“คนเลว!” ข้าเห็นว่าไร้หนทางหนี จึงร้องด่าออกไปคำหนึ่งแล้วพลิกตัวกระโจนเข้าไปเตรียมจะสู้ตายกับเขา คิดไม่ถึงว่าร่างเพิ่งทะยานขึ้น เทพปี้ชิงก็ขยับมือเล็กน้อย แส้หนังคล้ายดั่งมีชีวิต ตรงเข้าพันรัดแขนขาทั้งสี่ของข้า มัดไว้อย่างแน่นหนาแล้วดึงเข้าไปถึงข้างกายเขา
“พลังปีศาจของเจ้าแม้จะกล้าแข็ง…แต่พลังในการควบคุมแย่มาก กอปรกับอากัปกิริยาคำพูดคำจาออกจะ…ทำให้ข้าเข้าใจว่าเจ้าเป็นปีศาจเยาว์วัยที่สติปัญญาดีเลิศเป็นพิเศษ…” เทพปี้ชิงไม่รู้กำลังอธิบายอะไร
ข้าพยายามต่อสู้กับแส้หนัง นึกไม่ถึงว่ายิ่งดิ้นรนกลับยิ่งถูกรัดแน่น แทบจะถูกมัดเป็นขนมจ้างไปแล้ว ทำให้ข้าไม่อาจขยับเนื้อตัวได้ ตรงหน้าอกก็เจ็บมาก
“เจ็บยิ่งนัก…” ข้าบิดตัวไปมาอย่างไม่ยอมแพ้ เลื้อยขยุกขยิกราวกับงูไปที่หน้าประตู เพียงคิดจะไปให้พ้นจากบุรุษที่น่ากลัวผู้นี้
เทพปี้ชิงกลับขวางข้าไว้ บนใบหน้าของเขามีริ้วแดงประหลาดผุดขึ้นมาแวบหนึ่ง จากนั้นก็กลับคืนสู่ปกติ “สภาพของเจ้าในตอนนี้ไม่อาจออกไปข้างนอกได้เด็ดขาด รอให้ข้าไปเอาเสื้อผ้ามาให้เจ้าก่อน”
เด็กรับใช้กับสาวใช้ที่อยู่นอกประตูได้ยินเสียงโครมครามจากข้างใน ในที่สุดก็อดร้องถามขึ้นไม่ได้ “ท่านเทพ ท่านเป็นอะไรหรือไม่”
ข้าได้ยินว่าข้างนอกมีคนอยู่ รีบตะโกนขอความช่วยเหลือทันที “ช่วยด้วย! ช่วยด้วย!”
“ห้ามเข้ามา!” เทพปี้ชิงเอามือปิดปากข้าไว้ ตะโกนบอกด้านนอกอย่างสุขุมเยือกเย็น “พวกเจ้าไม่ต้องยุ่ง!”
คนที่อยู่ข้างนอกเงียบเสียงลงทันที
“อือๆ…” ข้าพยายามส่งเสียงร้องต่อไป เขากลับโอบเอวข้าอุ้มขึ้นมาด้วยท่าทีลุกลี้ลุกลนเล็กน้อย จากนั้นก็เดินไปที่ข้างโต๊ะ ดึงผ้าปูโต๊ะออกมาห่อตัวข้าไว้ราวกับห่อสิ่งของแล้วแบกขึ้นบ่า เขาดูลังเลอยู่ชั่วขณะ ก่อนจะเดินออกประตูไปด้วยสีหน้าไม่แปรเปลี่ยน…
เด็กรับใช้กับสาวใช้ที่อยู่ด้านนอกเห็นเขาแบกข้าที่ถูกมัดไว้อย่างแน่นหนาออกไป ต่างก็ตกใจยืนงงอยู่กับที่ สายตาที่มองมาเต็มไปด้วยความประหลาดใจ ฉงนสนเท่ห์และมีเลศนัย…ข้าคิดว่าพวกเขาคงกำลังรู้สึกเห็นใจแมวที่ถูกคนชั่วทรมานกระมัง…
ฝีเท้าของเทพปี้ชิงรวดเร็วประดุจเหาะ เขาไม่ได้อ้อมไปไกล แต่เดินตรงไปยังห้องที่กว้างมากห้องหนึ่ง ในห้องประดับตกแต่งอย่างเรียบง่าย ตรงกลางมีเตียงไม้จันทน์หอมสีแดงแกะลวดลายหลังใหญ่ ปูที่นอนใยฝ้ายไว้เต็มเตียง และมีโต๊ะแปดเซียน พร้อมเก้าอี้ที่ทำจากเนื้อไม้ชนิดเดียวกัน รอบด้านมีชั้นวางหนังสือตั้งอยู่เต็มไปหมด มีหนังสือตำรับตำราหลากประเภทวางเรียงราย บนผนังยังมีกระดาษที่มีตัวอักษรขยุกขยิกเหมือนยันต์กันผีแขวนอยู่หลายแผ่น ไม่รู้ใช่ที่เขาเรียกกันว่าศิลปะพู่กันหรือไม่