ไม่ทอดทิ้ง และไม่เคยจากนางไปที่ใด ดังนั้นหลังจากเกิดใหม่นางจึงยกไฉ่เวยขึ้นมาเป็นหัวหน้าสาวใช้ประจำตัวนาง จากที่เดิมเป็นเพียงสาวใช้ระดับล่าง
ได้ยินไฉ่เวยพูดเช่นนี้ เสิ่นหยวนก็กุมมืออีกฝ่ายไว้พลางพูดทันที “ไม่เป็นไร วรยุทธ์ของหลี่ซิวเหยาร้ายกาจยิ่ง โจรสลัดจำนวนมากเพียงไรก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขา เจ้าไม่ต้องกลัว พวกเราไม่เป็นอะไรแน่”
อันที่จริงในใจเสิ่นหยวนก็กลัวเช่นกัน มือทั้งสองเย็นเฉียบ แต่นางรู้ว่าหลี่ซิวเหยาเป็นคนที่เก่งกาจยิ่ง
ในชาติก่อนช่วงไม่กี่ปีสุดท้ายที่ฮ่องเต้ชรายังไม่สวรรคต หากมิใช่อุทกภัยภาคใต้ก็เป็นภัยแล้งภาคเหนือ หรือไม่ก็ฝูงตั๊กแตนสร้างความเสียหาย ขุนนางกังฉินในพระราชสำนักมีมาก ค่าเสบียงอาหารที่แบ่งสันลงไปจึงถูกยักยอกไปกว่าค่อน เหลือไม่เท่าไรที่ไปถึงมือราษฎร สุดท้ายราษฎรจึงไม่มีข้าวกิน พากันลุกฮือก่อกบฏขึ้นไม่น้อย พวกหว่าล่าทางชายแดนตะวันตกเฉียงเหนือฉวยโอกาสขณะเกิดจลาจลยกทัพใหญ่รุกราน หลี่ซิวเหยาก็ได้สร้างความดีความชอบนับไม่ถ้วนในการเดินทัพขึ้นเหนือหลายครั้งนั้น จนสุดท้ายก้าวกระโดดเป็นแม่ทัพใหญ่อย่างรวดเร็ว กุมอำนาจสามกองกำลังใหญ่ จากนั้นก็สนับสนุนองค์ชายรองที่ยังเยาว์วัยสืบพระราชบัลลังก์เป็นฮ่องเต้ ทว่าอันที่จริงอำนาจใหญ่ในพระราชสำนักยังคงถูกกุมแน่นอยู่ในมือเขา
นางปลอบไฉ่เวยเช่นนี้และปลอบตนเองไปด้วย ทันใดนั้นก็ได้ยินเสียงดังปัง ประตูห้องพักถึงกับถูกกลุ่มคนกระแทกเปิดจากด้านนอก
เสิ่นหยวนกับไฉ่เวยตกใจสะดุ้งโหยง รีบมองไปก็เห็นฉางหมัวมัวกำลังปราดเข้ามา ด้านหลังนางยังตามมาด้วยชิงเหอและชิงจู๋ที่ตกใจจนใกล้จะร้องไห้รอมร่อ
พอฉางหมัวมัวเข้ามาได้ก็รีบพูดกับเสิ่นหยวนว่า “เมื่อครู่บ่าวได้ยินเสียงร้องตะโกนที่ข้างนอก ทราบว่าบนเรือมีโจรสลัดขึ้นมา ในใจให้เป็นห่วงคุณหนูยิ่งนัก จึงลุกขึ้นมาจากที่นอน คุณหนู ท่านรีบลงไปจากเรือตอนที่โจรสลัดยังมาไม่ถึงตัวท่านเถิดเจ้าค่ะ”
เรือเทียบท่าอยู่ริมฝั่ง ระหว่างที่ชุลมุนวุ่นวายนี้ คนคุมเรือกำลังสั่งการลูกเรือเสียงดังให้พาดไม้กระดาน เพื่อจะหนีขึ้นฝั่ง
หากหนีขึ้นฝั่งแล้วตรงไปในเมืองอย่างไรก็ปลอดภัย
เวลานี้ชิงเหอชิงจู๋ก็ต่างเร่งด้วยความร้อนใจเช่นกัน “คุณหนู ท่านรีบไปเถิดเจ้าค่ะ”
ประตูเพิ่งจะถูกฉางหมัวมัวกระแทกเปิดอย่างแรง ลมราตรีเย็นเฉียบกรูหอบเข้ามาในห้องทันที เทียนบนโต๊ะที่เดิมยังสว่างอยู่ถูกลมพัดดับทันควัน
ทว่ายังดีที่คืนนี้จันทร์เต็มดวง ส่องให้ทุกที่สว่างราวกับกลางวัน
เนื่องจากประตูเปิดออกกว้าง เสิ่นหยวนเงยหน้าขึ้นจึงมองเห็นหลี่ซิวเหยากำลังต่อสู้ดุเดือดอยู่กับโจรสลัดเหล่านั้น
กระบี่อ่อนในมือเขากวัดแกว่งจนเห็นเพียงเงา มีแต่ประกายแสงเย็นเยียบทั่วทุกที่ ไม่ว่าประกายกระบี่วาดผ่านไปที่ใด ก็จะมีโจรสลัดส่งเสียงร้องพลางล้มลงทันที
เสิ่นหยวนพลันส่ายหน้า พูดอย่างเด็ดเดี่ยว “ข้าไม่ไป”
โปรดติดตามตอนต่อไป