ทดลองอ่าน เชฟคนนี้มีรักมาเสิร์ฟ! บทที่ 4-บทที่ 5 – หน้า 4 – Jamsai
Connect with us

Jamsai

With Love

ทดลองอ่าน เชฟคนนี้มีรักมาเสิร์ฟ! บทที่ 4-บทที่ 5

4

“หัวหน้าของฉันให้ฉันมาขอบคุณคุณต่อหน้า”

จริงๆ แล้วไม่ได้มีคำสั่งนี้หรอก ผู้กำกับหลิวได้รับโทรศัพท์จากหานต้ง ก็ขอบคุณทางโทรศัพท์เป็นพันรอบตั้งนานแล้ว

เจียงเหมยอิ่งก็แค่ไม่อยากให้หานต้งรู้ว่าจริงๆ แล้วเธออยากจะมาร้านบะหมี่โหย่วเจียน

หานต้งเห็นท่าทีเขินอายของเธอก็รู้สึกว่าน่ารักนิดหน่อย เขาผงกศีรษะ “ครับ”

พอดูท่าทางจะตกเป็นฝ่ายเสียเปรียบ เจียงเหมยอิ่งก็มองหานต้งอย่างไม่พอใจ แต่กลับเห็นว่าในดวงตาของเขามีรอยยิ้ม เจียงเหมยอิ่งตวัดตามองเขา ยืนอยู่หน้าประตูครู่เดียว ไม่รอให้หานต้งพูดขอโทษ

“ฉันขอตัว” เจียงเหมยอิ่งคิดว่าหานต้งคงไม่มีทางขอโทษหรอก

“อย่าเพิ่งไปครับ” หานต้งรีบร้องเรียกเธอไว้

เจียงเหมยอิ่งจ้องมองเขา

“ไม่กินอะไรสักหน่อยค่อยไปล่ะครับ”

“…” แต่เจียงเหมยอิ่งจะกินอะไรล่ะ

“อีกอย่าง ผมมีเรื่องที่ต้องคุยกับคุณ”

เจียงเหมยอิ่งนิ่งเงียบ อารมณ์ยุ่งเหยิงบนใบหน้าของเธอแสดงความรู้สึกสั่นคลอนในใจออกมาทั้งหมด

สีหน้าของเธออ่อนลง ก้าวเท้าไปข้างหน้าสองก้าวอย่างฝืนใจ หาที่นั่งนั่งลง “งั้นคุณก็รีบพูดมา”

หานต้งถอนหายใจ “ขอโทษครับ”

เจียงเหมยอิ่งอึ้งไป แผ่นหลังยืดตรงแข็งทื่อ หลุบตาลง

หานต้งนั่งลงตรงข้ามเจียงเหมยอิ่ง ก้มศีรษะเล็กน้อย น้ำเสียงราบเรียบ ทว่าพูดกับเจียงเหมยอิ่งอย่างจริงใจ “ที่ตำหนิคุณว่ากินทิ้งกินขว้าง เป็นความผิดของผมในฐานะที่เป็นเชฟและเจ้าของร้าน ผมรู้สึกผิดกับคุณจริงๆ ขอโทษครับ”

คำว่า ‘ขอโทษ’ ที่เป็นตัวหนังสือเทียบกับที่ได้ยินกับหูตัวเองไม่ได้เลย

เจียงเหมยอิ่งสามารถบล็อกข้อความที่หานต้งส่งมาในเวยป๋อไม่หยุดรวมถึงเบอร์โทรศัพท์ได้อย่างใจดำ แต่เมื่อคนตัวเป็นๆ มาอยู่ตรงหน้าเธอ ใช้สายตาที่จริงใจมองมาที่เธอ จากนั้นก็ใช้น้ำเสียงที่ธรรมดาทว่าจริงใจที่สุดกล่าวขอโทษต่อเธอ…

เจียงเหมยอิ่งชำเลืองมองหานต้งแวบหนึ่ง

อีกทั้งคนที่กล่าวขอโทษคนนี้รูปร่างหน้าตาไม่เลวเลยจริงๆ…ตรงสเป็กเธอมาก

ทำอย่างไรเธอก็พูดคำว่าไม่ให้อภัยอย่างใจจืดใจดำออกมาไม่ได้!

