ทดลองอ่าน เชิดรักมังกรซ่อนเงาหงส์ บทที่ 80-81 – หน้า 4 – Jamsai
Connect with us

Jamsai

ทดลองอ่าน

ทดลองอ่าน เชิดรักมังกรซ่อนเงาหงส์ บทที่ 80-81

เวลานั้นองค์หญิงฉี่เคอกำลังประคองยาสมานแผลไว้ในมือ เตรียมตัวที่จะไปเปลี่ยนยาใส่แผลให้กับท่านราชครูซึ่งได้รับบาดเจ็บที่ขาอยู่

เมื่อไม่กี่วันก่อนราชครูเว่ยถูกงูพิษที่กองทหารงูของหนานเจียงเลี้ยงไว้กัดเข้าโดยไม่ทันระวัง โชคดีที่องค์หญิงฉี่เคอและหลี่ว์อวี้ต๋าร่วมออกสำรวจพื้นที่บนภูเขากับท่านราชครูด้วยพอดี ตอนที่องค์หญิงฉี่เคอเข้าไปตรวจดูบาดแผลนั้น นางร้อนใจยิ่งนัก เตรียมจะใช้ปากของตนดูดพิษออกให้ แต่กลับถูกราชครูเว่ยผลักออกไปและสั่งให้หลี่ว์อวี้ต๋าที่อยู่ข้างๆ มาดูดพิษให้แทน

เพื่อความปลอดภัยของแม่ทัพใหญ่ หลี่ว์อวี้ต๋าย่อมเต็มใจอุทิศริมฝีปากอันบริสุทธิ์ของตนดูดพิษออกให้เป็นธรรมดา

เพียงแต่ขณะที่ทำการดูดพิษนั้นหลี่ว์อวี้ต๋าต้องคุกเข่าลงตรงระหว่างขาของท่านราชครู ร่างกำยำล่ำสันของตนย่อตัวลงไป ได้ยินเสียงท่านราชครูหายใจหอบครางเบาๆ ด้วยความเจ็บปวดจากการถูกงูพิษกัด ทั้งยังถูกตนดูดพิษอย่างต่อเนื่องจนท่านราชครูถึงกับสะดุ้งอีกต่างหาก ภาพที่แจ่มชัดคาตาเช่นนี้เป็นภาพแห่งช่วงเวลาที่ในชั่วชีวิตนี้แม่ทัพหลี่ว์ผู้ห้าวหาญแห่งกองทัพธงดำไม่อยากหวนนึกถึงอีกเลยจริงๆ

เมื่อทหารนายอื่นๆ มาถึงก็แอบถามกันใหญ่ว่าผู้ใดเป็นผู้รักษาบาดแผลให้ท่านราชครู หลี่ว์อวี้ต๋าได้แต่อ้อมแอ้มตอบไปว่าเป็นองค์หญิงฉี่เคอ ในเมื่อมีเพียงสามคนเท่านั้นที่อยู่ในเหตุการณ์ พวกเขาคงไม่วิ่งโร่ไปถามองค์หญิงฉี่เคอหรือท่านราชครูซึ่งๆ หน้าหรอกกระมัง เพียงแต่เมื่อเป็นเช่นนี้กลับทำให้บรรดาทหารทั้งหลายในกองทัพที่ปกติขาดแคลนสตรีอยู่แล้ว จู่ๆ ก็เริ่มคิดเตลิดไปไกล รู้สึกว่าองค์หญิงแห่งหนานเจียงองค์นี้กับท่านราชครูน่าจะมีความสัมพันธ์อะไรบางอย่างต่อกันแล้วก็เป็นได้

