ทดลองอ่าน เรื่องราวของเรากับนาง บทที่ 1 – หน้า 9 – Jamsai
Connect with us

Jamsai

ทดลองอ่าน

ทดลองอ่าน เรื่องราวของเรากับนาง บทที่ 1

“ต้าซือหม่า…”

“หุบปาก”

“ไม่ใช่…เจ้าจะลำบากไปเพื่ออะไร”

“หนังเปิดเนื้อแตก สบายใจตามหลักเหตุผล”

เอ่ยประโยคเหล่านี้ออกมาต่อหน้าสหายสนิทจึงจะนับได้ว่าสบายใจตามหลักเหตุผลอย่างแท้จริง

จ้าวเชียนกอดอกรวบชายเสื้อผ้านั่งลงอย่างดีแล้วเอ่ยอย่างอดทนว่า “บนแผ่นหลังยังมีเนื้อดีอยู่หรือ หลายวันต่อจากนี้หมอหลวงเหมยคงจะออกมาไม่ได้ เจ้าจะรักษาบาดแผลอย่างไร ทนเอาไว้หรือ”

จางตั๋วเอียงตัวไปจุดเตาป๋อซาน เครื่องหอมเผาไหม้อยู่ในท้องเตา ควันไหลลอดออกมาจากกลางรูปทรงภูเขากลวงแล้วลอยวนเข้าแขนเสื้อ ชายหนุ่มทั้งสองจึงมีสีหน้าผ่อนคลายลงเล็กน้อย

“สิบวันก็หาย ไม่ต้องให้เจ้าเป็นห่วงหรอก”

“ถ้าเฉินเซี่ยวอยู่ เจ้าคงไม่พูดเช่นนี้”

เมื่อคำว่า ‘เฉินเซี่ยว’ ออกจากปาก จ้าวเชียนเองก็ตกใจ

เฉินเซี่ยวเสียชีวิตในรัชศกซิงชิ่งปีที่สิบ ในคดีฆ่าล้างสกุลเฉินแห่งเขตตงจวิ้น

ตอนนั้นจางซีทำศพให้เฉินวั่ง โบยตีจางตั๋วอย่างหนักหน้าโลงศพ จากนั้นจางตั๋วยังแบกเอาบาดแผลร้ายแรงไปเก็บศพแทนเฉินเซี่ยวบุตรชายของเฉินวั่งด้วยตนเองอีกด้วย

ทางเหนือของเชิงเขาเป่ยหมางมีสุสานนิรนามแห่งหนึ่ง ที่ฝังไว้ตรงนั้นก็คือชายหนุ่มรูปงามที่เคยมีชื่อเสียงไปทั่วเมืองลั่วหยางผู้นั้น

บนโลกที่ไร้แก่นสารไม่แน่นอน คำว่า ‘อิงสยง’ ที่หมายถึงวีรบุรุษมักจะถูกแยกคำเพื่อให้คำนิยาม

‘อิง’ ในคำว่า ‘อิงสยง’ นี้คือพืชที่เจริญงอกงามแต่ไร้ผล ฟังแล้วทำให้เกิดความเสียดายถึงชีวิตที่กำลังรุ่งเรืองถึงขีดสุดแต่ไร้ซึ่งผลลัพธ์ เฉินเซี่ยวเรียกได้ว่าเป็นความเสียดายในเชิงความหมายนี้

เขตตงจวิ้นที่ผ่านมาเป็นแหล่งกำเนิดหญิงงาม ชายหนุ่มก็ไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากัน

เฉินเซี่ยวมีรูปโฉมงดงามจนไม่อาจหาผู้ใดมาเทียบเทียม สวมอาภรณ์งามหรู หนึ่งคนหนึ่งพิณก็สามารถบรรเลง ‘ลำนำก่วงหลิงซั่น’ ได้แล้ว เพียงเคาะหินเป่าใบไม้ก็สามารถดึงดูดร้อยสกุณาออกมาได้ เขามีชาติกำเนิดจากครอบครัวบัณฑิตผู้มีความรู้ในเขตตงจวิ้น แต่กลับอ่อนน้อมถ่อมตน คนในเมืองลั่วหยางตั้งแต่ราชนิกุลไปจนถึงบ่าวรับใช้ต่ำต้อยต่างชื่นชมรูปลักษณ์และความประพฤติของเขา กระทั่งสิบปีหลังจากการตายของเขาก็ยังคงมีชายหญิงที่ยกย่องชื่นชมเขาเดินทางไปเซ่นไหว้ที่เขาเป่ยหมางอยู่เป็นประจำ