ดังนั้นเจียงเหมยอิ่งจึงทำได้แค่นิ่งเงียบ

เขากล่าวคำขอโทษต่อ “ที่ผมบอกว่าคุณไม่เคารพอาหาร เข้าใจผิดไปว่าคุณไม่ชอบฝีมือทำอาหารของผม แถมยังสร้างความลำบากให้กับคุณในการทำงานของคุณด้วย ผมรู้สึกผิดกับคุณจริงๆ ขอโทษครับ”

นี่เป็นจุดที่เจียงเหมยอิ่งโกรธที่สุด เดิมทีเธอยังคิดว่าจะสาธยายความผิดของหานต้งออกมาอีกสักหลายประโยค แต่พอหานต้งเอ่ยขอโทษ อารมณ์โกรธของเธอก็พลันมลายหายไป

เจียงเหมยอิ่งรู้สึกไม่พอใจที่ตนเองให้อภัยอีกฝ่ายง่ายๆ ขนาดนี้ เธอเบะปาก จ้องตาหานต้งตรงๆ

“เพราะสามปีก่อนตอนที่ผมหนีออกจากบ้านไม่ได้จัดการธุระต่างๆ ให้ดี ทำให้ส่งผลกระทบต่อชีวิตของคุณที่ใช้เบอร์มือถือเก่าของผม ผมรู้สึกผิดกับคุณจริงๆ ขอโทษครับ”

เจียงเหมยอิ่งหันขวับไปมองเขา รู้สึกประหลาดใจอยู่บ้าง “คุณ…” ทำไมแม้แต่เรื่องนี้ก็ขอโทษด้วย

เธออยากจะถามอย่างนั้น แต่คิดว่าถ้าถามไปตนเองก็คงขายหน้าแย่

หานต้งพยักหน้า และทวนอีกครั้งอย่างจริงจัง “ขอโทษครับ”

เจียงเหมยอิ่งยกมือปิดหน้าทันใด ก้มศีรษะลงแล้วถอนหายใจยาวๆ ใบหน้าแดงลามไปถึงใบหู

ขายหน้าชะมัด

ก็แค่ทะเลาะกับหานต้งในไดเร็กต์เมสเสจจึงโพล่งเรื่องเบอร์โทรออกมาเลยตามเลย จริงๆ แล้วเจ้าของคนเก่าไม่ได้ผิดอะไร แต่เธอโชคร้ายเองที่เลือกเบอร์นี้

เธอไม่สงบจิตสงบใจ ใช้ถ้อยคำที่ประสาทเสียที่สุด พิมพ์ต่อกันยาวเป็นแถบ ใช้เครื่องหมายอัศเจรีย์และคำเน้นย้ำเพื่อบ่งบอกถึงความผิดของเขา แถมยังใช้ถ้อยคำต่อว่าต่างๆ นานาที่ทำให้เขารู้สึกว่าเธอเกลียดเขาที่สุดด้วยท่าทีอ่อนนอกแข็งใน

เพราะว่าเธอคุยผ่านโทรศัพท์มือถือ ไม่จำเป็นต้องคุยต่อหน้า ใช้ตัวอักษรพ่นความเคียดแค้นที่มีต่ออีกฝ่าย เจียงเหมยอิ่งคิดว่าตนเองจะไม่ขี้ขลาด แต่เมื่ออยู่ในความเป็นจริง เธอกลับทำไม่ได้เลย

นึกไม่ถึงว่าตอนนี้หานต้งจะมาขอโทษเธออย่างจริงจังจริงๆ เรื่องเบอร์มือถือก็ยังขอโทษ การที่เขาเปลี่ยนเบอร์เป็นเรื่องสุดวิสัย เขาไม่ได้ไปเปลี่ยนเบอร์สำรองที่ธนาคารก็เพราะตอนนั้นสถานการณ์บังคับ เธอเคยรู้มาว่าบัญชีธนาคารของเขาทั้งหมดก่อนหน้านี้ก็ถูกอายัด เขาเพิ่งออกจากบ้าน ก็คงยุ่งจนปลีกตัวไม่ได้

เจียงเหมยอิ่งรู้สึกอายจนอยากจะเอาหัวมุดรูจริงๆ

หานต้งเห็นแก้มทั้งสองข้างและใบหูของเจียงเหมยอิ่งแดงเรื่อก็ไม่เข้าใจ

เขาเคาะโต๊ะแล้วถามเจียงเหมยอิ่ง “ไม่เป็นไรนะครับ?”