ส่วนองค์หญิงฉี่เคอเมื่อได้ยินข่าวลือดังกล่าว จิตใจของนางก็หวานชื่นทันที ยิ่งได้ใช้เวลาร่วมกับราชครูเว่ยนานเท่าใด นางก็ยิ่งหลงใหลในเสน่ห์ของชายหนุ่มผู้เย็นชาหล่อเหลาผู้นี้มากขึ้นเท่านั้น เดิมทีนางคิดว่าอนุของราชครูเว่ยจะต้องงดงามปานดอกไม้แรกแย้ม ทว่าเมื่อนางได้เจอนายหญิงสามของจวนราชครูเว่ยในเมืองหลวงวันนั้นแล้วถึงได้ประจักษ์ว่าอีกฝ่ายก็งดงามอยู่หรอก แต่ก็ยังเทียบกับนางไม่ได้อยู่ดี ต่อมานางก็เที่ยวสืบข่าวจนรู้ว่านายหญิงสามผู้นี้อ่อนโยนมาก ตรงใจท่านราชครูเป็นอย่างยิ่ง หากสตรีธรรมดาๆ เช่นนี้ยังสามารถเข้าไปอยู่ในจวนราชครูเว่ยได้ แล้วเหตุใดนางผู้ที่เหนือกว่าทั้งหน้าตาและความสามารถจะทำไม่ได้เล่า ชั่วขณะนั้นความมุ่งมั่นที่จะเอาชนะขององค์หญิงฉี่เคอก็พลุ่งพล่านขึ้นมาทันที

เหตุผลที่ท่านราชครูไม่เต็มใจยอมรับนาง ส่วนหนึ่งน่าจะด้วยฐานะของนางเป็นแน่แท้

องค์หญิงฉี่เคอได้คิดไว้ล่วงหน้าแล้วว่าขอเพียงท่านราชครูพิชิตหนานเจียงได้สำเร็จ นางก็เต็มใจที่จะสละบัลลังก์หนานเจียงอ๋องซึ่งอยู่ใกล้เพียงเอื้อมนี้เสีย ยินยอมพร้อมใจเข้าจวนราชครูเว่ยไปเป็นอนุคนหนึ่งเพื่อแสดงความรักความจริงใจของนางที่มีต่อเขา

ท่านราชครูที่ขจัดข้อกังขาในเรื่องฐานะของนางออกไปได้แล้วต้องยอมรับนางอย่างแน่นอน! สำหรับองค์หญิงแห่งต้าเว่ยผู้นั้น…องค์หญิงฉี่เคอกลับไม่ได้เก็บเอามาใส่ใจเลยสักนิด รูปลักษณ์ของอีกฝ่ายไม่เลวเลย เหมือนกับพี่ชายที่เป็นฮ่องเต้นั่นล่ะ ทำให้คนเห็นแล้วอดทึ่งตะลึงในความงามไม่ได้ แต่น่าเสียดายที่สถานะขององค์หญิงหย่งอันนั้นน่ากระอักกระอ่วนใจยิ่งกว่านางที่เป็นองค์หญิงแห่งหนานเจียงเสียอีก แล้วท่านราชครูผู้มีปณิธานหมายมาดจะปกครองใต้หล้าจะรักองค์หญิงหย่งอันอย่างจริงใจได้อย่างไรกัน

บุรุษเช่นเว่ยเหลิ่งเหยานี้ก็เหมือนภูผาสูงเสียดฟ้าไกลเกินเอื้อม ไม่มีสตรีคนใดคู่ควรที่จะยืนเคียงบ่าเคียงไหล่กับเขาได้เลย แต่นางเป็นถึงองค์หญิงผู้สูงศักดิ์สง่างามแห่งหนานเจียง อายุสิบสามปีก็ช่วยบิดาดูแลบ้านเมืองแล้ว ประสบการณ์และกลยุทธ์ต่างๆ ล้วนแล้วแต่ยอดเยี่ยมไม่แพ้ผู้ใดก็ว่าได้ แล้วองค์หญิงแห่งต้าเว่ยที่ผอมกะหร่องดูเหยาะแหยะผู้นั้นจะคู่ควรกับบุรุษผู้สง่าผ่าเผยเช่นนี้ได้หรือ ครั้นคิดดังนี้องค์หญิงฉี่เคอก็ยิ่งทวีความมั่นใจในตนเองขึ้นไปอีก จึงสงวนท่าทีหยิ่งผยองอวดดีของตนเอาไว้และเริ่มเลียนแบบนายหญิงสาม ฝึกปรือความอ่อนโยนเอาใจใส่ในการดูแลชีวิตประจำวันของราชครูเว่ยให้มากขึ้น

