“มุกตาร์ไม่ทันคิดข้อนี้เลยระแวง อย่าโกรธมุกตาร์นะคะ”
ชายหนุ่มพยักหน้ายิ้มๆ โอบเอวหญิงสาวเดินกลับไปที่โซฟาตัวใหญ่ คล้ายจะบอกเป็นนัยว่าเจ้าของมรดกชิ้นโตนั่งอยู่ตรงนี้ แล้วก็เป็นไปตามที่ทุกคนเดากันได้อยู่แล้ว มุกตาร์ครอบครองสมบัติมูลค่าร้อยล้านเวฬ ขณะที่ญาติที่เหลือต่างกลับบ้านมือเปล่า
“ตอนอยู่ก็ไม่คิดสงเคราะห์ใคร ตายไปก็ไม่คิดจุนเจืออีก อีหรอบนี้ไม่พ้นลงนรกแหงๆ” ญาติคนหนึ่งเปรยขึ้นอย่างเสียไม่ได้
มุกตาร์ลุกขึ้นเตรียมจะด่าไล่หลัง แต่คนรักกลับขึงตาห้ามไว้ มุกตาร์จึงรวบยอดความโกรธเกรี้ยวทั้งหมดทั้งมวลลงกับคนคนเดียว
“ไสหัวไปจากบ้านนี้ได้แล้ว…อีขี้ข้า!”
“พี่มุกตาร์อย่าไล่สารินเลยจ้ะ สารินไม่มีที่ไปจริงๆ”
“มึงคิดว่ากูจะทนอยู่ร่วมชายคาเดียวกับฆาตกรฆ่าพ่อแม่ได้รึไง!”
เสียงตวาดแว้ดของมุกตาร์เรียกบรรดาญาติๆ ให้หวนกลับมาที่ห้องโถงได้อย่างรวดเร็วราวกับคนพวกนั้นก็อยากระบายอารมณ์ผิดหวังด้วยการชมละครน้ำเน่าสักฉากเช่นกัน
“สารินไม่ได้ทำร้ายคุณพ่อคุณแม่จริงๆ นะจ๊ะ พี่มุกตาร์อย่าไล่สารินเลย ให้สารินรับใช้พี่มุกตาร์ยังไงก็ได้ สารินไม่มีที่ไปจริงๆ” สารินคุกเข่า พนมมือขอร้อง แต่มุกตาร์กลับยกเท้าถีบจนเธอเซถลาลงไปนอนกับพื้น แต่เพื่อให้ละครฉากนี้ปิดตัวอย่างสมบูรณ์สารินจึงคลานเข้าไปกอดขามุกตาร์ไว้
“พี่มุกตาร์โกรธเกลียดอะไรสารินนัก สารินยอมพี่มุกตาร์มาตั้งแต่เล็ก ไม่ว่าพี่มุกตาร์สั่งให้สารินทำอะไร สารินก็ไม่เคยปฏิเสธ ทำไมถึงจงเกลียดจงชังสารินนัก สารินไม่เหลือใครแล้วนะจ๊ะ”
“งูพิษอย่างมึงมันเลี้ยงไม่เชื่อง มึงฆ่าพ่อกับแม่ กูไม่เอาเลือดหัวมึงออกก็บุญแค่ไหนแล้วอีสาริน!”
