เหมยหรูเซียนเดินไปตามทางที่ผู้เฒ่าเจ้าที่ชี้บอก ไม่ผิดจากที่คาด ครู่เดียวก็พบไก่ป่าสองตัวที่ตกอยู่ในหลุมดักสัตว์ ในนั้นยังมีกระต่ายน้อยสีเทาอีกตัวหนึ่ง
นางจับไก่ป่าขึ้นมาและใช้เชือกที่ฟั่นจากหญ้ามัดให้ดี กระต่ายน้อยสีเทาเอาไว้ในพื้นที่ลับพากลับไปให้เหมยชิงหยวนเล่น จากนั้นก็ปิดคลุมหลุมดักสัตว์ใหม่ แล้วจึงหิ้วไก่ป่าเดินกลับไปที่ศาลเทพแห่งขุนเขา
ระหว่างทางเดินกลับ นางเห็นบนลำต้นไม้ที่เน่าเปื่อยมีเห็ดป่าขึ้นอยู่ จึงเด็ดติดมือไปด้วย ตอนใกล้ถึงก็เด็ดผลไม้จากในพื้นที่ลับในกำไลออกมาหลายลูก ทั้งใช้กระบอกไม้ไผ่ใส่น้ำพุจากข้างในไปอีกสองกระบอก
“ท่านแม่ หยวนเอ๋อร์ ข้ากลับมาแล้ว”
สองแม่ลูกนอนอยู่บนกองหญ้าแห้งพริ้มตาหลับไปครู่หนึ่ง พอนางร้องเรียกก็ตื่นขึ้นทันที
เมื่อลืมตาขึ้นมาเห็นไก่ป่ากับผลไม้อยู่ตรงหน้า ต่างก็ประหลาดใจจนแทบพูดไม่ออก
“หรูเอ๋อร์…เหตุใดจึงมีไก่ป่าได้” จย่าอิ๋งชุนอดกลืนน้ำลายลงคออึกใหญ่ไม่ได้
“ข้าเพิ่งจะออกไปหาอาหาร ก็เจอเข้าที่หลุมดักสัตว์” เหมยหรูเซียนเอาไก่ป่ายื่นให้มารดา
“หลุมดักสัตว์? หรูเอ๋อร์ หลุมดักสัตว์ต้องมีคนวางไว้ เจ้าไปเอามาส่งเดชได้อย่างไร”
“ท่านแม่ ท่านวางใจเถิด ข้าดูแล้ว ในหลุมดักสัตว์นั่นมีสัตว์ที่ตายแล้วอยู่ไม่น้อย ไม่มีคนมาเก็บ ไม่รู้เพราะสาเหตุใด ดูเหมือนคนผู้นั้นจะไม่ต้องการหลุมดักสัตว์นี้แล้วกระมัง”
“ถ้าเป็นเช่นนั้นก็ดี” จย่าอิ๋งชุนถอนหายใจด้วยความโล่งอก นางไม่อยากให้เพราะไก่ป่าสองตัวก็ทำให้เกิดเรื่องเกิดราวอะไรขึ้นมาอีก
“หยวนเอ๋อร์ มา เจ้าดูพี่เอาอะไรกลับมาให้เจ้า” นางเอากระต่ายน้อยตัวนั้นออกมาจากอกเสื้อ
เหมยชิงหยวนเบิกตาโตด้วยความตื่นเต้นดีใจ มองกระต่ายน้อยสีเทาที่นางประคองอยู่ในอุ้งมือ “ให้ข้าหรือ พี่สาว เราอย่ากินกระต่ายน้อยได้หรือไม่”
“อืม ไม่กิน ให้หยวนอ๋อร์จะได้เป็นสหายที่ดีของหยวนเอ๋อร์”
จย่าอิ๋งชุนมองไก่ป่าสองตัวในมืออย่างกลัดกลุ้ม “หรูเอ๋อร์ มีไก่ให้กินดีมาก แต่เราไม่มีอะไรฆ่าไก่ ที่นี่ก็ไม่มีหม้อให้ต้ม…”
“ท่านแม่ ท่านไม่ต้องเป็นห่วง ข้าจะจัดการเอง ท่านไปเอาดินมาคลุกทำเป็นโคลนสักหน่อย จากนั้นก็ก่อกองไฟ เราทำไก่ขอทาน* กัน ไม่ต้องใช้หม้อและไม่ต้องถอนขน” เหมยหรูเซียนหาหินที่เรียบแบนและมีความคมมาก้อนหนึ่ง ก่อนจะจัดการเชือดคอไก่ป่า
“ไก่ขอทาน?”
