“เอ่อ…วันนี้บ้านผมรกมากเลย กำลังจะขนหนังสือลงมาเก็บข้างล่าง”
“ก็เพราะวีชอบมัวแต่ยุ่งกับเรื่องหนังสืออยู่ตลอด มลก็เลยต้องเอามาเก็บเข้าตู้ให้เรียบร้อยก่อนกลับยังไงล่ะ ขืนวีลืมทิ้งไว้จนแมลงมาตอมก็เสียดายของแย่”
ปฐวีหันไปมองทางบันไดก็ไม่เห็นน้ำหนึ่งแล้ว หญิงสาวคงจะรีบผลุบกลับขึ้นไปบนบ้านตั้งแต่ได้ยินเสียงฝีเท้ามุ่งตรงมาทางปากประตูบ้าน
จะทำอย่างไรดี เกิดน้ำหนึ่งทำเสียงกุกกักอยู่ชั้นบนแล้วนฤมลได้ยินเข้าจะไม่สงสัยเอาหรือ แต่ขืนคะยั้นคะยอให้อีกฝ่ายรีบกลับก็จะเป็นการเพิ่มพิรุธยิ่งขึ้นไปอีก
“อื้อหือ วันนี้เกิดคึกอะไรขึ้นมาน่ะวี ฉีดน้ำหอมซะฟุ้งไปทั่วบ้านเลย”
ปฐวีได้แต่หัวเราะแห้งๆ เพื่อกลบเกลื่อน แต่เขาคงจะแสดงท่าทางกระสับกระส่ายออกมาให้เห็นอยู่บ้าง นฤมลจึงเอียงคอมองอย่างสนใจ ยิ้มแล้วเอ่ยถาม
“เอ…หรือจะแอบซ่อนสาวเอาไว้กันน้า”
“เปล่าหรอก ผมก็แค่…รู้สึกว่าบ้านมันมีแต่กลิ่นหน้ากระดาษเก่าๆ ของหนังสือ เลยเอาน้ำหอมมาดับกลิ่นน่ะ”
“อืม งั้นเหรอ” นฤมลพึมพำ ยังคงมีรอยยิ้มอยู่ในหน้า “มลว่ามลไม่กวนเวลาวีแล้วดีกว่า เดี๋ยวเกิดน้องนุ่นตื่นขึ้นมาไม่เจอแล้วจะร้องไห้โยเยเอา”
“ดีแล้วล่ะ วันหลังก็โทรให้ผมไปเอาที่ร้านดีกว่า อย่าลำบากมาเองเลย”
“จ้า งั้นกลับล่ะนะ”
ปฐวีแอบผ่อนลมหายใจออกมาอย่างโล่งอกขณะเดินตามหลังญาติสาวออกไปหน้าบ้าน รีบกุลีกุจอไปเปิดประตูรถให้อย่างเร็วรี่ “ขับรถดีๆ นะ ไม่ต้องขับเร็ว”
“มลขับรถช้าจะตายไป”
“นั่นสินะ”
ขณะปฐวีช่วยโบกรถให้นฤมลถอยออกไปที่ถนนเพราะทางเข้าบ้านค่อนข้างแคบ น้ำหนึ่งก็แอบเลิกผ้าม่านดูจากหน้าต่างบนห้องนอน จนกระทั่งเห็นรถเก๋งสีบรอนซ์สัญชาติญี่ปุ่นขับออกไปแล้วจึงผลุบหน้ากลับเข้ามา
ระหว่างนั้นสายตาก็เหลือบไปเห็นหนังสือจำนวนหลายสิบเล่มที่จัดเรียงเอาไว้อย่างดีบนชั้นหนังสือส่วนตัวของปฐวีเข้าโดยไม่ตั้งใจ
ยังชอบอ่านหนังสือไม่เปลี่ยนเลยแฮะ…
น้ำหนึ่งเดินไปหยุดอยู่ที่หน้าตู้หนังสือไม้ขัดมันสีดำ ไล่สายตาไปตามสันหนังสือที่ปฐวีจัดเรียงเอาไว้ตามลำดับเล่มอย่างสนใจ ใครจะนึกว่าตอนยังเด็ก น้ำหนึ่งเคยเป็นยายลูกเป็ดขี้เหร่มาก่อน แถมยังเป็นหนอนหนังสืออีกต่างหาก บางทีนิสัยรักการอ่านในช่วงนั้นของเธออาจจะมาจากการที่คุณย่าขอเอาตัวเธอไปอยู่ด้วยก็ได้
แต่พอถูกส่งกลับไปอยู่ในการปกครองของแม่อย่างเต็มตัวตอนอายุสิบสี่ เธอก็เริ่มหันมารักสวยรักงามตามประสาวัยรุ่นจนสามารถเปลี่ยนจากลูกเป็ดขี้เหร่มาเป็นนางหงส์ได้อย่างไม่น่าเชื่อ ซ้ำยังสวยมากยิ่งขึ้นตามความเปล่งปลั่งของวัย จนถึงกับเคยมีคนไปขุดรูปสมัยยังเด็กของเธอมาเปรียบเทียบว่าเธอนั้นสวยด้วยมีดหมอ ไม่ใช่ตามธรรมชาติแต่อย่างใด
ตอนแรกน้ำหนึ่งก็เก็บเอาไปร้องไห้ด้วยความไม่พอใจ แต่พอเริ่มโตขึ้นหญิงสาวก็เลิกสนใจคำวิจารณ์ไร้สาระของพวกขี้อิจฉา ใครอยากจะว่าอะไรก็ช่าง แค่เธอรู้ดีว่าตัวเองสวยด้วยธรรมชาติก็พอ
ความคิดเกี่ยวกับวัยเด็กของตัวเองหยุดชะงักลงเพียงแค่นั้น เมื่อน้ำหนึ่งเลื่อนสายตาไปยังชั้นบนสุดและพบหนังสือจากปลายปากกาของคุณย่าเรียงกันครบทุกปกที่มีการตีพิมพ์ซ้ำ ทั้งยังดูเหมือนเขาจะเก็บเอาไว้เป็นสมบัติส่วนตัวมากกว่าจะมีไว้เพื่อขายทำกำไร
เมื่อหมดความสนใจจากหนังสือคุณย่า น้ำหนึ่งก็เหลือบไปเห็นพิมพ์ดีดเก่าเครื่องหนึ่งซึ่งปฐวีวางเก็บเอาไว้ที่ชั้นล่างสุด ถ้าจำไม่ผิด เธอเคยเห็นคุณย่าใช้พิมพ์ดีดเครื่องนี้ทำงานเป็นประจำตอนที่เธอยังเด็กมาก ทว่าหลังจากมีคอมพิวเตอร์ที่ใช้งานสะดวกสบายกว่าเข้ามา คุณย่าก็เลิกใช้ไป
เชอะ! คงทำเป็นขอคุณย่าไว้เป็นที่ระลึก แต่จริงๆ ตั้งใจจะเก็บไว้ประมูลขายมากกว่า