เสียงที่เหมือนแมลงของเจียงเหมยอิ่งดังลอดออกมาจากระหว่างฝ่ามือประโยคหนึ่ง “คุณ…ทำไมถึงมารยาทดีขนาดนี้นะ…”

มารยาทดีก็ไม่โอเคเหรอ หานต้งงุนงง

เจียงเหมยอิ่งที่นั่งอยู่บนเก้าอี้ มือทั้งสองข้างกำหมัดแล้ววางบนหัวเข่าอย่างกังวล เธอเบะปาก ดวงตาทั้งสองข้างมองไปข้างหน้า ใบหูหายแดงลงไปมากแล้ว

เธออธิบายเสียงเบา “ที่ผ่านมาฉันไม่เคยเจอใครที่ขอโทษฉันอย่างจริงใจขนาดนี้มาก่อน”

คำพูดนี้ทำให้หานต้งแปลกใจ

คนแบบไหนถึงไม่เคยเจอใครที่ขอโทษอย่างจริงใจ

เดินชนคนอื่นก็ต้องพูด ‘ขอโทษ’ ด้วยความตั้งใจจริงสิ คำพูดของเจียงเหมยอิ่งไม่สมเหตุสมผลเลยสักนิด

เจียงเหมยอิ่งกลัวการถูกคนต่อว่า และก็หวังว่าจะมีคนเข้าใจ แต่เมื่อคนที่เคยต่อว่าเธอมาขอโทษเธออย่างจริงใจ ไม่ว่าอีกฝ่ายจะเข้าใจเธอหรือไม่ก็ตาม เธอคิดว่ามันเป็นเรื่องที่ยากจะเชื่อ

เธอไม่รู้ว่าเซียวอิ่นจางมา ‘คิดบัญชี’ กับหานต้งอย่างไร ถึงขั้นทำให้หานต้งพูด ‘ขอโทษ’ เธอมากมายขนาดนี้อย่างสุภาพ เธอสงสัยว่าเซียวอิ่นจางไม่ได้มาคิดบัญชีกับหานต้ง แต่มาทำการแลกเปลี่ยนอะไรสักอย่างที่บอกไม่ได้

เธอย่อมไม่รู้ว่าเซียวอิ่นจางกับหานต้งเซ็นสัญญาที่บอกใครไม่ได้

หานต้งกล่าว “เพราะเป็นความผิดของผมจริงๆ ดังนั้นผมจำเป็นต้องขอโทษคุณ”

หานต้งหัวโบราณ แต่ก็ยืดหยุ่นได้ เขามักจะทำอะไรเป็นขั้นเป็นตอน ตั้งใจและรอบคอบ การปฏิบัติตัวก็เป็นอย่างนี้

เจียงเหมยอิ่งเกาศีรษะ เธอหน้าแดง และเอ่ยว่า “เอาล่ะๆ ฉันอยากสั่งอาหารค่ะ”

หานต้งพยักหน้า “อยากกินอะไรครับ”

เจียงเหมยอิ่งเหน็บแนม “คุณไม่กลัวฉันกินทิ้งกินขว้าง?”