สำหรับจางตั๋วกลับเป็นคนอีกประเภทหนึ่ง

มีชาติกำเนิดในตระกูลชื่อดัง มีตำแหน่งขุนนาง แต่ชีวิตก่อนสิบขวบของคนผู้นี้กลับเป็นปริศนาอันลึกลับ เขาใช้ชีวิตอยู่สถานที่ใด มีชีวิตมาได้อย่างไร แม้แต่จ้าวเชียนเองยังไม่รู้กระจ่าง และเขาก็ไม่ชอบฟังคำวิจารณ์ของผู้ใด ดังนั้นทั่วทั้งเมืองลั่วหยางจึงไม่มีผู้ใดกล้าไปสืบความเกี่ยวกับอดีตของเขา และยิ่งไม่กล้าเอาเขามาพูดวิจารณ์

เขาทำลายสายเลือดสกุลเฉิน แต่ฝังศพแทนเฉินเซี่ยวด้วยตนเอง

เมื่อเผชิญหน้ากับการกระทำย้อนแย้งนี้ จะตำหนิว่าเขาละโมบในชื่อเสียงอันดีงามหรือ

ก็ได้ จะคิดว่าเขามีความเวทนาต่อเฉินเซี่ยวก็ได้ จะคาดเดาว่าเขาถูกจางซีควบคุม ถูกบังคับให้ทำก็ได้อีกเช่นกัน

คำวิจารณ์มีมากมาย แต่เมื่อเขาเดินไปบนถนนถงถัว ทุกคนกลับเงียบเสียง

ด้วยเหตุนี้เขาจึงสังหารคนอย่างไม่ปิดบัง และรับโทษรับความอัปยศต่อหน้าป้ายวิญญาณสกุลเฉินอย่างไม่ปิดบังเช่นกัน หลังจากนั้นก็เดินอยู่ในเมืองลั่วหยางอย่างเปิดเผยต่อไป เต็มไปด้วยคราบเลือดและกลิ่นอายแห่งความชั่วร้ายทำให้คนต้องถอยห่าง

“เจ้าจะหาเรื่องข้าใช่หรือไม่”

คำพูดที่เย็นชาไปถึงดวงตานี้กระแทกใส่จ้าวเชียนให้ดึงสติกลับมาทันใด

เขารีบยกน้ำชาขึ้นดื่มหนึ่งอึกแล้วลุกขึ้นยืน “ข้ากลับค่ายทหารรักษาพระองค์ไปรับโทษล่ะ ลาก่อน” พูดจบก็ก้าวยาวจากไป

คนข้างหลังไม่ได้เงยหน้าขึ้นเช่นกัน “หยุดตรงนั้น”

จ้าวเชียนเดินอ้อมฉากบังตาไปแล้ว ได้ยินคำพูดนี้ก็ทำเพียงเดินถอยกลับมาแต่ไม่ได้หันหน้ามา พูดกับฉากบังตาหยกสลักร้อยสกุณานั้น

“ได้ ข้าไม่ควรพูดถึงคนคนนั้น แต่เขาตายไปสิบปีแล้ว ต้นสนเตี้ยข้างสุสานนิรนามเขาเป่ยหมางสูงเสียดฟ้าแล้ว ชาตินี้ต่อให้ชื่อเสียงของเขางดงามแล้วอย่างไร จุดจบกำหนดไว้แล้ว สุดท้ายก็เทียบเจ้าไม่ได้ เจ้าชนะเขาไม่ใช่เพียงครึ่งตัวหมาก เจ้ายังจะยึดติดอะไรอีก”

นี่ไม่เชิงเป็นการยึดติด แต่เป็นการรับรู้ของมนุษย์ที่ซับซ้อนยิ่งกว่า

จ้าวเชียนพูดจบแล้ว สิ่งที่ได้กลับมาคือความเงียบเป็นเวลานานของคนข้างหลัง

ควันในเตาป๋อซานรวมตัวกันที่ส่วนฐาน มีไอน้ำพวยพุ่งออกมาราวกับหมอกควันแห่งเทพ ลอยวนรอบโต๊ะน้ำชา

