ทดลองอ่าน เจรจาต่อ-ตาย ตอน ราคะ บทที่ 1-บทที่ 3 – หน้า 5 – Jamsai
Connect with us

Jamsai

LOVE

ทดลองอ่าน เจรจาต่อ-ตาย ตอน ราคะ บทที่ 1-บทที่ 3

คนร้ายสองคนทิ้งตัวประกันคนอื่นไว้ในห้องโถง ส่วนตัวเองกลับมาหลบอยู่อีกฟากของผนังซึ่งเป็นทางออกไปยังด้านหลังของอาคาร โดยมีสุภาพสตรีคนเดิมอยู่ในอ้อมแขนของมันด้วย ชายสวมเสื้อสก็อตโผล่หน้าออกไปดูสถานการณ์ด้านหน้าธนาคารผ่านกระจก

“ซวยแล้ว ตำรวจมากันเต็มเลย”

เขารู้ดีว่าตัวเองไม่สามารถออกไปจากที่นี่โดยอาศัยเส้นทางหน้าธนาคารได้อย่างแน่นอน แต่สิ่งที่น่าเป็นห่วงคือทางหนีทีไล่ที่เขาคิดไว้ตั้งแต่ต้นนั้น มันปลอดภัยดีหรือเปล่า

“ทำไงดีพี่”

เขาถอนใจหนัก “มาก็มาสิวะ มันไม่กล้ายิงเข้ามาหรอก ตัวประกันอยู่ในนี้ตั้งหลายคน”

“ฉัน…ฉันกลัว…”

“มากลัวอะไรตอนนี้ มึงตามกูออกมา แล้วอย่ายิงมั่วซั่วอีก ไม่อย่างนั้นตำรวจจะตามเก็บมึง เข้าใจไหม!”

“จ้ะ” ลูกน้องพยักหน้าหงึกหงัก

พวกมันยังคงทำตามแผนเดิม นั่นคือพาตัวประกันไปด้วยหนึ่งคน ส่วนผู้จัดการสาขาถูกคล้องกุญแจมือติดไว้กับเก้าอี้ ตอนนี้เขามีเลือดไหลออกจากหูด้วย ซึ่งทำให้บรรยากาศโดยรวมน่ากลัวเข้าไปอีก มีคนบาดเจ็บถึงขั้นเสียเลือดถึงสองคน และทุกคนล้วนถูกจับคล้องกุญแจมือ

ตัวประกันรับรู้ว่าพวกคนร้ายยังไม่ได้ออกไปจากธนาคาร แต่พวกเขาก็ยังมีความหวังว่าตัวเองจะรอด เพราะหลายคนมองออกไปเห็นรถตำรวจ แล้วด้านหน้าธนาคารนั้นก็ร้างผู้คนกับรถราจนผิดสังเกต แสดงว่าคนภายนอกรับรู้ถึงความผิดปกติที่เกิดขึ้นในนี้แล้ว แม่บ้านเริ่มสวดมนต์เบาๆ เพื่อหวังให้สถานการณ์นี้สิ้นสุดลงเสียที

 

คนที่ลากตัวประกันหญิงไว้ในอ้อมแขนนั้นออกเดินนำหน้า ผ่านห้องครัวขนาดเล็กของธนาคารที่มีเพียงโต๊ะรับประทานอาหาร ตู้เย็น เคาน์เตอร์วางไมโครเวฟกับอุปกรณ์ชงชาและกาแฟเท่านั้น ด้านข้างตรงที่วางตู้เย็นได้ถูกกั้นไว้เป็นส่วนของห้องน้ำสำหรับพนักงาน ซึ่งพื้นที่ด้านหลังสำหรับใช้งานทั่วไปนั้นแคบกว่าพื้นที่ด้านหน้าส่วนของธนาคารเสียอีก ความจริงสถานที่นี้ถูกออกแบบมาให้เป็นอาคารพาณิชย์สองชั้นสำหรับอยู่อาศัยชั้นบนและทำธุรกิจชั้นล่าง แต่ธนาคารทวีสินทรัพย์ได้เช่าพื้นที่เพื่อเปิดเป็นสาขาย่อย เพราะเห็นว่าทำเลเหมาะ เนื่องจากเป็นย่านตลาด โรงเรียน และร้านค้าจึงทำให้ธนาคารสามารถหาลูกค้าได้จำนวนมาก ปัจจุบันสาขาหน้าโรงเรียนอนุบาลลูกขวัญสามารถดำเนินธุรกิจและทำกำไรให้แก่ธนาคารจนติดอันดับต้นๆ ของสาขาทั้งหมดในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล

