ทดลองอ่าน เชิดรักมังกรซ่อนเงาหงส์ บทที่ 7-8 – หน้า 7 – Jamsai
Connect with us

Jamsai

ทดลองอ่าน

ทดลองอ่าน เชิดรักมังกรซ่อนเงาหงส์ บทที่ 7-8

7 of 7หน้าถัดไป

เนื่องจากเมื่อครู่ราชครูเว่ยต้องการอบรมสั่งสอนฮ่องเต้ จึงไม่ให้ใครเข้ามาปรนนิบัติรับใช้ ส่วนอันเฉี่ยวเอ๋อร์ที่เอาของหวานมาส่งให้พอวางถ้วยแล้วก็ออกไป ตอนนี้ราชครูเว่ยหลับไปแล้ว ยิ่งไม่สะดวกที่จะเรียกผู้อื่นเข้าไปใหญ่ เนี่ยชิงหลินจึงเดินไปที่เตียงมังกรแล้วหยิบผ้าห่มแพรต่วนบุนวมผืนเล็กของตนที่ใช้ห่มเมื่อยามนอนหลับมาผืนหนึ่ง แล้วห่มให้ราชครูเว่ยอย่างแผ่วเบา

จากนั้นนางก็หยิบมันเทศย่างที่เหลือปีนขึ้นไปบนเตียงมังกร ซุกตัวอยู่ใต้ผ้าห่มเคี้ยวหยับๆ พลางใคร่ครวญถึงคำพูดเมื่อครู่นี้ของท่านราชครู รู้สึกตงิดใจอยู่มิวายว่าคำพูดของอีกฝ่ายแฝงนัยลึกซึ้งอยู่ แต่เขากลับไม่พูดให้กระจ่างเสียอย่างนั้น ทำให้นางสับสนงงงวยจริงๆ

เพียงแต่ดูเหมือนว่าราชครูผู้นี้มาที่ตำหนักบรรทมจนติดใจเสียแล้ว อย่างอื่นไม่สำคัญหรอก ติดเพียงท่านเว่ยโหวซึ่งคุ้นชินกับการกินอาหารโอชะเลิศรสมักมาขัดจังหวะอย่างไม่เกรงใจ ทำให้นางต้องเจียดของว่างอันน้อยนิดเหล่านี้ให้อยู่ร่ำไป แล้วยังมีหน้ามาบอกให้ผู้อื่นทำตัวดีๆ อีก!

ทุกวันนี้นางยังกินอาหารไปพลางต่อว่าตนเองที่ฟุ่มเฟือยเกินไปอยู่เลย! พลันนึกถึงในอดีตตอนที่เรียนอยู่ในห้องหนังสือแล้วต้องทำความเข้าใจบทกลอนที่ว่า ‘หลังประตูสุราเนื้อเหลือกองเน่า ถนนเล่ากระดูกขาวหนาวศพถม’* นั้น ยามนี้นับว่านางเข้าใจความหมายอย่างถ่องแท้แล้ว!

ราชครูเว่ยไม่ล่วงรู้ถึงความขุ่นเคืองใจของฮ่องเต้ เขารู้แต่เพียงว่าผ้าห่มผืนเล็กบนกายเขานั้นเหมือนกับเจ้าของของมัน มีกลิ่นหอมหวานของพุทราเชื่อมเช่นเดียวกัน พอห่มบนตัวแล้วก็รู้สึกอบอุ่นเสียจริง

แต่หลังจากหลับไปได้สักพัก กลิ่นฉุนของควันถ่านก็โชยเข้ามาตลบอบอวลไปทั่วห้องจนราชครูเว่ยทนไม่ไหวอีกต่อไป เขาลุกขึ้นนั่งทันที

พอเขาลุกขึ้นยืนถึงได้สังเกตเห็นว่าฮ่องเต้น้อยก็หลับอยู่เช่นกัน ผ้าห่มผืนใหญ่ปิดปากและจมูกไว้อย่างมิดชิด เผยให้เห็นเพียงคิ้วเรียวและดวงตาที่หลับพริ้มเท่านั้น ใบหน้าที่หลับอยู่แดงเรื่อเล็กน้อย ช่างเหมือนก้อนแป้งนุ่มๆ หวานละมุนเสียนี่กระไร