“ไม่มีอะไรจะพูดแล้วหรือ” จ้าวเชียนถาม “ถ้าอย่างนั้นข้าไปล่ะ

พูดจบก็เดินไปอีกหลายก้าว แต่พลันนึกอะไรขึ้นได้จึงหยุดชะงัก หมุนตัวแล้วล้วงขวดกระเบื้องใบหนึ่งออกจากข้างเอวโยนให้อีกฝ่าย “การลงโทษตามกฎบ้านในสกุลจางของพวกเจ้าไม่รู้หนักเบา ข้าไม่ใช้แล้ว เจ้าเอาไปจัดการแผลเถอะ ใช้ดีกว่าสุราดีงูของเจ้าอยู่บ้าง”

จางตั๋วยกมือรับไว้แล้วโยนกลับไปทันที “ดูแลตัวเจ้าเองให้ดีเถอะ”

จ้าวเชียนเก็บขวดกระเบื้องใบนั้นใส่ข้างเอวอีกครั้งอย่างโกรธเกรี้ยว กอดอกเอ่ยว่า “ได้ หมอหลวงเหมยปรุงมาหนึ่งปีก็ปรุงได้เพียงเท่านี้ ให้เจ้าหมดเลยข้ายังทำใจไม่ได้ แต่ว่าทุ่ยหาน…” เขากวาดตามองบาดแผลจากแส้บนข้อมือของจางตั๋วอีกครั้ง ลังเลอยู่ครู่หนึ่ง ยังคงลองเอ่ยถามหยั่งเชิงว่า “ต้าซือหม่า…เหตุใดจึงทำให้เจ้าอับอายอีกแล้ว”

ถ้วยชากระแทกโต๊ะ จางตั๋วประสานสายตากับจ้าวเชียนปราดหนึ่งอย่างไม่ตั้งใจ

“ไม่มีอะไร เขาเป็นเช่นนี้อยู่แล้ว”

“อ้อ”

เห็นว่าจ้าวเชียนยังไม่มีทีท่าจะจากไป เขาจึงตัดสินใจพูดต่อ “เช่นนี้ก็ดี แม้ว่าจะไม่ใช่พ่อลูกที่แท้จริง แต่ข้าก็ถือว่าได้ตัดเนื้อตอบแทนคืนให้ท่านพ่อแล้ว ถึงตอนนี้ข้าไม่ติดค้างหนี้สกุลจางแล้ว”

ลำคอของจ้าวเชียนรู้สึกเย็นเยือก ลิ้มรสได้ถึงความหมายในคำพูดนั้น เขานิ่งเงียบอยู่นาน พอเงยหน้าขึ้นจะอ้าปากถามอีกครั้ง คนตรงหน้าก็จากไป ทิ้งไว้แต่น้ำชาที่เย็นแล้ว

กำยานในเตาดับลง แต่กลิ่นหอมของไม้หอมชั้นเลิศยังคงอยู่ไม่จางหายเป็นเวลาเนิ่นนาน

Comments

comments

No tags for this post.
Continue Reading

More in ทดลองอ่าน

  • ซ่อนแผนร้ายชิงบัลลังก์รัก

    ทดลองอ่าน ซ่อนแผนร้ายชิงบัลลังก์รัก บทที่ 69-70

    By

    บทที่ 69 ทันทีที่เซี่ยวชิงเอ่ยประโยคนี้ออกมา โต้วหย่งก็เบิกตากว้างทันควัน “ดื่มสุรามากเกินไปจริงๆ หรือไร สตรีของเจ้านายใช่คนที่เจ้ามีสิทธิ์ส...

  • ทดลองอ่าน

    ทดลองอ่าน อุบายรักลิขิตเสน่หา บทที่ 2

    By

    บทที่ 2 จับพลัดจับผลู   ต่อจากเหตุการณ์โกลาหลในงานแต่ง เรื่องราวที่ซื่อจื่อของเฉากั๋วกงอาละวาดที่วัดเจวี๋ยเยวี่ยก็ถูกเล่าลือจนรู้กันทั่...