เธอยังคงข้องใจเขาสินะ หานต้งไม่รู้ว่าควรจะตอบด้วยสีหน้าท่าทางแบบไหน

หานต้งส่ายหน้าแล้วบอกว่า “คุณอยากกินอะไรก็ทำได้ทั้งนั้น”

เจียงเหมยอิ่งเซอร์ไพรส์มาก ดูเหมือนว่าการให้เซียวอิ่นจางออกโรงจะได้ผลเกินไปแล้ว หมอเซียวของเธอช่างเป็นนักเจรจาชำนาญการเสียจริง

หานต้งเห็นท่าทีของเจียงเหมยอิ่งก็รู้ว่าในใจเธอคิดอะไรอยู่ หลังจากที่ได้รู้อาการของเธอจากทางเซียวอิ่นจาง เขาก็มีความรู้สึกบางอย่าง เหมือนกับว่าจู่ๆ เขาก็ได้แชร์ความลับกับเจียงเหมยอิ่ง ระยะห่างในใจพลันถูกดึงเข้ามาให้ใกล้กัน แม้เจียงเหมยอิ่งจะไม่รู้ว่าเขาได้รู้อาการป่วยของเธอแล้วก็ตาม

เจียงเหมยอิ่งดูเมนูอาหารบนผนังที่อยู่ด้านหลังหานต้ง ไล่ดูชื่อไปทีละเมนู เจียงเหมยอิ่งตัดสินใจได้ก็ยกมุมปากขึ้น เอ่ยด้วยน้ำเสียงมั่นใจแกมสัพยอก “บะหมี่เนื้อตุ๋นน้ำแดง!”

หานต้งงงงัน เลิกคิ้วขึ้นทันใด

เขาอยากจะหัวเราะ ทว่าต่อหน้าก็ได้แต่ยิ้มออกมาอย่างเก้อกระดาก

เป็นผู้หญิงที่เจ้าคิดเจ้าแค้นจริงๆ

ครั้งนี้หานต้งไม่ได้ปฏิเสธออเดอร์ เขาหยิบสมุดจดออเดอร์เล่มใหม่ออกมาจากลิ้นชักและวาดวงกลมเป็นสัญลักษณ์ไว้ที่หน้าแรกของสมุด จากนั้นก็เชิญเจียงเหมยอิ่งให้นั่งรอก่อน

เขาพลิกหาหน้าที่วาดวงกลมเป็นสัญลักษณ์ไว้ จากนั้นก็จดเมนูที่เจียงเหมยอิ่งสั่งครั้งนี้ไว้ด้านหลัง

เขาเสียบใบสั่งอาหารไว้ในกระเป๋าที่อยู่ตรงหน้าอกของชุดเชฟและผูกสายผ้ากันเปื้อนที่เอวแน่น ดึงหมวกเชฟที่อยู่ข้างเอวออกมาพลางสวมมัน แล้วรีบก้าวเท้าไปยังห้องครัว

“เดี๋ยวก่อน” เจียงเหมยอิ่งรีบเรียกเขาไว้แล้วถาม “นั่น…คุณจะทำเองเหรอ”

หานต้งชะงักฝีเท้า พลันพยักหน้า แล้วก็เข้าไปในครัวโดยไม่บอกกล่าว ตอนแรกที่ยังไม่รู้สถานการณ์ เพียงคิดว่าคำถามของเจียงเหมยอิ่งนั้นแปลกๆ พอตอนนี้เขาเข้าใจดีแล้วก็กลับรู้สึกปวดใจขึ้นมา

ขณะที่กำลังรออาหารมาเสิร์ฟ เจียงเหมยอิ่งก็เริ่มรู้สึกผิดในใจอย่างช่วยไม่ได้ ทั้งๆ ที่เขาขอโทษแล้ว เธอก็ยังคิดจะมาหาเรื่องด้วยอารมณ์โกรธเคืองอีก เธอรู้ดีแก่ใจว่าตัวเองกินบะหมี่เนื้อที่ทั้งเผ็ดทั้งมันทั้งคาวไม่ได้เด็ดขาด

ถึงเวลานั้นก็เสียของเปล่า ไม่รู้ว่าหานต้งจะหัวเราะเยาะเธอในใจอย่างไรบ้าง ตอนนี้ภายนอกหานต้งอาจจะขอโทษเธออย่างสุภาพ แต่ไม่แน่ว่าในใจก็คงแอบเหม็นหน้า

เจียงเหมยอิ่งพิมพ์ข้อความเตรียมจะส่งไปให้เซียวอิ่นจาง ‘พังแล้ว…’

