อีกอย่าง สุดท้ายหลางอ๋องต้องถูกกักบริเวณที่วัดเนี่ยนฝ่า หากเขากินขนมจนคุ้นชิน นางไม่ใช่ต้องติดตามไปถูกกักบริเวณด้วยกันหรือไร
จวนหลางอ๋องคือบ่อเพลิง ฉยงเหนียงไม่อยากจะกระโดดลงไปสักนิด ทว่าจนใจที่ตอนนี้มีคนขุดหลุมพรางเอาไว้ ซ้ำท่าทีที่แสดงออกก็มิใช่จะเจรจาด้วยเหตุผลได้ ขืนนางไม่ไป ดูจากสถานการณ์วันนี้แล้วจะต้องมัดตัวพี่ชายหรือไม่ก็บิดานางไปแน่ เช่นนั้นครอบครัวนี้ก็บ้านแตกสาแหรกขาดแล้ว
ยามนี้แม้แต่รัชทายาทองค์ปัจจุบันก็ยังไม่อาจทำอย่างไรกับหลางอ๋องผู้กำลังเรืองอำนาจ นับประสาอะไรกับหญิงชาวบ้านตัวเล็กๆ เช่นนางเล่า…
ชุยจงที่ฟังอยู่ด้านข้างเอ่ยอย่างเร่งร้อน “เช่นนั้นไม่ได้หรอก บุตรสาวของข้าผู้นี้อ่อนแอนัก ไม่สามารถรับใช้ผู้สูงศักดิ์ได้ ยิ่งไปกว่านั้นฝีมือทำขนมของนางก็เรียนรู้มาจากข้า ยังคงให้ข้าเข้าจวนไปรับใช้ผู้สูงศักดิ์เถิด”
ฉู่เซิ่งคร้านจะเปลืองน้ำลายแล้ว เขาเปลี่ยนสีหน้าพลางเอ่ยเพียงว่า “ในเมื่อชี้ทางสว่างให้แล้วพวกเจ้าไม่ยอมรับ เช่นนั้นก็อย่ามาโทษว่าข้าไม่เกรงใจ!” จบคำเขาก็สั่งให้บ่าวร่างใหญ่มัดตัวชุยฉวนเป่าออกไป
ชุยฉวนเป่าแม้กำยำล่ำสัน ทว่าสำหรับชายฉกรรจ์หลายคนนั้นกลับไม่ต่างจากลูกไก่ในกำมือ ครู่เดียวเขาก็ถูกหิ้วตัวออกไป ไม่เพียงถูกมัดด้วยเชือก ยังล่ามโซ่เหล็กอีกด้วย
ชั่วขณะนั้นทั่วลานเรือนสกุลชุยพลันอื้ออึงไปด้วยเสียงของหลิวซื่อที่ร่ำไห้ร้องตะโกนจะขอแลกชีวิต
ฉยงเหนียงรีบเอ่ยทันที “ช้าก่อน! ข้าขอถามอีกเพียงประโยคเดียว หากรวบรวมเงินครบห้าพันตำลึงเมื่อไร เรื่องนี้ก็จะถือเป็นอันยุติ และข้าก็จะสามารถกลับบ้านได้แล้วใช่หรือไม่”
ฉู่เซิ่งรู้สึกว่าสิ่งที่แม่นางผู้นี้กล่าวคือวาจาละเมอเพ้อพก ดูจากทรัพย์สินของสกุลชุย ต่อให้จำนำจำนองจนหมดสิ้นก็ไม่พอจะชดใช้ ดังนั้นเขาจึงผงกศีรษะอย่างรวดเร็ว “หากใช้คืนหมดแล้ว แม่นางย่อมออกจากจวนได้”
“ในเมื่อเป็นเช่นนี้ ข้าก็จะติดตามพ่อบ้านฉู่เข้าจวน เพียงแต่ข้าไปเป็นแม่ครัว มิใช่ขายตัวให้จวนอ๋อง บิดามารดาทางบ้านสุขภาพมิสู้ดี ต้องการผู้ดูแล ไม่รู้ในแต่ละเดือนข้าจะลาหยุดได้สักกี่วัน”
ฉู่เซิ่งตอบ “ตามปกติข้ารับใช้จะกลับบ้านได้เดือนละหนึ่งวัน เพียงแต่ท่านอ๋องจะไม่อยู่ที่เมืองหลวงนานนัก อีกราวเดือนเศษก็จะกลับจวนอ๋องที่เจียงตงแล้ว”
คิ้วเรียวของฉยงเหนียงยิ่งขมวดมุ่น บัดนี้ไม่ว่าเลือกทางใดล้วนหนีไม่พ้นคนไร้ยางอาย ในเมื่อไม่อาจพูดคุยด้วยเหตุผล นางก็ได้แต่คิดเสียว่าก้มหน้ารับเคราะห์กรรมจากสวรรค์แทน
เงินเพียงห้าพันตำลึงอาจขู่ขวัญผู้อื่นได้ ทว่าฉยงเหนียงมิได้เก็บมาใส่ใจ แผนรับมือในตอนนี้ก็คือต้องเปิดร้านที่เชิงเขาหวงซานให้ลุล่วง วิธีปรุงอาหารเจนางจะสอนให้บิดามารดาทั้งหมด ขอเพียงร้านมีรายได้ ไม่กี่ปีก็ชดใช้เงินห้าพันตำลึงนั้นได้ครบจำนวนแล้ว
สามีภรรยาสกุลชุยไหนเลยจะหักใจลง ทว่าพวกเขาสองคนก็ไร้ซึ่งหนทางอื่น หากมิใช่บุตรชายที่ถูกจับไปต้องโทษบั่นศีรษะ ก็ต้องเป็นบุตรสาวที่เข้าจวนไปเป็นแม่ครัว รอจนฉู่เซิ่งปล่อยตัวชุยฉวนเป่าและพาบ่าวคนอื่นๆ จากไปแล้ว หลิวซื่อก็ได้แต่กอดฉยงเหนียงพลางเปล่งเสียงร้องไห้อย่างหนัก