ทดลองอ่าน
ทดลองอ่าน เกิดใหม่เพื่อคืนฐานะเดิม บทที่ 1
ตอนนั้นหลางอ๋องคุมทัพตั้งมั่นอยู่ที่แดนเจียงตงเป็นไปได้มากที่จะก่อกบฏ เหล่าขุนนางในราชสำนักล้วนหลีกเลี่ยงเขากันแทบไม่ทันเสียด้วยซ้ำ ในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อที่สำคัญนี้หากสลับตัวบุตรสาวคืนมา หลิ่วเมิ่งถังก็ต้องกลายเป็นพ่อตาของหลางอ๋องไปกระมัง
ญาติดวงตกที่จะชักนำภัยมาถึงเก้าชั่วโคตรเยี่ยงนี้มิอาจรับส่งเดชเด็ดขาด!
ตอนนั้นสกุลหลิ่วจึงได้แต่ปล่อยให้ผิดแล้วผิดเลย ยังคงให้ฉยงเหนียงเป็นคุณหนูสกุลหลิ่วตัวจริงต่อไป มิได้รับบุตรสาวแท้ๆ กลับมา
เพียงแต่เมื่อสืบได้ข่าวว่าหลางอ๋องฉู่เสียผู้นั้นเป็นคนโหดร้ายทารุณ ดูแคลนสตรีเป็นที่สุด ทั้งมักกำนัลนางบำเรอโฉมงามให้ผู้อื่น เหยาซื่อที่รักลูกจนร้อนใจจึงแอบฝากคนนำเงินก้อนโตไปขอให้ที่ปรึกษาคนสำคัญของหลางอ๋องช่วยออกหน้ากล่าวขอชุยผิงเอ๋อร์มา หลังจากชุยผิงเอ๋อร์รอนแรมหลายทอดจนกลับถึงเมืองหลวง ค่อยอ้างว่านางเป็นญาติห่างๆ ที่เดินทางมาขอพึ่งพิง เช่นนี้ถึงรับตัวนางกลับเข้าสกุลหลิ่วได้
เมื่อชุยผิงเอ๋อร์รู้ชาติกำเนิดของตน ก็เคียดแค้นฉยงเหนียงที่ยึดตำแหน่งบุตรีภรรยาเอกไปชนิดเข้ากระดูกดำ รวมทั้งต้นเหตุที่ก่อนนี้ตนต้องตกอับเป็นของเล่นบุรุษก็ถูกเหมารวมไปที่ตัวฉยงเหนียงด้วย ภายหลังได้กลับมาใช้ชีวิตอย่างสุขสบายที่สกุลหลิ่ว และคิดว่าทั้งหมดนี้เดิมทีควรจะเป็นของตน หัวใจของชุยผิงเอ๋อร์ที่สุมด้วยความโกรธแค้นก็ยิ่งบิดเบี้ยว
จนกระทั่งตอนท้ายชุยผิงเอ๋อร์ถึงขั้นรู้สึกว่าสามีของฉยงเหนียง…ซั่งอวิ๋นเทียนเสาหลักของบ้านเมืองผู้มีอนาคตไกลผู้นี้เดิมทีก็สมควรเป็นสามีของตนถึงจะถูก!