ราชครูเว่ยยืนอยู่หน้าตั่งพลางก้มมองลงไปครู่หนึ่ง รู้สึกว่าตนโอ้เอ้อยู่ที่นี่มานานพอควรแล้ว จึงขยับตัวยืดเส้นยืดสายเล็กน้อยแล้วค่อยเดินออกไป

ครั้นเดินไปถึงหน้าประตูวังกำลังจะขึ้นรถม้า จู่ๆ ราชครูเว่ยก็หันกลับมาถามว่า “หยวนกงกง ท่านเป็นหัวหน้าขันทีมานานเพียงใดแล้ว”

หยวนกงกงเห็นว่าท่านราชครูเงียบมาตลอดทาง แต่จู่ๆ ก็โพล่งถามขึ้นมา ทำเอาเขาสะดุ้งโหยง รีบตอบทันทีว่า “เรียนท่านราชครู ผู้น้อยทำงานในวังมาเกือบสี่สิบปีแล้วขอรับ ต่อมาโชคดีที่ได้ท่านราชครูสนับสนุน มาเป็นหัวหน้าขันทีได้สามปีแล้วขอรับ”

ราชครูเว่ยล้วงเอาผ้าเช็ดหน้าผ้าไหมธรรมดาออกมาจากอกเสื้อ เช็ดปากและจมูกที่เปื้อนเขม่าถ่านดำเล็กน้อย แล้วโยนให้หยวนกงกงที่ยืนอยู่ข้างรถม้า “สามปี? ไม่นานมากแต่ก็ไม่ถือว่าสั้น ธรรมเนียมและกฎเกณฑ์ในวังนี้เจ้าคงเข้าใจดี คนของกองงานฝ่ายในอู้งานเกียจคร้าน ทำเรื่องหลอกลวงบางอย่างอยู่เบื้องหลัง คนภายนอกเห็นเข้าจะเข้าใจไปว่าข้าผู้เป็นโหวปฏิบัติต่อฮ่องเต้อย่างกดขี่ข่มเหงเอาได้ ข้ารับใช้ที่ไม่ได้เรื่องพวกนั้นก็ไม่ต้องเก็บไว้ ใครสมควรถูกเปลี่ยนออก ถูกลงโทษ หรือถูกโบยให้ตายก็ขอให้หยวนกงกงโปรดพิจารณาจัดการตามเห็นสมควรด้วย…”

พูดจบเขาก็ลดม่านรถม้าลงแล้วจากไปอย่างรวดเร็ว ปล่อยให้หยวนกงกงถือผ้าเช็ดหน้าเปื้อนเขม่าดำยืนตากเหงื่อเย็นอยู่ท่ามกลางลมหนาว

วันนี้ลมปีศาจอะไรพัดมาอีกแล้วเล่า หยวนกงกงไม่อาจระบุที่มาของจุดกำเนิดลมนี้ได้ แต่ข้ารับใช้ของกองงานฝ่ายในถูกหางเลขของลมประหลาดนี้พัดกวาดไปเรียบร้อยแล้ว

วันนั้นมีเสียงร้องด้วยเจ็บปวดดังระงมอยู่ในกองงานฝ่ายในระลอกหนึ่ง เสียงแผ่นไม้กระทบกับผิวเนื้อดังขึ้นครั้งแล้วครั้งเล่า มีอยู่เจ็ดแปดคนถึงกับต้องใช้แคร่หามออกไป

ค่ำคืนนั้นเองถ่านสีขาวเนื้อดีสิบกว่ากล่องพร้อมด้วยเตาพกและอุปกรณ์กรองน้ำก็ถูกส่งมายังตำหนักบรรทมของฮ่องเต้ นอกจากนี้ยังมีเครื่องนอนใหม่เอี่ยมบางส่วนที่ถูกส่งมาด้วย หัวหน้ากองงานฝ่ายในที่นำของมาส่งให้อันเฉี่ยวเอ๋อร์โค้งคำนับและอธิบายเป็นการใหญ่ โดยบอกว่าดึกเกินไปสักหน่อย เครื่องเรือนชิ้นใหญ่บางอย่างจะนำมาส่งให้ในวันรุ่งขึ้น ขอแม่นางอันได้โปรดยกโทษให้ด้วย

