บทที่ 4
วุฒิภาศลงจากรถตู้มาตามลำพัง เขาปล่อยให้ปารุสก์ทำงานต่อด้านใน ทันทีที่เหยียบถึงพื้น ชายคนหนึ่งก็ปรี่เข้ามาทักเขา
“ว่าไง มันยอมปล่อยตัวประกันรึยัง”
คนถูกถามชะงักเพราะไม่รู้ว่าชายคนนี้คือใคร วุฒิภาศยังไม่ตอบ อีกฝ่ายคงจะรู้ตัวว่าตนเองผลีผลามเกินไปจึงรีบแนะนำตัวก่อน
“ผมเป็นผู้จัดการเขตของธนาคาร”
“อ้อ ครับ”
วุฒิภาศรับทราบแล้วทำท่าจะผละออกไปทันที แต่กลับถูกขัดขวางโดยการดึงข้อศอกไว้
“ผมถาม คุณยังไม่ตอบ”
“เรากำลังดำเนินการอยู่ครับ ถ้าคุณจะช่วย…กรุณาปล่อยผมให้ทำหน้าที่ แล้วผมขอประวัติพนักงานทุกคนในธนาคารอย่างละเอียดด้วยครับ พวกเขาทำงานมาแล้วกี่ปี แต่งงานรึยัง มีลูกกี่คน ผลการปฏิบัติงานที่ผ่านมาเป็นยังไงบ้าง มีใครที่มีปัญหาเรื่องการเงินรึเปล่า ความขัดแย้งภายในสาขามีมั้ย…”
ถวิลอ้าปากหวอ เขาค่อยๆ ปล่อยมือจากข้อศอกของวุฒิภาศ ชายหนุ่มพูดเสียงเย็นอีกครั้ง
“รบกวนขอด่วนด้วยครับ”
คนในทีม NIC พูดเหมือนกัน ทำเหมือนกัน ถวิลรู้สึกอย่างนั้น ไม่มีใครบอกว่าทำไมรายชื่อและประวัติของพนักงานธนาคารในสาขาจึงมีความสำคัญหรือจำเป็นต่อการช่วยชีวิตพนักงานออกมาจากสถานการณ์อันเลวร้ายนั้นนัก แต่ทุกคนเอาแต่สั่งๆๆ ให้เขาต้องหาคำตอบมาให้ได้
วุฒิภาศกำลังจะมุ่งหน้าไปยังรถกระบะซึ่งมีหัสยุทธนั่งรออยู่ พลันสายตาของเขาก็เหลือบไปเห็นรถฉุกเฉินของโรงพยาบาลที่วิ่งเข้ามาใกล้สถานที่เกิดเหตุพอดี นายตำรวจหนุ่มแค่รับทราบเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นรอบตัว เขาไม่ได้หยุดรอใครหรือสิ่งใด ขณะนี้สิ่งที่เขารับรู้จำเป็นต้องถูกรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบก่อน
แสงแดดอ่อนตัวลงอีก แต่ผู้คนซึ่งเฝ้าดูเหตุการณ์อยู่ภายนอกกลับเพิ่มจำนวนขึ้นอย่างหนาตา โอบเกียรติเข้ามาประกบตัววุฒิภาศแล้วพาเขาไปส่งยังรถกระบะ ดูเหมือนทางตำรวจสืบสวนสอบสวนเองก็เครียดไม่น้อย
“จะค่ำแล้ว ผมไม่ชอบ” โอบเกียรติพูดขณะที่เดินไปด้วยกัน
“ไม่มีใครชอบหรอกครับ ต้องมีการเจรจาอีกรอบก่อนเส้นตาย”
“ผมบอกเจ้าหัสไปแล้วว่ามีทางเดียวที่ตำรวจพอจะบุกเข้าไปได้คือหลังคา หากจำเป็น…เราจะขึ้นไปที่ดาดฟ้าตึกแล้วให้หน่วยสวาทโรยตัวลงมา มีหน้าต่างอยู่สองช่องที่พอจะพังเข้าไปได้”
“ขอบคุณครับ”
วุฒิภาศกลับมานั่งตำแหน่งเดิมบนรถกระบะอีกครั้ง ตอนนี้หัสยุทธมีกระดาษหลายแผ่นวางพิงไว้กับพวงมาลัยรถ บนนั้นมีการวาดแผนผังอาคารคร่าวๆ ไว้ด้วย เมื่อวุฒิภาศนั่งเรียบร้อยแล้วก็เริ่มรายงานทันที
“ปืนประกอบเองครับ กระบอกปืนเป็นโลหะทรงกลมคล้ายท่อเหล็ก เสียงที่รุสก์บอกว่าแปลกๆ น่าจะเป็นเพราะเขาไม่เคยได้ยินเสียงปืนที่ประกอบขึ้นเองมาก่อน”
“เอาปืนประกอบเองมาปล้นธนาคารเหรอ”
“ครับ แล้วในกล้องวงจรปิดมีภาพของผู้ต้องสงสัยสองคน”
“สองคน?” หัสยุทธหยุดลากเส้นบนแผนผังของเขา “ปืนกี่กระบอก”
“เท่าที่เห็นจากกล้องวงจรปิดมีคนละกระบอกครับ”
“ได้ประวัติของพนักงานรึยัง”
“ยังครับ ผมกำชับกับผู้จัดการเขตไปแล้ว ตอนนี้รุสก์กำลังแคปภาพคนร้ายออกมา แล้วรถพยาบาลก็มาถึงแล้วครับ”
“อีกกี่นาที” จู่ๆ หัสยุทธก็ถามเรื่องเวลาขึ้น และคนที่ตอบก็คือปารุสก์
“สิบจุดห้าสองนาทีครับ”
“โอเค ให้รถพยาบาลสแตนด์บาย ถ้าเรียกแล้วให้เข้ามาจอดหน้ารถตำรวจทันที”
“รับทราบครับ”
หัสยุทธยื่นหน้าออกมาทางหน้าต่างที่เปิดกระจกไว้แล้วตะโกนบอกโอบเกียรติ “จะเจรจาอีกรอบ มีความเป็นไปได้ว่ามีคนร้ายสองคน พวกมันใช้ปืนประกอบเอง รัศมีของกระสุนไม่น่าไกลมาก แต่ก็อย่าประมาท หลังจากนี้อาจจะเรียกรถพยาบาลเข้า นายคอยเคลียร์เส้นทางด้วยแล้วกัน”
“เออ”
หัสยุทธพูดกับเครื่องรับสัญญาณของเขา “ต่อสายเลยรุสก์”
“ครับ เจ้านาย”