ชายคนแรกเปิดประตูด้านหลังธนาคาร อีกคนเดินตามพร้อมระวังหลังให้ ตอนนี้คนในโถงธนาคารคงไม่สามารถตามมาได้ แต่ไม่รู้ว่าอีกนานเท่าไรเจ้าหน้าที่จะบุกเข้ามาช่วยตัวประกัน และเมื่อถึงเวลานั้นการหนีของพวกเขาก็จะลำบากขึ้น

“เดินไปข้างหลังตึก ใกล้สุดทางเดินจะมีบันไดปีนข้ามกำแพงไปทางหลังตลาด รถกระบะที่จะใช้หนีจอดอยู่ไม่ไกล”

คนเดินนำหน้าสั่งขึ้นลอยๆ แต่เขาก็ยังเป็นคนนำทาง สุภาพสตรีที่ถูกลากออกมานั้นไม่มีปากมีเสียง เธอยังคงเดินตามแรงจูงนั้นไป ทางเดินด้านหลังอาคารเป็นทางเดินแคบๆ ซึ่งอาคารพาณิชย์แต่ละหลังต่างก็ปิดตายส่วนนี้ไว้เนื่องจากกลัวโจรขโมยจากตลาดจะปีนรั้วเข้ามาขโมยข้าวของ แต่ตัวอาคารเองจำเป็นต้องกันพื้นที่ส่วนนี้ไว้เพราะมันสามารถเชื่อมกับบันไดหนีไฟของอาคาร ซึ่งเป็นกฎข้อบังคับที่อาคารทุกแห่งต้องมี เส้นทางนี้เรียกว่า ‘ทางปล่อยออก’ เมื่อเกิดเหตุเพลิงไหม้ผู้คนจะสามารถหนีออกตรงเส้นทางนี้เพื่อให้สามารถออกห่างจากตัวอาคารได้มากที่สุด แต่ในยามปกติผู้อาศัยมักจะไม่ได้ใส่ใจกับมัน ส่วนธนาคารเองก็ไม่ได้ใช้ทางออกนี้เช่นกัน มีเพียงแม่บ้านเท่านั้นที่มักจะเอาผ้าขี้ริ้วสำหรับทำความสะอาดมาตากผึ่งแดดไว้

และเมื่อชายสวมเสื้อลายสก็อตไปถึงบันไดที่พาดไว้ริมรั้วก็ปล่อยตัวประกันให้อยู่กับลูกน้อง ส่วนตัวเขาเองพยายามเหนี่ยวตัวเพื่อขึ้นไปบนกำแพง แต่ทันทีที่ศีรษะโผล่พ้นกำแพง เขาก็ได้เห็นในสิ่งที่ไม่อยากเห็น จึงต้องรีบผลุบศีรษะลงอย่างรวดเร็ว

“มีอะไรพี่”

“ตำรวจ!”

“หา! ตำรวจอยู่ด้านหลังนี่เหรอ”

“ใช่ พวกมันทำงานเร็วกว่าที่เราคิด”

“ทำไงดีพี่”

“กลับเข้าไปในธนาคารก่อนเร็ว!”

ตัวประกันถูกลากกลับไปที่เดิมอีกครั้ง พวกมันไม่มีทางเลือก เพราะทางหนีทีไล่ที่ตระเตรียมไว้ได้ถูกขัดขวางแล้ว ดังนั้นการกลับไปในตัวธนาคารจึงเป็นทางเลือกเดียวที่เหลืออยู่ในขณะนี้

“ช่วยด้วยๆๆๆ”

“ช่วยด้วย พวกเราอยู่ในนี้!”

“มีคนอยู่ในนี้ คุณตำรวจช่วยพวกเราด้วย”

เสียงตะโกนจากตัวประกันในห้องโถงของธนาคารดังสะท้อนไปทั่วตอนที่คนทั้งสามกลับเข้ามาในธนาคาร คนเป็นลูกน้องถูกสั่งให้ปิดประตูหลังให้แน่นหนา ส่วนหัวหน้าก็พาสุภาพสตรีคนนั้นกลับเข้ามาในโถงอีกครั้ง

“เงียบ!!!”

“หา!”