  • ทดลองอ่าน

    ทดลองอ่าน หยกเร้นชะตา บทที่ 48.1-48.3

    By

    บทที่ 48.1 สหายร่วมเรียนแห่งจวนจวิ้นอ๋อง ฮูหยินผู้เฒ่าฉู่ดูจะคาดไม่ถึงอย่างมาก “คุณหนูสี่กับคุณหนูห้าหรือ” “เจ้าค่ะ!” ฉู่จิ่นเหยาอดหันหน้าไป...

  • ทดลองอ่าน

    ทดลองอ่าน อุบายรักลิขิตเสน่หา บทที่ 1

    By

    บทที่ 1 โฉมงามล่มเมือง   เดือนสาม ดอกซิ่ง บานสะพรั่ง เรื่องขบขันใหญ่โตเรื่องหนึ่งแพร่กระจายไปทั่วเมืองหลวงในเวลาอันรวดเร็ว ภายในหอสุราร...

  • ทดลองอ่าน

    ทดลองอ่าน เรื่องราวของเรากับนาง บทนำ

    By

    บทนำ   ฤดูใบไม้ผลิหิมะตกในยามค่ำคืน ปลิวลงมาราวกับผงแป้งสีขาวโพลน บนคูน้ำที่ไหลเข้าเมืองลั่วหยางมีเกล็ดหิมะโปรยปราย ลมตะวันออกในช่วงพลบ...

  • ซ่อนแผนร้ายชิงบัลลังก์รัก

    ทดลองอ่าน ซ่อนแผนร้ายชิงบัลลังก์รัก บทที่ 9-10

    By

    บทที่ 9 หวังอวี้หล่างไม่นึกฝันว่าจะได้มาเจอกับองค์ชายรองที่นี่ เมื่อครู่นี้เขายังแสดงกิริยาเสียมารยาทอีกด้วย ในเวลานั้นจึงแอบประดักประเดิด เ...

  • จุติรัก พลิกชะตาร้าย

    ทดลองอ่าน จุติรัก พลิกชะตาร้าย บทที่ 132

    By

    บทที่ 132 หลบร้อน   ครั้นแลเห็นกู้หมิงเค่อ ทั้งที่หลี่เจาเกอแสนจะกระดากอายก็ยังต้องแสร้งทำทีสงบ ถามเขาไปว่า “ท่านกลับมาจากสกุลเผยแล้ว?”...

บทความยอดนิยม

everY

ทดลองอ่าน เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 Chapter 2.1-2.2 #นิยายวาย

ทดลองอ่าน เรื่อง เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 ผู้เขียน : MINTRAN แปลโดย : ทันบี ผลงานเรื่อง : 배타적 연애 금지구역 ถือเป็นลิขสิทธิ์...

ซ่อนแผนร้ายชิงบัลลังก์รัก

ทดลองอ่าน ซ่อนแผนร้ายชิงบัลลังก์รัก บทที่ 9-10

บทที่ 9 หวังอวี้หล่างไม่นึกฝันว่าจะได้มาเจอกับองค์ชายรองที่นี่ เมื่อครู่นี้เขายังแสดงกิริยาเสียมารยาทอีกด้วย ในเวลานั้นจ...

ซ่อนแผนร้ายชิงบัลลังก์รัก

ทดลองอ่าน ซ่อนแผนร้ายชิงบัลลังก์รัก บทที่ 7-8

บทที่ 7 อวี้ฉือเฟยเยี่ยนฝืนยิ้มเอ่ย “เซียวอ๋องเสด็จมาผิดเวลา โจ๊กในร้านขายหมดไปนานแล้วเพคะ” เซียวอ๋องติดกระดุมคอเสื้อ ริ...

ทดลองอ่าน

ทดลองอ่าน อุบายรักลิขิตเสน่หา บทที่ 1

บทที่ 1 โฉมงามล่มเมือง   เดือนสาม ดอกซิ่ง บานสะพรั่ง เรื่องขบขันใหญ่โตเรื่องหนึ่งแพร่กระจายไปทั่วเมืองหลวงในเวลาอัน...

ทดลองอ่าน

ทดลองอ่าน หยกเร้นชะตา บทที่ 4.1-4.2

บทที่ 4.1 ชี้แนะส่วนตัว “ยืดหลังตรง เชิดหน้าขึ้น อย่าก้มหน้า” ฉู่จิ่นเหยาทำตามคำชี้แนะของฉินอี๋ ฝึกหัดท่าทางยามคารวะอย่า...

community.jamsai.com