ยังไม่ทันได้กดปุ่มส่ง ม่านของห้องครัวก็ถูกเปิด หานต้งยกของออกมาหลายอย่าง

เจียงเหมยอิ่งยังคงงุนงง หานต้งจัดจานไว้บนโต๊ะ ให้บริการด้วยตัวเองและเริ่มกล่าวแนะนำ “บะหมี่เนื้อวัว ต้นหอม ผักชี พริก”

เจียงเหมยอิ่งกระตุกมุมปาก สีหน้าแปรเปลี่ยนเป็นสับสน

บะหมี่เนื้อยังคงเป็นบะหมี่เนื้อชามนั้น ทว่าน้ำซุปนั้นใสมาก เส้นบะหมี่ขาวเนียน ด้านบนโปะผักกวางตุ้งไว้ห้าหกชิ้น ใสกระจ่างราวกับหยก ข้างๆ ผักกวางตุ้งมีเนื้อวัวแผ่นบางๆ หกแผ่นจัดไว้อย่างเป็นระเบียบเหมือนบะหมี่เนื้อที่ปกติชามหนึ่ง ทว่าแค่ดูจืดชืด

เจียงเหมยอิ่งสงสัยว่าเขาแอบลดทอนเครื่องปรุง แต่ดูจืดขนาดนี้ก็ทำให้เธอลอบพรูลมหายใจ

สิ่งที่ทำให้เธอไม่เข้าใจที่สุดคือต้นหอม ผักชี และพริก เครื่องปรุงทั้งสามอย่างถูกแยกใส่ในจานใบเล็กๆ

ความหมายน่าจะประมาณว่า ‘อยากได้รสชาติระดับไหนก็ปรุงเอาเอง’

เจียงเหมยอิ่งเงยหน้ามองหานต้งอย่างงุนงง หานต้งพยักหน้าให้เธอ แล้วก็กลับเข้าครัวไป

แผ่นหลังนั้นราวกับผู้ที่ปิดทองหลังพระ เจียงเหมยอิ่งกระตุกริมฝีปาก สีหน้ายากจะคาดเดา

Comments

comments

No tags for this post.
Continue Reading

More in With Love

บทความยอดนิยม

everY

ทดลองอ่าน เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 Chapter 2.1-2.2 #นิยายวาย

ทดลองอ่าน เรื่อง เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 ผู้เขียน : MINTRAN แปลโดย : ทันบี ผลงานเรื่อง : 배타적 연애 금지구역 ถือเป็นลิขสิทธิ์...

จุติรัก พลิกชะตาร้าย

ทดลองอ่าน จุติรัก พลิกชะตาร้าย บทที่ 1-2

บทที่ 1 ฮ่องเต้หญิง   “ท่านพี่นำร้อง น้องหญิงคลอรับ ท่านพี่เสียงเพิ่งลับ น้องหญิงสลับขึ้นเวที เป็นมารดาอารี มีบุตรีกตัญญ...

ทดลองอ่าน

ทดลองอ่าน ร้อยเรียงรักเคียงฤทัย บทนำ – 1.2

บทนำ ความหลังของต้าลี่ 1   ฤดูหนาวในรัชศกต้าลี่ปีที่สิบเอ็ด โม่เป่ย ตำบลค่งหม่า สถานที่แห่งนี้คือประตูด่านสำคัญสุดท้ายทา...

จุติรัก พลิกชะตาร้าย

ทดลองอ่าน จุติรัก พลิกชะตาร้าย บทที่ 7-8

บทที่ 7 ค่าเดินทาง เมื่อภูตสุนัขดำคืนร่างเป็นสุนัขธรรมดาตัวหนึ่ง ภูตบุปผาสองตนนั้นก็ไม่อาจทำการใหญ่ ต่อให้ชาวหมู่บ้านป่า...

จุติรัก พลิกชะตาร้าย

ทดลองอ่าน จุติรัก พลิกชะตาร้าย บทที่ 3-4

บทที่ 3 เกิดใหม่   เวิ้งฟ้าดำสนิทปานน้ำหมึก เพียงมีดวงดาวบางตากระจัดกระจายบนม่านฟ้า ทอรัศมีอ่อนจางประเดี๋ยวเผยประเดี๋ยวเ...

community.jamsai.com