มุกตาร์กระชากผมแล้วตบจนหญิงสาวคว่ำไปกับพื้น เรียกเสียงฮือฮาดังขึ้นในหมู่ญาติราวกับพวกเขากำลังเชียร์มวยอยู่ข้างเวที บางคนสะใจ บางคนเห็นใจ แต่ไม่มีใครก้าวเข้ามาช่วยเลยสักคน
“สารินไม่ได้ฆ่าใคร พี่มุกตาร์ก็รู้ดีว่าสารินถูกปรักปรำ สารินไม่มีวันฆ่าลุงการัน สารินติดคุกฟรีถึงสี่ปี แต่สารินก็ยอมปิดปากเงียบตามที่คุณแม่สั่ง สารินยอมทุกอย่างแล้ว พี่มุกตาร์จะเอาอะไรจากสารินอีก”
“อ้อ เดี๋ยวนี้มึงทวงบุญคุณเหรออีสาริน พ่อแม่กูเก็บมึงมาเลี้ยงก็ดีเท่าไรแล้ว แต่มึงไม่เคยสำนึก กลับปล่อยข่าวให้พ่อกูเสียหาย”
“ตอนนั้นสารินเพิ่งสิบสี่ คุณพ่อแอบเข้ามาในห้องจะปลุกปล้ำ สารินตกใจก็เลยคว้าขวดตีหัวพ่อ พอไปถึงโรงพยาบาล พี่พยาบาลเห็นสารินตัวสั่นก็เลยถาม สารินจึงบอกไปตามความจริง”
สารินจงใจตอกย้ำฉากสำคัญให้บรรดาญาติของมุกตาร์หวนนึกถึงความเลวของอรุณ และการตกเป็นเหยื่อของสาริน เพราะในสายตาของชาวลุคน่า สารินคือเด็กสาวกำพร้าน่าสงสารที่ถูกครอบครัวนี้รุมกลั่นแกล้งตั้งแต่เล็กจนโต ข่าวลือแพร่สะพัดไปทั่วว่าสารินเคยถูกอรุณล่วงละเมิดทางเพศ โดยมีรานีและมุกตาร์รู้เห็นเป็นใจ
“อีสารเลว! อีงูพิษเลี้ยงไม่เชื่อง ใครให้ข้าวให้น้ำมึงจนโตแบบนี้ มึงลืมแล้วรึไง”
“สารินไม่ลืมหรอกจ้ะพี่มุกตาร์ ไม่งั้นสารินคงไม่ยอมติดคุกแทนคุณพ่อแบบนี้”
“ใครให้มึงพูดเรื่องนี้ขึ้นมาอีก”
“ก็พี่มุกตาร์พูดขึ้นก่อนนี่จ๊ะ สารินอัดอั้นมานาน ไม่เคยบอกใคร จนวันนี้พี่มุกตาร์พูดขึ้น สารินก็จะพูดให้หมด”
“อี…”
“เล่าต่อเถอะหนู” ญาติคนหนึ่งของมุกตาร์ที่ดูมีอาวุโสพูดขึ้น สารินได้ทีจึงเล่าต่อทันที
“หลังออกจากโรงพยาบาล คุณแม่ก็ไล่สารินไปนอนรวมกับคนงานชายที่ร้านอาหาร ถ้าไม่มีลุงการันคอยปกป้อง สารินก็คงถูกพวกคนงานย่ำยีไปแล้ว แต่เสียดายที่ลุงการันบุญน้อย ต้องตายอย่างอนาถ ถูกคุณพ่อฆ่าตายเพราะคุณพ่อขโมยเงินที่ร้านอาหารแต่ลุงการันจับได้เลยมีปากเสียงจนลุงการันถูกแทง ทว่าคุณแม่กลับบังคับให้สารินยอมสารภาพแทน เวลาอยู่ต่อหน้าศาลหรือคุณตำรวจสารินก็ต้องบอกว่าสารินป้องกันตัวเองเพราะลุงการันจะข่มขืน”
สารินยกมือขึ้นปาดน้ำตา เรียกความเห็นใจจากบรรดาญาติของมุกตาร์จนส่งเสียงฮือฮากันยกใหญ่ เพราะการถูกทำร้ายแบบนี้มากเกินกว่ามนุษย์คนหนึ่งจะทำกันได้ลง
“โธ่! น่าสงสารเหลือเกินลูก”
“อย่าไปเชื่อมันนะคะคุณป้า”
“เท่าที่ป้ารู้มา ป้าก็เห็นแต่มุกตาร์นั่นแหละที่รังแกเด็กคนนี้ ถ้าหนูไม่มีที่ไปจริงๆ ไปอยู่บ้านป้าไหม”
“สารินไม่กล้ารบกวนค่ะ สารินอยากอยู่รับใช้พี่มุกตาร์ ตอบแทนบุญคุณที่คุณแม่ชุบเลี้ยงสารินค่ะ”
มุกตาร์เหลืออด ชี้หน้าด่ากราดบรรดาญาติจอมสาระแน “แล้วพวกมึงรออะไร ไสหัวไปได้แล้ว บ้านนี้ไม่ต้อนรับ ที่มาก็หวังสมบัติกูทั้งนั้น!”