บทที่ 4 คืนแรก
หญิงสาวพรูลมหายใจออกช้าๆ มือเรียวยกขึ้นซับหางตาที่มีหยาดน้ำใสเกาะอยู่ และบังเอิญเหลือเกินที่เมื่อลืมตาขึ้นมาเธอก็ได้สบตากับเขา…ผู้ชายซึ่งยืนกอดอกมองเธอเงียบๆ จากในห้องนอน
จิรปริยากลั้นลมหายใจ สายตาซึ่งรับรู้ได้ว่า ‘ดี’ กว่าแต่ก่อนมากมองเห็นวงหน้าสวยคมแต้มรอยยิ้มจาง หากสมองกลับเล่นย้อนภาพวันก่อนๆ
หลังจากพยายามนอนหลับให้นานที่สุดเพื่อจะกลับไปตื่นยังโลกของตัวเองอยู่หลายครั้ง หญิงสาวก็เริ่มตั้งสติยอมรับความจริงว่า ณ ตอนนี้เธออยู่ในร่างของตัวเองตอนอายุสามสิบสี่…อยู่ในวันเวลาที่ห่างกันไปสิบสองปี
เพื่อไม่ให้กลายเป็นคนบ้าในสายตาทุกคน หลังยอมรับความจริงได้สุดท้ายจิรปริยาก็เลือกที่จะทำเหมือนบรรดานางเอกนิยายที่วิญญาณลอยล่องทะลุมิติไปอยู่ในร่างคนอื่น คือยอมสวมบทผู้หญิงซึ่งประสบอุบัติเหตุจนสูญเสียความทรงจำโดยไม่ได้ออกอาการต่อต้านอะไรอีก ซึ่งอันที่จริงถือว่าเธอยังโชคดีกว่านางเอกพวกนั้นอยู่มาก เพราะร่างที่เธอเข้ามาอยู่คือตัวเองในช่วงเวลาอีกสิบสองปีข้างหน้า ซึ่งเท่าที่รู้มา…บรรดา ‘คนสำคัญ’ ในชีวิตของเธอยังอยู่กันพร้อมหน้าพร้อมตาอีกด้วย
ทว่า…การ ‘ยอมรับ’ ที่ว่าก็เป็นเพียงแค่การยอมรับภายนอกเท่านั้น เพราะลึกๆ ในใจแล้วจิรปริยายังมั่นใจว่าจิตวิญญาณที่อยู่ในร่างตอนนี้ไม่ใช่เธอในวัยสามสิบสี่ที่ความจำเสื่อม แต่เป็นเธอเมื่อสิบสองปีก่อนที่ ‘เผลอ’ ข้ามกาลเวลามาก็เท่านั้น
ซึ่งนั่นเป็นอีกปริศนาสำคัญว่าเพราะอะไรตัวเธอในวัยยี่สิบสองซึ่งจำได้แม่นยำว่าเข้านอนในคืนข้ามปีไปตามปกติ ไม่ได้เจอบุคคลประหลาด รับของปริศนา หรือว่าประสบอุบัติเหตุใดๆ จนอาจเป็นเหตุให้วิญญาณหลุดจากร่างเดินทางข้ามมายังอนาคต และที่สำคัญที่สุด…
กลีบปากอิ่มถูกขบแน่น หลุบตาหนีสายตาคมกริบคู่นั้นอย่างเชื่องช้า
วิญญาณของเธอในวัยสามสิบสี่ที่ตกจากบันไดหายไปไหนกัน เกิดปาฏิหาริย์ให้สลับกลับไปอยู่ในร่างยี่สิบสอง หรือว่า…
หญิงสาวสูดลมหายใจลึกเมื่อนึกถึงความน่าจะเป็นบางอย่าง หัวใจสั่นไหวด้วยความประหวั่นกลัวยิ่งกว่าตอนที่รู้ว่าตัวเองมาอยู่ในเวลาที่ห่างจากปัจจุบันถึงสิบสองปี
คงไม่ใช่ว่า…วิญญาณจริงๆ ของเธอในวัยสามสิบสี่ ‘ตาย’ ไปแล้วหรอกนะ!
นับนิรันดร์รู้ว่าตั้งแต่ตื่นขึ้นมาหลังอุบัติเหตุ ภรรยาของเขาก็ไม่ค่อยปกตินัก
นัยน์ตาคมกริบจ้องตรงไปยังหญิงสาวซึ่งอยู่ดีๆ ก็ยกมือขึ้นกุมหน้าอก ใบหน้าซีดขาว ขณะเขากำลังจะก้าวเข้าไปหาเธอ ร่างเล็กๆ ที่มีความคล้ายคลึงกับเขาก็วิ่งตัดผ่านหน้าไป
“หม่ามี้! หม่ามี้เป็นอะไรรึเปล่าฮะ!”
กันตกาลเอ่ยถามน้ำเสียงตกใจและนั่นคล้ายจะฉุดจิรปริยาให้หลุดจากภวังค์บางอย่าง ดวงตากลมโตกะพริบปริบ ริมฝีปากอิ่มแย้มรอยยิ้มขณะย่อตัวลงจนส่วนสูงเท่ากับลูกชาย ส่ายหน้าปฏิเสธ
“เปล่าค่ะ พะ…หม่ามี้ไม่ได้เป็นอะไร”