กลับไปถึงวังเสวียนชิง สาวใช้ทั้งหลายได้จัดเตรียมห้องไว้ให้ข้าเรียบร้อยแล้ว ข้ารีบลงนอนบนเตียง กลิ้งไปกลิ้งมาอยู่หลายรอบ ข้าหงุดหงิดเมื่อพบว่าเตียงหลังนี้ดูเหมือนจะใหญ่สู้เตียงของเทพปี้ชิงไม่ได้…ทั้งไม่นุ่มเหมือนเตียงของเขา…การค้นพบนี้ทำให้ข้าออกจะไม่พอใจ
ทว่าเมื่อนึกถึงว่าอีกประเดี๋ยวจะได้กินปลาหลี่ ก็ทำให้ข้าสะกดกลั้นความไม่พอใจนี้เอาไว้ในใจชั่วคราว หลังจากโม่หลินได้กรอกยาน้ำแปลกประหลาดกินยากให้ข้ากินไปหลายขนาน เวลานี้ดูเหมือนทั่วร่างจะไม่ได้รู้สึกไม่สบายเช่นก่อนหน้านี้แล้ว เพียงแต่ท้องหิวมาก หิวจนข้านอนไม่หลับ
ข้าจึงกลายร่างเป็นมนุษย์ พบว่าเสื้อผ้าที่เดิมเปียกชุ่มบนร่างได้เปลี่ยนออกไปแล้ว ที่สวมใส่อยู่ตอนนี้เป็นชุดผ้าฝ้ายที่ปักลวดลายประณีตงดงาม นอกจากไม่อาจยื่นหางออกไปได้แล้ว ส่วนอื่นๆ ล้วนสวมใส่สบาย
วิ่งไปดูอาหารที่อยู่บนโต๊ะ ไม่ใช่ส้มก็เป็นลูกท้อ ไม่ก็ผิงกั่ว อะไรพวกนั้น ไม่มีอาหารที่ข้ากินได้แม้แต่อย่างเดียว ข้าที่กำลังเบื่อหน่ายจึงหยิบผิงกั่วลูกหนึ่งมากลิ้งเล่นกับพื้น เล่นไปก็ตั้งหูรอการมาถึงของปลาหลี่
เมื่อได้ยินเสียงฝีเท้าม้าดังมาจากหน้าประตูใหญ่ ข้าก็วิ่งออกประตูมาอย่างรวดเร็ว กลับเจอเทพปี้ชิงกำลังมาเรียกข้าให้ไปที่ห้องโถง ครั้นแล้วข้าก็กระโดดโลดเต้นตามฝีเท้าของเขาไป
คิดไม่ถึงว่าในห้องโถงกลับไม่เห็นปลาหลี่อย่างที่ข้าคิดไว้ หากแต่มีหญิงสาวชุดสีแดงคนหนึ่งยืนอยู่ ผิวพรรณของนางนวลเนียนเกลี้ยงเกลา คิ้วดำงามดุจทิวเขา ดวงตากระจ่างสุกใสดุจผิวน้ำในฤดูใบไม้ร่วง เส้นผมดำดกหนาเกล้าเป็นมวยสูง ปักปิ่นมุกไว้เอียงๆ ยามหันหน้ามองทางโน้นทางนี้ดูมีจริตจะก้าน กอปรกับเรือนร่างอวบอิ่มกลมกลึงถูกห่อหุ้มด้วยผ้าโปร่งสีแดงทั้งชุด ทำให้ยิ่งดูงามเย้ายวนใจ เรียกได้ว่าเป็นหญิงงามผู้หนึ่ง
นางเห็นเทพปี้ชิงเดินเข้ามาก็รีบคุกเข่าก้มลงหมอบ เป็นการคารวะเต็มรูปแบบที่งดงาม แล้วเอ่ยเสียงนุ่มนวล “บ่าวจิ่นเหวิน กราบคารวะเทพปี้ชิง”
“ราชันมังกรให้เจ้ามาหรือ” เทพปี้ชิงสีหน้าเย็นชาเช่นปกติ
เด็กหนุ่มชุดดำที่อยู่ด้านข้าง เขาถูกท่วงทีของหญิงงามบดบังจนไม่เป็นที่เตะตาได้ก้าวออกมาทำความเคารพแล้วกล่าวขึ้น “ข้าน้อยวั่งโยวเป็นเซียนเต่า รับบัญชาจากองค์ชายสามแห่งวังมังกร ให้ส่งจิ่นเหวินเซียนปลาหลี่มาที่วังท่านเทพ ท่านเทพได้โปรดรับไว้”
จิ่นเหวินชายหางตามอง ส่งแววตาหวานหยาดเยิ้มมาให้เทพปี้ชิงอีกครั้ง จากนั้นก็ก้มหน้าลงไม่พูดอะไร ทว่าแววตาขวยอายแฝงความนัย
“อืม ก็ได้” เทพปี้ชิงครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วหันหน้ามาถามข้า “เจ้าชอบกินแบบต้มหรือทอด”
“ต้มอะไร” ข้าไม่เข้าใจความหมายของเขา
“ปลาหลี่ เจ้าชอบเอามาทำอะไรกิน ข้าจะได้ให้พ่อครัวไปทำ” เทพปี้ชิงลูบศีรษะข้าแล้วถามอีกครั้ง
ข้าตอบอย่างรวดเร็ว “เอาไปทอด!”
“ใครอยู่ข้างนอกเข้ามา ไปจัดเตรียมกระทะน้ำมัน!” เทพปี้ชิงเรียกคนมาทันทีแล้วเอ่ยเสริมขึ้น “ใบใหญ่หน่อย”
จิ่นเหวินยืนอยู่ด้านล่าง ถูกบทสนทนาของพวกเราทำให้ตกใจก้นกระแทกลงไปนั่งกับพื้น ไม่อาจลุกขึ้นมาได้อีก ได้แต่ร้องไห้จนกลายเป็นมนุษย์เจ้าน้ำตา สะอึกสะอื้นวิงวอนขอความเมตตาไม่หยุดปาก