ราชครูเว่ยกลับหงุดหงิดอยู่สักหน่อย จึงปัดมือทั้งสองข้างขององค์หญิงฉี่เคอที่ยื่นมาให้พ้นตัวไปด้วยความรำคาญ หากไม่ใช่เพราะตอนนี้ยังต้องพึ่งพาองค์หญิงฉี่เคอในการประสานงานกับชนเผ่าต่างๆ ในหนานเจียงแล้วล่ะก็ เขาก็อยากจับนางโยนออกไปนอกกระโจมให้รู้แล้วรู้รอดจริงๆ

ขณะที่ราชครูเว่ยกำลังจะหมดความอดทนและเตรียมลงมือทำอะไรบางอย่างอยู่นั้นเอง จู่ๆ เขาก็ได้รับสารจากกั่วเอ๋อร์ซึ่งทำให้หัวใจของเขาผ่อนคลายขึ้นเล็กน้อย หลังจากสั่งให้องค์หญิงฉี่เคอออกไปอย่างเฉยเมยเย็นชาแล้ว เขาก็คลี่สารฉบับนั้นออกดู เจ้ากั่วเอ๋อร์ผู้นี้เพียงวาดภาพเรือเล็กรูปทรงแปลกประหลาดมาลำหนึ่ง ซึ่งมีลักษณะคล้ายกับเรือจู่โจมขนาดย่อมที่เรียกว่า ‘เรืออาชาแดง’ ลักษณะเด่นของเรือรบประเภทนี้คือแล่นได้เร็วประดุจม้าที่วิ่งบนแผ่นดินเลยทีเดียว

ราชครูเว่ยนึกขันในใจ กั่วเอ๋อร์ช่างอยู่ไม่สุขเสียจริง อยู่ว่างๆ ในตำหนักไม่ได้เลย อุตส่าห์คิดเรื่องนี้ขึ้นมาอีกจนได้ หลายวันมานี้เขาก็เฝ้าครุ่นคิดถึงเรื่องการสู้รบทางน้ำทั้งวันทั้งคืน เหตุใดจะไม่นึกถึงการใช้เรืออาชาแดงได้เล่า

Comments

comments

No tags for this post.
Continue Reading

More in ทดลองอ่าน

บทความยอดนิยม

everY

ทดลองอ่าน เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 Chapter 2.1-2.2 #นิยายวาย

ทดลองอ่าน เรื่อง เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 ผู้เขียน : MINTRAN แปลโดย : ทันบี ผลงานเรื่อง : 배타적 연애 금지구역 ถือเป็นลิขสิทธิ์...

ชาตินี้ข้าจะรักท่านให้มาก

ทดลองอ่าน ชาตินี้ข้าจะรักท่านให้มาก บทที่ 67-68

บทที่ 67 ถึงจะเป็นช่วงพักกลางวัน ทว่าหวาหยางกลับไม่อาจข่มตาหลับ นางนอนอยู่บนเตียงร่วมกับชีฮองเฮา ประเดี๋ยวก็พูดจาอิงแอบอ...

ทดลองอ่าน

ทดลองอ่าน สานวาสนากับท่านอาของอดีตคู่หมั้น บทที่ 71-73

บทที่ 71 จีเสวียนเค่อใช่ว่าจะมีวรยุทธ์เก่งกาจ ทว่าเขาพาคนมามากมาย คนจากสำนักบูรพาเห็นสถานการณ์ไม่สู้ดีนักจึงล่าถอยอย่างร...

ทดลองอ่าน

ทดลองอ่าน สานวาสนากับท่านอาของอดีตคู่หมั้น บทที่ 80-81

บทที่ 80 เสียงของกู้เจี้ยนหลีค่อยๆ เบาลงเรื่อยๆ ถึงท้ายประโยคก็แทบไม่ได้ยินแล้ว นางก้มหน้าลง มือกำชายเสื้ออย่างเก้อกระดา...

ทดลองอ่าน

ทดลองอ่าน สานวาสนากับท่านอาของอดีตคู่หมั้น บทที่ 74-76

บทที่ 74 กู้เจี้ยนหลีละล่ำละลักพูด “หากยังไม่กลับอีกจะสายเกินไปแล้ว ท่านพ่อ ครั้งหน้าลูกจะไปเยี่ยมที่จวนอ๋องนะเจ้าคะ จี้...

community.jamsai.com