ได้เห็นเงารูปร่างผอมบางประดุจผีเร่ร่อนกำลังซวนเซห่างออกไป เซียวอี้เหรินนึกว่าเขาจะบังเกิดความรู้สึกดีใจ สะใจกับชัยชนะ แต่ไม่รู้ว่าเหตุใดเขารู้สึกเพียงใจที่บีบรัดแน่นมากมาย แน่นเสียจนเจ็บปวดหนึบ
“ท่านแม่ทัพใหญ่ ท่านเป็นอะไรหรือ” มือของกู่เหยาเอ๋อร์กำลังโบกไปมาอยู่ตรงหน้าเขา “เหตุใดจึงไม่พูดอะไร”
เขาได้สติขึ้นมาก็ฝืนยิ้มบางๆ ออกไป “หิมะตกหนักแล้ว เราเข้าไปข้างในกันเถอะ”
“แต่ว่าข้าอยากเล่นสงครามหิมะ…” เมื่อกู่เหยาเอ๋อร์เห็นสีหน้าของเขา ท่าทางกระเง้ากระงอดพลันหายไปในบัดดลแล้วรีบพยักหน้าพลางเอ่ยออกมา “ก็ได้ รู้สึกหนาวขึ้นมานิดหน่อยแล้ว”
เขาพยักหน้ารับ ใบหน้างามสง่าเคร่งขรึมเพราะเผลอหลุดไปอยู่ในห้วงความคิด ฝ่ามือใหญ่ประคองข้อศอกนางเดินออกไปจากสวนดอกเหมย
กู่เหยาเอ๋อร์รู้สึกถึงท่าทางแปลกประหลาดของเขา อยากจะพูดอะไรออกไปแต่กลับค่อยๆ กลืนคำพูดลงไปเสีย
ท่านแม่ทัพใหญ่มักจะปฏิบัติตัวกับสตรีด้วยท่าทีเด็ดขาดตรงไปตรงมาอยู่เสมอถึงแม้จะปฏิบัติต่อนางดี แต่ตัวเขามักจะมีความรู้สึกไกลห่างดั่งมีกำแพงสูงอยู่ แม้จะเป็นนางก็ไม่อาจทลายมันลงได้ทั้งหมดและมิอาจฝ่าไปได้ กู่เหยาเอ๋อร์เคยคาดเดาด้วยความรู้สึกอิจฉาอยู่เต็มเปี่ยมว่าผู้ที่อยู่ในส่วนลึกของก้นบึ้งหัวใจของเขานางนั้น บางทีอาจจะเป็นภรรยาที่อยู่ในเมืองหลวงซึ่งห่างไกลกับเขา
แต่หลังจากครั้งนี้ที่ได้มาเห็นด้วยตาตนเองทุกคำพูดทุกการกระทำที่เขามีต่อภรรยา กู่เหยาเอ๋อร์ก็สบายใจได้ในทันที ดีใจที่เป็นเพียงนางคิดไปเรื่อยเปื่อยเอง สตรีที่ท่านแม่ทัพใหญ่ยินยอมให้ชิดใกล้แท้จริงแล้วมีเพียงนางเท่านั้น
มีเพียงนางผู้เดียวที่สามารถอยู่เคียงบ่าเคียงไหล่เขาได้ มีคุณสมบัติที่จะยืนอยู่ข้างกายเขา ไม่ใช่ภรรยาท่านแม่ทัพใหญ่ที่มีแต่ในนามซึ่งอยู่ในจวนกั๋วกงอย่างแน่นอน
เมื่อคิดได้ดังนั้นกู่เหยาเอ๋อร์ก็อดไม่ได้ที่จะยิ้มออกมาด้วยความดีใจ
เซียวเหอซื่อโกรธอยู่หลายวันโดยไม่ยอมพบหน้าลูกชาย ยืนกรานที่จะพักรักษาตัวอยู่ในห้องนอนเพียงเท่านั้น ในทุกๆ เช้าเมื่อเซียวอี้เหรินไปคารวะแสดงความห่วงใยก็จะถูกขวางให้อยู่ด้านนอกกว่าครึ่งชั่วยาม ท้ายที่สุดก็จากไปพร้อมกับถอนหายใจเฮือกใหญ่
“ท่านแม่ ท่านยอมให้ท่านพี่พบหน้าเถิดเจ้าค่ะ” ฟู่เหลียงเฉินรินชาพุทราแดงพร้อมกับยื่นส่งให้แม่สามี หลังจากนั้นก็บีบนวดขาและเท้าให้แม่สามีด้วยความเคยชิน “ชายังร้อนอยู่ ท่านค่อยๆ ดื่มนะเจ้าคะ”
“เจ้าเด็กคนนี้…” นัยน์ตาของเซียวเหอซื่อแดงขึ้นมาพลางสะอื้นเล็กน้อย “ยังจะพูดแก้ตัวให้เจ้าเด็กนิสัยเสียนั่น เจ้าอย่ากังวลใจเลย ต่อให้ข้าตายก็ไม่ยอมให้เขารับสตรีนางนั้นเข้ามา”
นางจิตใจว้าวุ่นอยู่ชั่วครู่ ราวกับได้เห็นฉากหยอกล้อในสวนดอกเหมยนั้นขึ้นมาอีกครา…
ขัดขวางคนได้ แต่ขัดขวางใจได้หรือ