บทที่ 5 สามีของแดไง
ไฟในห้องดับไปนานแล้ว เหลือเพียงแสงสลัวจากโคมไฟนอกบ้านซึ่งส่องเข้ามาพอให้สายตาที่เคยชินกับความมืดมองเห็นสิ่งต่างๆ ได้อย่างไม่ยากเย็นนัก
จิรปริยาพลิกตัวเป็นครั้งที่สี่…หญิงสาวพยายามผ่อนลมหายใจออกให้เบาที่สุดเพื่อรบกวนคนข้างๆ ให้น้อยที่สุด แต่เธอรู้…ว่าเป็นไปได้ยาก
ดวงตากลมโตแหงนมองเพดานเล่นระดับอยู่นาน สุดท้ายก็ตัดสินใจขยับตัวเตรียมก้าวขาลงจากเตียง ทว่าขณะเท้าขวากำลังจะแตะพื้น เสียงจากคนที่เธอคิดว่าหลับไปนานแล้วก็ดังขึ้นจนร่างเพรียวสะดุ้งโหยง เผลอกระแทกเท้าลงพื้นจนร้องลั่น
“โอ๊ยยย!”
หญิงสาวกระตุกขากลับขึ้นมานอนกอดอยู่บนเตียง ใบหน้าหวานบิดเบ้ ริมฝีปากอิ่มส่งเสียงโอดโอยดูน่าสงสาร นั่นคือภาพที่นับนิรันดร์เห็นหลังจากไฟสว่างขึ้น หนุ่มหน้าสวยคว้าข้อเท้าของอีกฝ่ายซึ่งบาดเจ็บอยู่แต่แรกแล้วมาดูด้วยสีหน้าห่วงใย
“เจ็บมั้ยน่ะ”
“โอ๊ยยย ถามมาได้! ก็เจ็บน่ะสิ!” คนเจ็บแยกเขี้ยว มือยังคลำรอบข้อเท้าตัวเองป้อยๆ พลางส่งค้อนตาขุ่นให้คนที่เริ่มจะเปลี่ยนจากห่วงใยเป็นขำกับท่าทางของเธอ “ไม่ต้องมาขำเลย! ก็เพราะคุณนั่นแหละที่อยู่ดีๆ ก็พูดขึ้นมา”
ถ้าเขาไม่ส่งเสียงขึ้นในความมืด เธอจะตกใจจนเผลอลงทิ้งน้ำหนักลงเท้าขวาจนกระแทกพื้นไหมล่ะ!
“อ้าว ผมผิดซะงั้น” คนผิดโดยไม่รู้ตัวโคลงศีรษะ “ก็จะถามว่าแดจะไปไหน ขายิ่งไม่ค่อยดีอยู่แท้ๆ”
“ฉันไม่ได้ขาเป๋นะ!”
จิรปริยาไม่รู้จริงๆ ว่าเพราะเธอกำลังพาลหรืออย่างไร พอได้ยินคำว่า ‘ขายิ่งไม่ค่อยดี’ จึงจินตนาการไปว่าเขากำลังว่าเธอขาเป๋! เลยอดไม่ได้จะเชิดปากแว้ดเสียงแหลม
“ก็ไม่ได้ว่าเป๋มั้ยล่ะ” นับนิรันดร์กะพริบตาปริบ มองอาการของภรรยาครู่หนึ่งก่อนจะหัวเราะออกมา เริ่มรู้ว่าเธอกำลังพาลจึงไม่ใส่ใจ เปลี่ยนไปถามเรื่องอื่น
“แล้วจะไปไหน ไปห้องน้ำอีกแล้วเหรอ”
“รู้ได้ไงเนี่ย” หญิงสาวเบิกตากว้าง ก่อนจะนึกได้ว่าถ้านับนิรันดร์ไม่ได้หลับเขาคงรู้ว่านี่ไม่ใช่ครั้งแรกหลังดับไฟที่เธอจะลุกไปเข้าห้องน้ำ
“ครั้งที่สี่แล้วนี่”
โอเค เขาไม่ได้หลับจริงๆ ด้วย