ได้ยินผู้เฒ่าเจ้าที่กล่าวเช่นนี้ในใจของเหมยหรูเซียนก็เต็มไปด้วยความซาบซึ้งใจ เทพน้อยแห่งเคราะห์ช่างสมกับเป็นสหายที่ดีที่สุดในแดนเซียนของนาง เสี่ยงต่ออันตรายที่จะถูกจับได้มาช่วยนาง
น้ำใจของเทพน้อยแห่งเคราะห์นางจดจำไว้แล้ว รอนางกลับไปแดนเซียนเมื่อไร จะต้องตอบแทนเทพน้อยแห่งเคราะห์ให้เต็มที่เป็นแน่
เหมยหรูเซียนสูดลมหายใจเข้าลึกๆ ผ่อนคลายความรู้สึกซาบซึ้งในใจลง ก่อนจะพยักหน้าบอก “ข้ารู้แล้ว”
“เทพน้อยแห่งหายนะ ท่านเข้าใจความตั้งใจดีของเทพน้อยแห่งเคราะห์ก็ไม่เสียแรงที่นางเสี่ยงภัยเอาเหอเปาของท่านออกมา ถ้าไม่มีเรื่องอื่นใด ข้าก็ขออำลาแล้ว”
“อ้อ ช้าก่อน ผู้เฒ่าเจ้าที่ ละแวกใกล้เคียงมีของป่าอะไรที่มีค่าพอจะขายเอาเงินได้หรือไม่ อย่างเช่นโสมอะไรพวกนั้น”
“ของพวกนี้ต้องเข้าไปในป่าลึกจึงจะมี ละแวกใกล้เคียงไม่มี เทพน้อยแห่งหายนะ ท่านจะเอาโสมไปทำอะไรหรือ” ผู้เฒ่าเจ้าที่ถาม
“ขายเอาเงินสิ เจ้าน่าจะรู้สถานการณ์ของหมู่บ้านแห่งนี้กับเรื่องท่านแม่ของข้า ข้าจะต้องหาเงินพาท่านแม่กับน้องชายย้ายออกมา”
ผู้เฒ่าเจ้าที่ลูบๆ เคราขาวโพลนของตนพลางพยักหน้าอย่างเข้าใจ “เทพน้อยแห่งหายนะ ที่นี่แม้จะไม่มีโสม ทว่าเดินจากตรงนี้ขึ้นไปมีศาลเทพแห่งขุนเขาที่มีประวัติยาวนานหลายร้อยปีแห่งหนึ่ง เพิ่งถูกทิ้งร้างมาได้สิบกว่าปี ด้านหลังรูปปั้นเทพมีเห็ดหลิงจือร้อยปีอยู่ดอกหนึ่ง”
“ศาลเทพแห่งขุนเขา”
“ใช่ รูปปั้นเทพผุพังแล้ว ตรงด้านหลังศีรษะมีเห็ดหลิงจือใหญ่อยู่ดอกหนึ่ง ท่านไปเด็ดเอามาได้ แก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าไปก่อน แต่…” ดวงตาชราที่เฉียบแหลมของผู้เฒ่าเจ้าที่มองไปยังข้อมือนาง “แต่เทพน้อยแห่งหายนะ ท่านมีสิ่งล้ำค่าอยู่กับตัวอยู่แล้ว ไม่จำเป็นต้องกังวลปัญหาเรื่องการดำรงชีวิตแม้แต่น้อย”
“ข้ามีสิ่งล้ำค่าอยู่กับตัว?” สิ่งล้ำค่าของนางเหลือเพียงเหอเปาแห่งหายนะ และเหอเปาใบนี้ก็มีผลต่อการเรียกคืนคำสาปเท่านั้น
“เทพน้อยแห่งเคราะห์บอกว่ากำไลไม้ที่นางมอบให้ก่อนหน้านี้ก็คือสิ่งล้ำค่า ตอนท่านเข้ามาอยู่ในร่างนี้ กำไลไม้ได้เข้ามาซุกซ่อนอยู่ในดวงวิญญาณของท่าน ท่านลองนึกถึงรูปร่างลักษณะของกำไลไม้ เรียกกำไลไม้ออกมา ข้างในนั้นมีพื้นที่อยู่แห่งหนึ่ง ท่านเพียงหลับตานึกถึงอย่างจดจ่อ ก็จะเข้าไปได้”
เหมยหรูเซียนหวนนึกอยู่ครู่หนึ่ง กำไลไม้ก็ปรากฏขึ้นมาบนข้อมือจริงๆ นางมองกำไลไม้ที่ดูธรรมดาไม่มีอะไรแปลกประหลาด นึกไม่ถึงว่าจะมีคุณสมบัติเช่นนี้อยู่ วันที่นางจะลงมาสู่แดนมนุษย์ ตอนเทพน้อยแห่งเคราะห์ไล่ตามมาดูเหมือนจะเคยบอก แต่ช่วงที่ผ่านมานางใจคออึดอัดกลัดกลุ้มสับสนวุ่นวาย ลืมเรื่องกำไลไม้ไปเสียสนิท เมื่อผู้เฒ่าเจ้าที่เอ่ยเตือน นางจึงนึกขึ้นได้
“ข้าจะลองดู” นางหลับตานึกถึงอย่างจดจ่อครู่หนึ่ง แล้วพูดในใจ ข้าจะเข้าไป
จากนั้นร่างพลันไปอยู่ที่ใต้ต้นไม้ใหญ่ที่มีใบเขียวชอุ่มต้นหนึ่ง ไม่ไกลจากที่นั่นยังมีต้นไม้ที่ติดผลส่งกลิ่นหอมหวานโชยมาอยู่หลายต้นทำให้นางอดตื่นเต้นดีใจไม่ได้
ทว่าข้างนอกยังมีเหมยชิงหยวนอยู่ ถ้าจู่ๆ นางเกิดหายตัวไป จะต้องทำให้เขาตกใจมาก นางรีบเด็ดผลไม้ไปหลายลูก แล้วร้องว่า “ออกไป” ร่างก็ออกมาอยู่ข้างศาลเจ้าที่แล้ว
ผู้เฒ่าเจ้าที่ยิ้มพลางผงกศีรษะด้วยความพอใจ “ดูเหมือนท่านจะได้พบสิ่งมหัศจรรย์ในพื้นที่แห่งนั้น”
“มีหรือไม่ข้าไม่รู้ ข้าเป็นห่วงว่าน้องชายไม่เห็นข้าจะร้องไห้ จึงเพียงเด็ดผลไม้ไม่กี่ลูกก็รีบออกมา” นางยัดผลไม้สามลูกที่ต่างชนิดกันใส่มือผู้เฒ่าเจ้าที่ “ผลไม้นี่ท่านเอาไปกินเถิด ได้กลิ่นหอมมาก รสชาติเป็นอย่างไรก็ไม่รู้”
ผู้เฒ่าเจ้าที่มองผลไม้เซียนสามลูกด้วยสีหน้าดีอกดีใจยิ่ง รีบเอาเก็บไว้ในแขนเสื้อพลางกล่าวยิ้มๆ “ขอบคุณเทพน้อยแห่งหายนะ”
“เอาล่ะ ข้าไปก่อนล่ะ จริงสิ เห็ดหลิงจือต้นนั้นเจ้าช่วยเฝ้าไว้ให้ข้าให้ดี อย่าให้คนอื่นมาเด็ดเอาไปก่อน ข้าจะหาเวลาสักวันมาเด็ด”
“เทพน้อยแห่งหายนะท่านวางใจเถิด ข้าจะดูแลอย่างดี”
“ดี ข้าไปล่ะ”