รถเก๋งของหน่วยเจรจาต่อรองมาจอดตรงท้ายรถตู้ซึ่งปารุสก์นั่งทำงานอยู่ด้านใน หัสยุทธเปิดประตูเข้าไปทักทายลูกน้องคนสุดท้องของเขาก่อน จากนั้นก็หยิบเสื้อกันกระสุนขึ้นมาสวม ปารุสก์ยื่นหูฟังประจำตัวให้เจ้านายพร้อมกับรายงานสั้นๆ เท่าที่เขาพอจะรู้
“มีปืนครับ”
“อืม…รอฟังคำสั่งนะ”
“ครับผม”
หัสยุทธปิดประตูรถตู้แล้วเดินไปสมทบกับโอบเกียรติและวุฒิภาศ โดยอาสดาได้เดินตามเขามาอีกทอดหนึ่ง หัสยุทธเห็นสายตาขวางๆ ของโอบเกียรติที่ส่งมาให้ แต่ก็ไม่ได้ใส่ใจอะไรนัก
“ไปไหนมา คิดว่าตัวเองเป็นพระเอกรึไงถึงโผล่มาซะคนสุดท้าย”
หัสยุทธยิ้มมุมปาก “หน้าตาแบบนี้ถ้าเป็นแค่พระรองคงเสียของแย่”
โอบเกียรติเกือบจะเผลอถุยออกมาแล้ว ดีที่ยังยั้งไว้ทัน ส่วนวุฒิภาศหลุดฮึออกมาคำเดียวแล้วก็รีบหุบยิ้มทันทีก่อนจะยื่นสมุดบันทึกให้หัวหน้าตัวเองแล้วรอตอบคำถาม หัสยุทธไม่ได้สนใจโอบเกียรติอีก เขายืนอยู่หลังรถกระบะพร้อมกับอ่านสิ่งที่วุฒิภาศบันทึกไว้
“ยังไม่เรียกร้องอะไรเลยใช่ไหม”
“ครับ”
“สัญญาณเตือนของธนาคารไม่ดังรึไง ทำไมมีโทรศัพท์แจ้งเข้าไปในสายด่วนก่อนที่สำนักงานใหญ่ของธนาคารจะรู้”
“ครับ ไม่มีรายงานว่าสัญญาณเตือนภายในธนาคารดังจนกระทั่งถึงตอนนี้”
“ควบคุมแบบเบ็ดเสร็จ” หัสยุทธสบตากับวุฒิภาศแวบหนึ่งแล้วยกนาฬิกาข้อมือของตัวเองขึ้นมาดู “ชั่วโมงหนึ่งแล้วแต่ไม่พูด ไม่คุย ไม่แสดงตัว แสดงว่าไม่ได้ตั้งใจจะเผชิญหน้าตั้งแต่แรก คิดว่าในนั้นมีกี่คน”
ประโยคสุดท้ายหัสยุทธตั้งใจถามโอบเกียรติ ซึ่งคนถูกถามได้ประเมินคร่าวๆ ไว้แล้ว
“พนักงานธนาคารห้าคน แม่บ้านหนึ่ง รปภ. อีกหนึ่ง คอนเฟิร์มกับต้นสังกัดแล้ว ตอนนี้ผู้จัดการเขตกำลังจะมาที่นี่ ส่วนลูกค้ายังไม่รู้จำนวน”
หัสยุทธกวาดสายตามองอาคารพาณิชย์ขนาดสองชั้นจำนวนเจ็ดห้องซึ่งวางตัวเป็นแนวระนาบตรงหน้า ห้องริมสุดซ้ายมือเป็นห้องสไตล์โฮมออฟฟิศ ถัดมาเป็นร้านอาหาร ตรงกลางเป็นธนาคารต้นเรื่องจำนวนสองห้อง ห้องถัดไปเป็นร้านเครื่องเขียน ส่วนห้องสุดขวามือเป็นร้านสะดวกซื้อจำนวนสองห้อง มันดูเหมือนเป็นชุมชนธรรมดาๆ แต่ถ้าหากเกิดเรื่องวุ่นวายขึ้นก็ยากที่จะควบคุมความเสียหายไว้ได้ จากนั้นเขาก็เงยหน้าขึ้นมองจุดสูงสุดของอาคาร ซึ่งนั่นทำให้ทั้งวุฒิภาศ อาสดา โอบเกียรติ การุณ และพิบูลย์ต่างก็ทำตามเขาไปด้วย
“มีดาดฟ้าไหม”
“ไม่มีทางขึ้นโดยตรงจากแต่ละห้องครับ แต่มีบันไดหนีไฟริมอาคารสามารถไต่ขึ้นไปถึงดาดฟ้าได้ แล้วมีทางออกด้านหลังของอาคาร ตอนนี้วิญญูดักไว้แล้ว” อาสดาตอบ
หัสยุทธมองตรงไปยังกระจกของธนาคาร “ปิดไฟด้านใน…ถ้ามืดกว่านี้เราจะยิ่งแย่ ต้องจบเรื่องให้เร็วก่อนที่ท้องฟ้าจะมืด วุฒิ!”
“ครับ” วุฒิภาศรับสมุดบันทึกคืนจากหัสยุทธแล้วตั้งใจรอฟังคำสั่ง
“ผมจะใช้โทรศัพท์โทรเข้าไปข้างในธนาคาร ให้รุสก์อัดเทปการเจรจาไว้ด้วย หากผู้จัดการเขตมาถึงให้ดำเนินการเรื่องกล้องวงจรปิด ดึงภาพในธนาคารเมื่อชั่วโมงก่อนมาดู”
“ครับผม”
“ส่วนอาส นายไปติดต่อกับเจ้าของอาคารห้องอื่น ผมคิดว่าทุกห้องน่าจะมีกล้องวงจรปิดหน้าร้านของตัวเอง เราน่าจะได้ภาพคนร้ายก่อนที่มันจะเข้าไปในธนาคารเมื่อชั่วโมงก่อน”
“ได้ครับ”
หัสยุทธพยักหน้าแล้วปล่อยให้วุฒิภาศกลับไปหาปารุสก์ ส่วนอาสดาก็ต้องไปพบกลุ่มคนที่วิญญูกักตัวไว้ให้ เมื่อทุกคนแยกย้ายออกไปแล้วหัสยุทธจึงหันมาสนใจโอบเกียรติอีกครั้ง
“ไม่มีจุดซุ่ม?”
“อืม ด้านหน้าเป็นถนน ห้องอยู่กึ่งกลางอาคาร ด้านหลังติดตลาด”
“แล้วถ้าจำเป็นต้องบุก นายจะเข้าทางไหน”
“พังประตูด้านหลัง”
“นายคิดว่าคนร้ายจะมีระเบิดไหม”
“ไม่รู้ ก็รอนายมาคุยกับมันก่อนนี่ไง”
“ถ้ามี ไอ้เจ็ดห้องนี่อาจจะไม่เหลือนะ ไปหาทางเข้าใหม่เผื่อไว้ก็ดี”
“เออ” โอบเกียรติรับคำสั้นๆ แล้วหันไปพูดคุยกับการุณและพิบูลย์