‘ผู้เฒ่าจันทราไร้ความเมตตา โศกาอาดูรไปชั่วชีวี ปรารถนาพบหน้าท่านอีกสักครั้ง’
อะไรทำนองนี้…
อันที่จริงจดหมายทำนองนี้ใช่ว่าอวิ๋นเฟยไม่เคยส่งให้มาก่อน เพียงแต่ถ้อยคำไม่ได้เน้นย้ำเปิดเผยโจ่งแจ้งถึงเพียงนี้เท่านั้นเอง
เดิมทีเว่ยเหลิ่งเหยาก็เพิกเฉยต่ออวิ๋นเฟยมาโดยตลอด ถึงแม้ซั่งอวิ๋นชูจะเป็นสตรีมากความสามารถ แน่นอนว่าเขาเองก็เคยชื่นชมนางมากๆ มาก่อน แต่สุดท้ายแล้วนางก็เป็นฝ่ายทิ้งเขาก่อนและไปเลือกฮ่องเต้ไม่เอาไหนพระองค์นั้นแทน เดิมทีเขาก็เป็นคนเฉยเมยเย็นชาอยู่แล้ว ความรู้สึกเสน่หาซึ่งไม่ได้เกิดขึ้นง่ายๆ จึงจางหายไปอย่างปุบปับด้วยประการฉะนี้
ตอนนี้หากไม่ใช่เพราะซั่งหนิงเซวียนพี่ชายของซั่งอวิ๋นชูเป็นขุนนางคนสำคัญที่เขาต้องพึ่งพาอาศัยอย่างมากแล้วล่ะก็ เขาจะต้องไว้หน้าให้เกียรติหญิงสาวผู้นั้นด้วยอย่างนั้นหรือ
แต่การกอบกู้ศักดิ์ศรีหน้าตาของตนคืนมาต่อหน้าหญิงสาวที่ใจโลเลได้ใหม่ลืมเก่าทิ้งตนไปนั้นช่างเป็นเรื่องที่น่าเบิกบานใจเสียจริง สาวงามในวัยงดงามเพริศแพร้วที่มีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วเมืองหลวง ถึงแม้จะสูญเสียความบริสุทธิ์ไปแล้ว แต่เขาก็ไม่คิดจะต้อนรับนางกลับจวนเสียหน่อย แค่เอาไว้เป็นเพียงของเล่นคลายความเบื่อหน่ายจะเป็นไรไป
ดังนั้นเขาจึงฉวยโอกาสที่มึนเมาด้วยฤทธิ์สุราเดินมุ่งหน้าไปยังตำหนักใน ขณะที่เดินผ่านตำหนักบรรทมของฮ่องเต้ หยวนกงกงที่อยู่ด้านหลังก็เอ่ยเตือนเขาเสียงเบาว่าเมื่อครู่เขาเพิ่งกินอาหารเสร็จ คนที่โรงทอผ้าส่งมาไม่กล้ารบกวนเขา จึงขอไปวัดตัวให้ฮ่องเต้น้อยก่อน ในเมื่อเขาจะไปหาอวิ๋นเฟย ค่อยให้ช่างภูษาไปวัดขนาดตัวที่จวนของท่านราชครูในตอนค่ำแทนดีหรือไม่
เว่ยเหลิ่งเหยาโบกมือเป็นเชิงว่าไม่ต้องยุ่งยากถึงเพียงนั้น แล้วจึงเดินวกกลับเลี้ยวเข้าไปในตำหนักบรรทมของฮ่องเต้น้อยเสียเลย
คนที่โรงทอผ้าส่งมาก็เป็นคนหัวไว พอเห็นท่านราชครูเอ่ยปากพูดเช่นนี้แล้วก็รีบผละมือจากท่อนแขนของฮ่องเต้น้อย ก่อนกระวีกระวาดเข้ามาวัดตัวท่านราชครูโดยไม่รอช้า
เนี่ยชิงหลินได้แต่หดมือแล้วค่อยๆ นั่งลงบนเก้าอี้รอต่อไป นางเองก็มองออกว่าท่านราชครูดูมึนเมาอยู่บ้าง บางทีเขาอาจจะร้อนเพราะฤทธิ์สุราจึงถอดเสื้อผ้าออกอย่างไม่ยี่หระ ครั้งที่แล้วนางเห็นเพียงวับๆ แวมๆ ผ่านชายสาบเสื้อเท่านั้น แต่ตอนนี้กลับมองเห็นอย่างชัดเจนจริงๆ
เสื้อผ้าที่ท่านราชครูสวมใส่ทำให้เขามีกลิ่นอายดุจเทพเซียน นอกจากเสื้อผ้าแล้ว รู้สึกว่าท่อนแขนของเขายังแข็งแกร่งทรงพลังยิ่งกว่าแขนขององครักษ์ยอดฝีมือในวังหลวงเสียอีก!
ยามที่ท่อนแขนล่ำสันที่ว่านี้กวัดแกว่งดาบอยู่นั้น คนที่รับคมดาบจะต้องเจ็บปวดมากเป็นแน่ ก็ไม่รู้ว่าต่อไปในวันหน้าเขาจะมอบสุราพิษให้นางหนึ่งจอกหรือยกดาบฟันฉับลงมาแทนกันแน่
ขณะที่สายตากำลังมองแผงอกของท่านราชครูอย่างเพลินตาอยู่นั้น จู่ๆ เนี่ยชิงหลินก็สังเกตเห็นว่านัยน์ตาหงส์ของท่านราชครูหรี่ลงโดยพลัน จากนั้นก็มองดูนางอย่างแฝงนัยลึกซึ้ง
เนี่ยชิงหลินมองตามสายตาของท่านราชครูลงไปจนถึงเป้ากางเกงของตนเอง…
เจ้าแท่งปลอมนั่นราวกับกำลังซุกซนอยู่
ติดตามตอนต่อไปวันที่ 15 ก.ย. 68