เฮ่อซื่อที่ถูกทุบตีจนนอนฟุบอยู่กับพื้นคล้ายอยากไปดูกับตาตนเองว่าข่าวนี้จริงหรือไม่ พลันกระโดดขึ้นจากพื้นแล้วพุ่งไปที่ลานด้านหลังทันที
จย่าอิ๋งชุนที่คุกเข่าร้องไห้อยู่กับพื้นก็รีบเช็ดน้ำตาที่ไหลอาบหน้าแล้ววิ่งไปที่ลานด้านหลัง ในเวลานี้นางคิดว่าบุตรสาวตายไปเสียยังจะดีกว่า แต่งงานเพื่อแก้ดวงให้ผู้อื่นเกิดปะทะถูกดีร้ายอะไรขึ้นมา อนาคตของบุตรสาวย่อมมีชีวิตดั่งอยู่ในนรก บุตรสาวของนางเพิ่งอายุสิบสี่ ชีวิตยังอีกยาวไกล!
หลงจู๊เกาที่อยู่ด้านนอกก็ตระหนักว่าเหตุการณ์ไม่ดีแล้ว จึงรีบตามเข้าไปดูให้รู้แน่ เห็นอยู่ว่ากำลังจะดำเนินการตามคำสั่งนายท่านลุล่วงอยู่แล้ว เหตุใดคนจู่ๆ ก็มาตายลงได้ แล้วจะให้เขากลับไปชี้แจงอย่างไร
คนสกุลจย่าที่เหลือก็รีบวิ่งไปดูให้แน่ชัด มีทั้งคนที่รู้สึกว่าเรื่องเกี่ยวพันกับเงินห้าสิบตำลึงกับของหมั้นหนึ่งคันรถ และมีทั้งคนที่เป็นห่วงด้วยความบริสุทธิ์ใจ
คนทั้งกลุ่มเบียดเสียดเข้าไปในกระท่อม สิ่งที่เห็นก็คือร่างของเหมยหรูเซียนนอนแน่นิ่งอยู่กับพื้น ไม่มีลมหายใจแล้วจริงๆ
จย่าอิ๋งชุนผลักทุกคนออกแล้วพุ่งเข้าไปกอดบุตรสาว ร้องไห้คร่ำครวญราวหัวใจจะแตกสลาย “หรูเซียน ลูกสาวที่ว่านอนสอนง่ายของแม่…”
เฮ่อซื่อกลับโกรธจนชี้หน้าเหมยหรูเซียนด่าว่าเสียงดัง “นางเด็กสมควรตาย! ดาวหายนะชัดๆ ไม่ตายช้าไม่ตายเร็ว คุณชายซุนฝังไปแล้วเจ้าถึงตาย จงใจกลั่นแกล้งพวกเราสกุลจย่า เจ้าคงไม่ต้องการเห็นสกุลจย่าเราสุขสบายกระมัง”
ผู้เฒ่าจย่าที่เดิมทีก็หงุดหงิดโมโหว่าเหมยหรูเซียนมาเพิ่มความยุ่งยากให้ที่บ้านอยู่แล้ว พอได้ยินคำด่าว่าของเฮ่อซื่อก็ไม่พอใจขึ้นมาทันที เห็นว่าหลานสาวคนนี้จงใจทำให้พวกเขาไม่ได้เงินมา ทำให้เงินหลุดลอยไปต่อหน้าต่อตาพวกเขาครั้งแล้วครั้งเล่า
ไม่ว่าจะเป็นสิบตำลึงหรือห้าสิบตำลึงก็ล้วนเป็นเงินจำนวนมาก เหมยหรูเซียนนางเด็กต่ำช้าผู้นี้ถึงกับทำให้พวกเขาไม่อาจรับเงินมาได้แม้แต่ครั้งเดียว เจตนาทำให้ตาแก่อย่างเขาโมโหชัดๆ
“สะใภ้รอง เจ้าพูดเช่นนี้ได้อย่างไร!” จย่าต้าหลางเอ่ยปากตำหนิเฮ่อซื่อ
ทว่าผู้เฒ่าจย่าก็ตวาดขึ้นทันที “หุบปาก! หรือว่าสะใภ้รองพูดผิด คนสกุลเหมยจงใจมาสร้างภัยพิบัติให้สกุลจย่าเรา”
“ท่านพ่อ!”