เนื่องจากหลายปีก่อนตอนอยู่ในจวนหลางอ๋อง ชุยผิงเอ๋อร์ถูกจับกรอกยาป้องกันการตั้งครรภ์ที่มีฤทธิ์รุนแรง นางรู้ตัวว่าชาตินี้ไม่อาจจะให้กำเนิดบุตรได้แล้ว จึงปฏิบัติต่อบุตรชายหญิงของฉยงเหนียงอย่างอ่อนโยนน่าเข้าใกล้ คอยนำผลไม้สดตามฤดูกาลกับของเล่นที่แปลกใหม่มาให้เป็นประจำ
ผิดกับฉยงเหนียงที่มักวุ่นอยู่กับการคบค้าระหว่างสตรีชั้นสูงตามงานจิบน้ำชาของผู้รักบทกวี ทั้งเกรงว่ามารดาใจดีจะทำให้บุตรเสียคน ดังนั้นนางจึงให้ความสำคัญกับการเรียนของบุตรเพียงอย่างเดียว ตั้งข้อเรียกร้องต่อบุตรทั้งสองอย่างเข้มงวด และตีพวกเขาอยู่บ่อยครั้งจนทำให้ลูกๆ ห่างเหินกับนาง
สองฝ่ายเปรียบกันแล้ว น้าชุยในใจของเด็กๆ ถึงกับมีความผูกพันใกล้ชิดยิ่งกว่ามารดาเสียอีก พวกเด็กๆ จึงมักเฝ้ารอให้น้าชุยมาเยือนที่จวนสกุลซั่ง และมาเล่นสนุกด้วยกันกับพวกเขา
ภาพความปรองดองอันจอมปลอมนี้ถึงกับปิดหูปิดตาฉยงเหนียง จนกระทั่งช่วงหนึ่งนางหลงนึกว่าชุยผิงเอ๋อร์ละวางความโกรธแค้นในใจลงแล้ว ยินยอมที่จะอยู่ร่วมกันฉันพี่น้อง ถึงได้ปฏิบัติกับสามีและลูกๆ ของนางอย่างกลมเกลียวเช่นนี้ อีกอย่างเพราะนางมิใช่บุตรสาวแท้ๆ ของสกุลหลิ่วแต่กลับยังสวมฐานะนี้ไว้ ในใจรู้สึกละอายจึงพยายามเอาใจชุยผิงเอ๋อร์ในทุกเรื่อง
จวบจนชั่วขณะนี้ฉยงเหนียงถึงค่อยเข้าใจกระจ่างเสียที ชุยผิงเอ๋อร์กำลังแสดงไมตรีที่ใดกันเล่า! อีกฝ่ายเจตนาจะมาแทนที่นาง ตั้งใจจะยึดสามีกับบุตรชายหญิงของนางไปเป็นของตนเองทั้งหมดต่างหาก!
อาการแสบร้อนบนแก้มกำลังย้ำเตือนฉยงเหนียงว่าเมื่อก่อนที่ตนพยายามทำดีกับชุยผิงเอ๋อร์นั้นโง่เขลาเพียงใด ถึงขั้นชักนำชุยผิงเอ๋อร์งูพิษตัวนี้เข้ามาในเรือนของตนเสียได้
หากเป็นฉยงเหนียงในอดีตถูกชุยผิงเอ๋อร์ตบหน้าฉาดนี้เกรงว่าคงจะกลั้นใจอดทนไว้ ทว่านางในตอนนี้ตัดสินใจจะไม่ทนอีกต่อไปแล้ว นางเพียงใช้สายตาอันเยียบเย็นจับจ้องใบหน้าที่ยิ่งแสดงความเหิมเกริมของชุยผิงเอ๋อร์ ก่อนจะพลันตวัดยกหนึ่งเท้าเตะใส่ท้องของอีกฝ่ายอย่างหนักหน่วง!
