“คุณเป็นใคร…คะ” เธอเติมหางเสียงลงไปในวินาทีสุดท้าย ดวงตาสีรัตติกาลจ้องมองวงหน้าสวยคมไม่คุ้นเคยอย่างระแวดระวัง
ท่ามกลางข้อสงสัยนานัปการในหัว นั่นคือคำถามแรกที่จิรปริยาเลือกถามหลังจากที่คณะแพทย์พยาบาลออกจากห้องไปและยาแก้ปวดเริ่มทำงานของมัน สมองหญิงสาวยังไม่ค่อยแจ่มชัดนักแต่ความเจ็บปวดลดลง และตอนนี้เธอต้องการคำอธิบายจากใครสักคน
ซึ่งบังเอิญว่าตั้งแต่ตื่นขึ้นมา ข้างกายเธอมีเขาเพียงคนเดียว
ผู้ชายในชุดสีขาวตลอดทั้งร่างซึ่งช่วยขับเน้นให้เขาดูราวกับเทพเจ้าจากแดนสวรรค์เบิกตาสีอำพันกว้าง ความรู้สึกมากมายที่เธออ่านไม่ออกหมุนวนอยู่ในดวงตาคู่สวยก่อนเขาจะกดใบหน้าลง หลุบตามองพื้น และเมื่อเงยหน้าขึ้นมาประสานสายตากันอีกครั้ง อำพันลุ่มลึกคู่นั้นก็แฝงรอยร้าวขณะตั้งคำถามกลับ
“แดจำผมไม่ได้?”
เพื่อหาคำตอบให้เขา…และตัวเอง จิรปริยาสูดลมหายใจ รวบรวมความกล้ากวาดตามองสำรวจใบหน้าอีกฝ่ายอีกครั้ง โครงหน้าคม เครื่องหน้างดงาม องค์ประกอบทุกอย่างที่รับกันได้อย่างลงตัวชนิดที่หากเขาไม่เคยผ่านการศัลยกรรมมาก่อน เธอก็เชื่อเหลือเกินว่าผู้ชายคนนี้คงเป็นลูกรักของพระเจ้า ประติมากรรมชิ้นเยี่ยมที่พระองค์บรรจงสรรค์สร้างขึ้นอย่างประณีต
และหญิงสาวมั่นใจ…ถ้าหากว่าเคยเห็น เคยรู้จัก เธอจะต้องไม่มีวันลืมเขาได้แน่ๆ
ผู้ชายที่มีรูปลักษณ์ราวกับเดินออกมาจากสเป็กของเธอแบบนี้
สีหน้าเธอคงบอกคำตอบได้ชัดเจน เขาจึงผ่อนลมหายใจออกมา แววตาดูหนักอึ้ง ความเจ็บปวดที่เห็นเพียงเลือนรางปรากฏบนดวงหน้าสวยของชายหนุ่มราวเสี้ยววินาทีก่อนจะผ่านไป หลงเหลือไว้เพียงใบหน้าสงบนิ่งดวงหนึ่งซึ่งไม่อาจปกปิดแววร้าวรานในดวงตาได้
“สักนิด…ก็จำไม่ได้เลย?”
เธอรู้ว่าเขา ‘พยายาม’ ถามอย่างมีความหวัง จิรปริยารู้สึกผิดนิดๆ ขณะปฏิเสธด้วยสีหน้าจริงจัง
“ไม่ค่ะ”
ริมฝีปากเอ่ยคำตอบอย่างมั่นใจ ทว่าขณะนั้นเองในหัวกลับคล้ายมีเงาภาพบางอย่างพาดผ่านไปอย่างรวดเร็ว
เร็วจนเธอไล่ตามจับมันไม่ทัน และ…เริ่มลังเลในคำตอบ
เหมือนเขามองเห็นความลังเลในดวงตาสีดำสนิทคู่นั้น ผู้ชายที่จ้องหน้าเธอจึงคลี่ยิ้มบาง เอื้อมมือมาลูบเรือนผมยาวเบาๆ
“ไม่เป็นไร” เขาพึมพำ “บางทีแดอาจจะกำลังมึนๆ อยู่” หลังเอ่ยประโยคที่กระทั่งคนพูดยังไม่แน่ใจว่าใช้มันเพื่อปลอบใจคนที่ลืมกันไปแล้ว หรือ…ปลอบใจตัวเอง เขาก็แนะนำตัวด้วยความหวังว่าอาจจะทำให้เธอกลับมาจำได้ “ผมชื่อไทม์”
เขาชื่อ ‘ไทม์’
จิรปริยาจ้องดวงหน้าสวยคมนิ่ง พยายามนึกไล่ย้อนไปหาคนชื่อ ‘ไทม์’ สักคนในชีวิต แต่กลับว่างเปล่า…เธอหาเขาไม่พบ เดี๋ยว…
คิ้วเรียวสวยได้รูปโดยไม่ต้องพึ่งการแต่งเติมขมวดมุ่น ใบหน้าสะบัดนิดๆ เมื่อพบว่าแท้จริงแล้วคล้ายๆ ว่ามีภาพบางอย่าง…คนบางคน…อยู่ตรงปลายทางของความทรงจำ ซุกซ่อนอยู่เบื้องหลังกลุ่มหมอกควันสีขุ่นขมุกขมัวจนเธอเริ่มไม่มั่นใจว่าตกลงตัวเองรู้จักหรือไม่รู้จักเขากันแน่
ความลังเลบนดวงหน้าหวานซีดทำให้ผู้ชายที่มีชื่อตามกฎหมายว่า ‘นับนิรันดร์ ไทม์ เทวกาล’ ถอนหายใจ แววตาแสดงความปวดร้าวเยาะหยันให้กับบางสิ่งบางอย่าง ซึ่งก็คือโชคชะตาระหว่างเขากับเธอ
“โอเค ไม่เป็นไร” เขาพึมพำ หลุบตาลงต่ำครู่หนึ่งราวกับจะซ่อนความเจ็บปวดผิดหวังให้พ้นจากสายตาเธอ กระทั่งสามารถควบคุมสีหน้าแววตาได้ มือใหญ่จึงเอื้อมขึ้นไปประคองวงหน้าคนป่วยเอาไว้จนระยะห่างระหว่างทั้งคู่เหลือเพียงแค่ฝ่ามือกั้น และใช้ดวงตาสีอำพันคู่สวยจ้องลึกลงไปในดวงตาสีนิลคล้ายต้องการให้ความงามของมันร่ายมนตร์สะกดเธอไว้ เสียงนุ่มลึกเอ่ยแนะนำตัวอีกครั้ง
“ผมชื่อไทม์” เขาย้ำ ตามด้วยเน้นหนักถึงตำแหน่งของตัวเองในชีวิตอีกฝ่าย “เป็นสามีของแด”