หลงจู๊เกาที่มองพวกเขาอย่างเย็นชามาโดยตลอดส่งเสียงกระแอมขึ้นก่อนจะกล่าว “ข้าไม่สนใจว่าในบ้านของพวกเจ้ามีบุญคุณความแค้นหรือข้อพิพาทอะไรกัน เวลานี้คนตายแล้ว ย่อมต้องให้คำอธิบายกับข้า”
“คำอธิบาย? คำอธิบายอะไร เราไม่ได้รับของหมั้นของท่าน ยังจะมีอะไรต้องอธิบาย” จย่าต้าหลางพูดเสียงดัง
“พวกเจ้าไม่ได้รับของหมั้นที่ข้านำมา แต่จย่าเอ้อร์หลางรับเงินข้าไปสามสิบตำลึงทั้งรับรองว่าเรื่องนี้จะต้องสำเร็จ ในเมื่อเรื่องล้มเหลวแล้ว เงินสามสิบตำลึงไม่ใช่สมควรคืนให้ข้าหรอกหรือ” หลงจู๊เกาปั้นหน้าเคร่งขรึมมองผู้เฒ่าจย่าด้วยแววตาเยียบเย็น
เมื่อหลงจู๊เกาพูดออกมาเช่นนี้ คนสกุลจย่าที่อยู่ในกระท่อมทั้งหมดต่างตะลึงงัน
สามสิบตำลึง! จย่าเอ้อร์หลางถึงกับรับเงินสามสิบตำลึงเป็นค่าวิ่งเต้นทำงานให้ผู้อื่น พวกเขาไม่มีใครรู้เรื่องนี้!
ผู้เฒ่าจย่าเหลือบมองไปทางซ้ายขวาหาเงาร่างของจย่าเอ้อร์หลาง ทว่ากลับไม่เห็นตัวเขา ก่อนหน้านี้เขายังอยู่ในบ้าน เวลานี้ถึงกับหายตัวไปแล้ว!
ผู้เฒ่าจย่านึกขึ้นมาได้ว่านับตั้งแต่หลงจู๊เกาหยิบสัญญาซื้อขายออกมา จย่าเอ้อร์หลางก็หายตัวไป ปล่อยให้ภรรยาทะเลาะตบตีกับผู้อื่นอย่างไม่สนใจไยดี
“เอ้อร์หลาง เอ้อร์หลางเล่า ท่านพ่อ นี่เป็นเรื่องที่เอ้อร์หลางก่อขึ้น ท่านรีบเรียกเขาออกมา เอาเงินสามสิบตำลึงคืนให้หลงจู๊เกา” จย่าต้าหลางกวาดตามองหาจย่าเอ้อร์หลางไปทั่ว
จย่าซานหลางไปตรวจดูที่ห้องของพี่รองของเขา “ท่านพ่อ พี่รองไม่อยู่ในห้องของพวกเขา”
หลงจู๊เกาหัวเราะเสียงเย็นออกมาสองคำ “ดูท่าจย่าเอ้อร์หลางคงอมเงินของข้าไปแล้ว ข้าไม่สนใจว่าเขาจะเป็นคนคืนเงินข้าหรือไม่ พวกเจ้าคนสกุลจย่ารับเงินของข้าไปแล้วก็ต้องยอมรับทราบบัญชี ถ้าไม่ยอมรับก็มอบตัวจย่าเอ้อร์หลางมาให้ข้า เงินของข้าผู้แซ่เกาหาใช่จะอมได้ง่ายๆ”
พอได้ยินว่าต้องชดใช้เงินสามสิบตำลึง ผู้เฒ่าจย่าก็มีเหงื่อเย็นซึมออกมาทั่วร่าง เงินสามสิบตำลึงแทบจะเป็นทรัพย์สินที่สะสมมาทั้งหมดของบ้านสกุลจย่า จะควักออกมาง่ายๆ ได้อย่างไร
คนในหมู่บ้านที่พากันมาชมเรื่องสนุกที่ข้างกำแพงบ้านด้านหลังเริ่มส่งเสียงวิพากษ์วิจารณ์กันเซ็งแซ่ ที่แท้เป็นเช่นนี้เอง ก่อนหน้านี้พวกเขายังแปลกใจว่าเหตุใดหลงจู๊เกาจะต้องให้เหมยหรูเซียนไปแต่งงานเพื่อแก้ดวงให้ผู้อื่น
นี่ก็เพราะจย่าเอ้อร์หลางไปหลอกลวงผู้อื่น ขายหลานสาวของตนเพื่อความร่ำรวยมีหน้ามีตา เรื่องยังไม่สำเร็จก็ไปเรียกร้องผลประโยชน์จากผู้อื่น รับเงินของเขามาแล้ว ทว่าตอนนี้เรื่องล้มเหลวและไม่มีเงินใช้คืน จึงรีบทาน้ำมันที่ใต้ฝ่าเท้าหนีไปแล้ว