“กรี๊ดดดดด…”

ด้วยความที่ไม่คิดว่าคนร้ายจะกลับเข้ามาอีกครั้ง ตัวประกันทุกคนจึงส่งเสียงร้องด้วยความตกใจกลัวเมื่อได้ยินเสียงของมัน ชายสวมเสื้อสก็อตชูปืนในมือให้ทุกคนเห็นอีกครั้ง และมันก็ได้ผล เพราะตัวประกันทุกคนพร้อมใจกันเงียบ

“ทำไมแกไม่หนีไป” ผู้จัดการสาขาร้องถาม

“กูไม่หนี กูจะอยู่กับพวกมึงนี่แหละ”

แววตาของตัวประกันทุกคนตื่นตระหนก สถานการณ์ที่คิดว่าจะคลี่คลายกลับมาตึงเครียดอีกครั้ง หัวหน้าคนร้ายเงยหน้าขึ้นมองเหตุการณ์ด้านหน้าธนาคาร เขาเห็นผู้ชายสามคนกำลังเคลื่อนไหวอย่างช้าๆ เพื่อตรงมายังประตูกระจก อีกไม่ถึงสามเมตรคนพวกนั้นก็จะมาถึง…

เขาตัดสินใจในวินาทีต่อมา

…ปัง!…

กระสุนปืนที่ยิงผ่านกระจกออกมาทำให้เกิดรูขนาดไม่ใหญ่นักและไม่ได้ทำให้กระจกทั้งบานแตก แต่กลับส่งผลให้ตัวประกันยิ่งตื่นกลัว โดยเฉพาะนายตำรวจด้านหน้าธนาคาร พวกเขาต้องหมอบลงที่พื้นก่อนจะกลิ้งตัวหลบไปทางด้านข้างของอาคารพาณิชย์ เพื่อไม่ให้เป็นเป้าสายตาของคนในธนาคาร

 

“เรียก NIC ด่วน!”

“มันสู้ มันยิงสวน ตาม NIC เร็วเข้า!”

นั่นคือคำสั่งสุดท้ายก่อนที่หน่วยเจรจาต่อรองในกรณีเกิดเหตุอาชญากรรม (Negotiation in Crime Unit) จะถูกตามตัวมายังสถานที่เกิดเหตุ

Comments

comments

Continue Reading

More in LOVE

บทความยอดนิยม

everY

ทดลองอ่าน เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 Chapter 2.1-2.2 #นิยายวาย

ทดลองอ่าน เรื่อง เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 ผู้เขียน : MINTRAN แปลโดย : ทันบี ผลงานเรื่อง : 배타적 연애 금지구역 ถือเป็นลิขสิทธิ์...

จุติรัก พลิกชะตาร้าย

ทดลองอ่าน จุติรัก พลิกชะตาร้าย บทที่ 1-2

บทที่ 1 ฮ่องเต้หญิง   “ท่านพี่นำร้อง น้องหญิงคลอรับ ท่านพี่เสียงเพิ่งลับ น้องหญิงสลับขึ้นเวที เป็นมารดาอารี มีบุตรีกตัญญ...

ทดลองอ่าน

ทดลองอ่าน ร้อยเรียงรักเคียงฤทัย บทนำ – 1.2

บทนำ ความหลังของต้าลี่ 1   ฤดูหนาวในรัชศกต้าลี่ปีที่สิบเอ็ด โม่เป่ย ตำบลค่งหม่า สถานที่แห่งนี้คือประตูด่านสำคัญสุดท้ายทา...

จุติรัก พลิกชะตาร้าย

ทดลองอ่าน จุติรัก พลิกชะตาร้าย บทที่ 7-8

บทที่ 7 ค่าเดินทาง เมื่อภูตสุนัขดำคืนร่างเป็นสุนัขธรรมดาตัวหนึ่ง ภูตบุปผาสองตนนั้นก็ไม่อาจทำการใหญ่ ต่อให้ชาวหมู่บ้านป่า...

จุติรัก พลิกชะตาร้าย

ทดลองอ่าน จุติรัก พลิกชะตาร้าย บทที่ 3-4

บทที่ 3 เกิดใหม่   เวิ้งฟ้าดำสนิทปานน้ำหมึก เพียงมีดวงดาวบางตากระจัดกระจายบนม่านฟ้า ทอรัศมีอ่อนจางประเดี๋ยวเผยประเดี๋ยวเ...

community.jamsai.com