“ใช่แล้ว กล่าวกันว่าไก่ขอทานรสชาติดียิ่ง ขอทานผู้หนึ่งเป็นคนคิดทำขึ้น ครั้งหนึ่งข้าไปหาผักหญ้าให้หมูบังเอิญไปได้ยินคนพูดถึงวิธีทำ วันนี้เรามาลองทำกันดู” นางบอกวิธีทำคร่าวๆ กับมารดา
เพียงชั่วประเดี๋ยวเดียวจย่าอิ๋งชุนก็ก่อกองไฟขึ้นมา นางกล่าวยิ้มๆ “เอาดินโคลนพอกก็เสร็จแล้ว สะดวกยิ่งนัก”
ตอนนี้ในมือพวกนางไม่มีเครื่องมือหุงต้ม กระทั่งหม้อสักใบก็ไม่มี จำต้องทำเช่นที่บุตรสาวบอก ไม่ว่าอร่อยหรือไม่ ขอเพียงทำให้เนื้อไก่สุกเป็นใช้ได้ สภาพของพวกนางในเวลานี้ได้กินอิ่มก็นับว่าไม่เลวแล้ว
“ท่านแม่ ข้าเด็ดผลไม้จากในป่ามาหลายผล ท่านกับหยวนเอ๋อร์ไปกินก่อน ไก่นี่ข้าจะจัดการเอง” เหมยหรูเซียนเริ่มเอาดินโคลนพอกตัวไก่ป่า และวางไว้ในกองไฟ
นางถือโอกาสนี้เอาเห็ดสดที่เก็บกลับมาและล้างสะอาดแล้วใส่ไว้ในกระบอกไม้ไผ่ที่ใส่น้ำจากน้ำพุในพื้นที่ลับ วางพิงกับกองไฟเป็นการต้มน้ำแกง
ผลไม้รสชาติดีจนจย่าอิ๋งชุนแทบจะกลืนลิ้นตนเองลงไปด้วย นางเอาเมล็ดที่กินเหลือมาถาม “หรูเอ๋อร์ ผลไม้นี่เจ้าเด็ดมาจากที่ใดหรือ หวานมากอร่อยมาก ชั่วชีวิตของแม่ยังไม่เคยกินผลไม้อร่อยเช่นนี้มาก่อน”
“เด็ดมาจากที่ใด…ข้าก็จำไม่ค่อยได้ เดินไปเด็ดไป หากท่านแม่ชอบกินคราวหน้าข้าจะตั้งใจจดจำไว้” เหมยหรูเซียนหาคำพูดไปเรื่อยเปื่อยอย่างพอขอไปที กลัวจย่าอิ๋งชุนจะถามมาก จึงแสร้งทำเป็นว่าตนเหนื่อยแล้ว ก่อนจะเดินเข้าไปในศาลเทพแห่งขุนเขา “ท่านแม่ ข้ารู้สึกเหนื่อย อยากจะไปนอนพักสักประเดี๋ยว ไก่ขอทานนั่นท่านไม่ต้องสนใจ ต้องอบอีกระยะหนึ่ง ท่านกับหยวนเอ๋อร์หิวแล้วก็กินผลไม้รองท้องไปก่อน”