ตำหนักบรรทมเหมือนถูกสร้างใหม่ในชั่วพริบตา ฮ่องเต้น้อยเอนกายนอนลงไปบนเครื่องนอนที่เพิ่งส่งมา รู้สึกว่าที่นอนหนาที่รองรับร่างกายอยู่นั้นช่างนุ่มน่าสัมผัสจนอยากแทรกตัวลงไปไม่อยากพลิกตัวกลับขึ้นมาเลย

ครั้นเนี่ยชิงหลินนึกถึงอาหารค่ำที่มีหลากหลายอย่างวางอยู่เต็มโต๊ะก็อดขมวดคิ้วไม่ได้ อาหารอันโอชะที่เพิ่มขึ้นอย่างกะทันหันนั้นเต็มไปด้วยสีสันและรสชาติ เห็นทีว่าบรรดาพ่อครัวในห้องเครื่องไม่ได้ไว้ทุกข์ให้ฮ่องเต้พระองค์ก่อนอีกต่อไป ในที่สุดก็ออกทุกข์แล้ว แต่ปริมาณที่มากนั้นกลับทำให้คนตกใจจนไม่กล้าขยับตะเกียบคีบกินตามอำเภอใจ

ราชครูเว่ยเพิ่งตำหนิที่นางฟุ่มเฟือย ข้ารับใช้ใต้อาณัติก็ยังมาทำอะไรแปลกๆ เช่นนี้อีก นี่มิใช่เป็นการยืนยันว่านางประพฤติผิดโทษฐานตะกละตะกลามกินอย่างฟุ่มเฟือยหรือไร

เจ้าสุนัขรับใช้พวกนี้กลั่นแกล้งกันเกินไปแล้ว!

เนี่ยชิงหลินสูดกลิ่นหอมของไม้จันทน์หอมที่อวลในอากาศ แล้วนอนเกลือกกลิ้งไปมาอย่างแสนสบายในผ้าห่มนุ่มพลางถอนหายใจยาว การจะเป็นฮ่องเต้ที่เรียบง่ายสมถะนั้น ที่แท้ก็ยากอย่างนี้นี่เอง!

 

ติดตามตอนต่อไปวันที่ 17 .. 68

7 of 7หน้าถัดไป

Comments

comments

No tags for this post.
Continue Reading

More in ทดลองอ่าน

บทความยอดนิยม

everY

ทดลองอ่าน เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 Chapter 2.1-2.2 #นิยายวาย

ทดลองอ่าน เรื่อง เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 ผู้เขียน : MINTRAN แปลโดย : ทันบี ผลงานเรื่อง : 배타적 연애 금지구역 ถือเป็นลิขสิทธิ์...

ทดลองอ่าน

ทดลองอ่าน เชิดรักมังกรซ่อนเงาหงส์ บทที่ 1-2

บทที่ 1 เสียงเคาะระฆังบอกโมงยามดังขึ้นครั้งแล้วครั้งเล่า เสียงอันคุ้นเคยเตือนให้คนเก่าคนแก่ในวังตระหนักได้ว่าเพลานี้เป็น...

ชาตินี้ข้าจะรักท่านให้มาก

ทดลองอ่าน ชาตินี้ข้าจะรักท่านให้มาก บทที่ 1-2

บทที่ 1 ต้นฤดูใบไม้ร่วง ท้องฟ้าสีฟ้าคราม สายลมโชยอ่อนพัดแผ่ว ม่านโปร่งบนศาลาริมน้ำขยับไหว ที่อยู่หลังม่านโปร่งคือโฉมสะคร...

ทดลองอ่าน

ทดลองอ่าน สานวาสนากับท่านอาของอดีตคู่หมั้น บทที่ 1-2

บทที่ 1 เวลาเช้าตรู่กู้เจี้ยนหลีรออยู่หน้าโรงจำนำเป็นเวลานานมากแล้ว ในมือของนางกำปิ่นรูปผีเสื้อคู่ประดับพู่ระย้าไว้อันหน...

ทดลองอ่าน

ทดลองอ่าน เชิดรักมังกรซ่อนเงาหงส์ บทที่ 3-4

บทที่ 3 เนี่ยชิงหลินได้ยินคำพูดเช่นนี้จึงเงยหน้าขึ้นเหลือบมองสีหน้าเย็นชาเข้มงวดของเว่ยเหลิ่งเหยาปราดหนึ่ง นางลังเลอยู่ช...

community.jamsai.com