หลิ่วเจียงจวีคุณชายใหญ่สกุลหลิ่วชื่นชอบการต่อสู้ ฉยงเหนียงในวัยเด็กขี้โรคจึงฝึกการต่อสู้กับอาจารย์สอนยุทธ์ของพี่ชายอยู่หลายปี แรงของหนึ่งเท้าที่ตวัดเตะออกไปนี้จึงมิใช่ดีแต่อวดลีลา
ชุยผิงเอ๋อร์ร้องโหยหวนหนึ่งหนก่อนจะทรุดกองกับพื้นดุจถุงผ้าใบหนึ่ง
เมื่อหนึ่งเท้านี้เตะออกไป ซั่งอวิ๋นเทียนที่อยู่ในห้องชั้นในไม่โผล่หน้าก็ออกมาจนได้
เห็นชัดว่าเสาหลักแห่งราชวงศ์ต้าหยวนผู้นี้ไม่ค่อยสันทัดเรื่องไกล่เกลี่ยความขัดแย้งอันยุ่งเหยิงระหว่างคนรักเดิมกับคนโปรดใหม่ ขณะที่เขาฟังเสียงความเคลื่อนไหวอยู่ในห้อง ในสมองก็คิดว่าจะยอมรับผิดกับฉยงเหนียงเช่นไรดี นางอ่อนหวานเสมอมา ทั้งดีกับชุยผิงเอ๋อร์อย่างยิ่ง นางคงจะไม่สร้างความลำบากแก่ชุยผิงเอ๋อร์นักหรอก ทว่าครั้งนี้นางโกรธจนขาดสติอย่างเห็นได้ชัด เสียงด่าทอด้วยโทสะที่ดังลั่นนั้นทำให้เสียงที่นุ่มเบาของชุยผิงเอ๋อร์ยิ่งฟังดูน่าสงสารชวนถนอม รอจนได้ยินเสียงร้องโหยหวนของชุยผิงเอ๋อร์ที่ถูกเตะทรุดลงกับพื้นอย่างอเนจอนาถ ก็ยิ่งกระตุ้นสัญชาตญาณบุรุษที่มักเห็นใจผู้อ่อนแอ เขาจึงรีบวิ่งออกมาทันใด
คิ้วเข้มของเขาขมวดมุ่นขณะพยุงชุยผิงเอ๋อร์ที่พริบตาพลันอ่อนปวกเปียกยิ่งกว่าเดิม เขารู้สึกว่าตนคล้ายมีความมั่นใจแล้ว จึงเอ่ยกับฉยงเหนียงว่า “ฉยงเหนียง เจ้าทำเกินไปแล้ว เดิมทีความผิดอยู่ที่ข้า เจ้าจะตบตีจะด่าว่าล้วนเป็นสิ่งที่ข้าพึงรับไว้ แต่เจ้า…เจ้าทำเช่นนี้กับน้องสาวของเจ้าได้อย่างไรกัน! ความทุกข์ยากที่นางเคยได้รับมีมากเหลือเกิน ท่านพ่อตากับท่านแม่ยายรักถนอมนางแทบไม่ทันด้วยซ้ำ หากพวกท่านรู้ว่าเจ้าก่อเรื่องเช่นนี้มีหรือจะไม่ถือโทษเจ้า! เจ้าทำเยี่ยงนี้ออกจะ…ออกจะป่าเถื่อนเกินไปแล้ว!”
ในใจฉยงเหนียงคล้ายมีบางสิ่งถูกค้อนทุบอย่างรุนแรงจนแหลกละเอียด ร่างที่ยืดตรงของนางพลันส่ายโคลงเล็กน้อย เนื่องเพราะรู้ชาติกำเนิดว่าสายเลือดที่ไหลเวียนอยู่ในร่างตนเป็นของครอบครัวพ่อค้าอันต่ำต้อย นับแต่ปีที่นางอายุสิบหกจึงยิ่งมีอุปนิสัยที่คร่ำครึเงียบขรึม เคร่งครัดในจรรยาของคุณหนูตระกูลลือนาม กลัวแต่ว่าหากคำพูดและการกระทำของตนไม่เหมาะสม จะถูกเครือญาติสกุลหลิ่วที่รู้ตื้นลึกหนาบางนำมาพูดสนุกปาก
ทว่าตอนนี้สามีที่ฉยงเหนียงมิได้ระวังป้องกันเลยกลับเป็นผู้ขยี้แผลที่ซ่อนอยู่ในใจนาง ซ้ำยังโอบชู้รักไว้แนบอกพลางประณามว่านางป่าเถื่อนเกินไป…
ฟ้าเท่านั้นที่รู้ หากชั่วขณะนี้ในมือนางถือกระบี่อยู่ก็คงจะไม่กระทำเรื่องป่าเถื่อนเช่นนี้แน่ เพียงเงื้อมือตวัดกระบี่ด้วยท่วงท่าอันสง่างาม แทงอีกฝ่ายสองรูให้เลือดอุ่นระอุไหลทะลักออกมาก็สิ้นเรื่องแล้ว!